เตือนคนไทยเสี่ยงรับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
องค์การอนามัยโลก ระบุใช้มือถือมากเสี่ยงเป็นมะเร็งในสมอง ใช้บลูทูธและหูฟังช่วยได้
เมื่อวันนี้ (3 ส.ค.) นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) เปิดเผยว่า เมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา IARC หรือ International Agency for Research on Cancer ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งขององค์การอนามัยโลก ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการ ที่ให้เหตุผลของการจัดให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นปัจจัยก่อมะเร็งประเภท 2B หรือเป็นไปได้ที่จะก่อมะเร็ง และนอกจากจะเป็นการยืนยันว่า การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่มีความเสี่ยงกับการเป็นมะเร็งแล้วยังพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า การใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรี ระบบบลูทูธจะทำให้ผู้ใช้ได้รับพลังงานจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต่ำกว่าการใช้ผ่านเครื่องโทรศัพท์มือถือโดยตรงถึง 100 เท่า และการใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรีแบบมีสาย หรือหูฟังจะช่วยลดการได้รับพลังงานที่สมองลงประมาณร้อยละ 10 แต่การใช้ทั้งสองประเภทไม่ควรเกี่ยวไว้ที่หูตลอดเวลาเมื่อไม่ได้ใช้งาน และผลการรายงานยังพบว่า เครื่องโทรศัพท์ 3G ปล่อยพลังงานน้อยกว่าโทรศัพท์ GSM เฉลี่ยประมาณ 100 เท่า
“รายงานดังกล่าวยังระบุว่า การถือโทรศัพท์แนบหูทำให้เกิดการดูดซับพลังงานที่สมอง ซึ่งปริมาณการดูดซับขึ้นอยู่กับการออกแบบตัวเครื่องและเสาอากาศ ลักษณะการใช้ และระดับสัญญาณระหว่างตัวเครื่องและสถานีฐาน ที่สำคัญคือ สมองเด็กจะได้รับคลื่นมากกว่าผู้ใหญ่ 2 เท่า และไขกระดูกของกะโหลกศีรษะเด็กจะได้รับคลื่นมากกว่าผู้ใหญ่ 10 เท่า นอกจากนี้ผลการศึกษายังพบว่า กลุ่มที่ใช้โทรศัพท์มากกว่า 1,640 ชั่วโมงจะมีความเสี่ยงมากขึ้นต่อการเป็นมะเร็งสมองชนิด Glioma หรือเนื้องอกในสมอง ข้างเดียวกับที่ใช้โทรศัพท์ ซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับคลื่นสูงที่สุด “ ผอ.สบท.กล่าว
นายประวิทย์ กล่าวต่อไปว่า จากรายงานดังกล่าวผนวกกับผลสำรวจของสบท.ร่วมกับ มหาวิทยาลัยอัญสัมชัญหรือเอแบคโพล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่าคนไทยมีพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการได้รับคลื่นสัญญาณที่นอกจากการใช้งานคือพบว่า ร้อยละ 64.5 นิยมวางโทรศัพท์เคลื่อนที่ไว้ที่หัวเตียงพร้อมกับเปิดเครื่องไว้ในเวลานอน ร้อยละ 41.6 ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง หรือกระเป๋ากระโปรง และร้อยละ 23.7 นิยมใส่ไว้ในกระเป๋าพกพา ดังนั้นจากข้อมูลที่พบ หากไม่ใช้ควรไว้ให้ห่างตัวโดยเฉพาะศีรษะ โดยไม่ควรวางไว้ที่หัวเตียงและเปิดเครื่องทิ้งไว้ เพื่อลดความเสี่ยงของการได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น
ผอ.สบท.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ในปี 2544 ประเด็นเรื่องคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้เคยเป็นกระทู้ในรัฐสภาของไทยและกระทรวงสาธารณสุขโดย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรมช.สาธารณสุข ได้ตอบกระทู้ตอนหนึ่งว่า ได้เคยประชาสัมพันธ์แนะนำเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ประชาชนระมัดระวังไว้ 3 ประการคือ 1.ให้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เท่าที่จำเป็น 2.ไม่ควรใช้โทรศัพท์ในรถยนต์หรือขณะขับรถ และ3.เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือ