นอก จากกระแสการทำ “ศัลยกรรมฟีเวอร์” ในฟากเพศหญิงไทย (และทั่วโลก) จะเป็นเรื่องปกติและได้รับการยอมรับกันมากขึ้นแล้ว บรรดาเพศชาย (ทั้งชายแท้-เทียม) ก็แห่กันไปใช้บริการศัลยกรรมเปลี่ยนหน้ากันเพิ่มจำนว นมหาศาลอีกด้วย
ใน ยุคที่ “หล่อ” ด้วยการ “เหลา” นั้น น่าภูมิใจขนาดที่ว่า หนุ่มหลายคนถ่ายรูปขั้นตอนก่อน-หลังทำศัลยกรรมอัพโหลดโชว์กันตามเว็บไซ ต์ต่างๆ มากมาย และรูปภาพความหล่อขั้นเทพหลากแอ็คชั่นที่เสียเงินไปศ ัลยกรรมของหนุ่มหลายก็ กลายเป็นรูปภาพที่มีสาวๆ เข้าไปคอมเมนต์ชมชอบกันมากมายซะอย่างนั้น
คลั่งไคล้ชื่นชมโดยไม่สนใจว่า “หนุ่ม” เหล่านี้ หล่อ “ศัลยกรรม” ไม่ใช่ “ธรรมชาติ”...???
ไทย รัฐออนไลน์ไปโพสต์ข้อความ ขอสัมภาษณ์หนึ่งในหนุ่มรูปงามที่มีรูปหล่อขั้นเทพ ไปปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ชื่อดังมากมาย เขายินดีแบบไม่มีข้อแม้ ยอมให้เปิดแม้กระทั่งให้เปิดชื่อ -นามสกุลจริง แต่ขอละชื่อ-สกุลเอาไว้ในฐานที่เข้าใจ ทำนอง “เซฟ” กันและกันเอาไว้ดีกว่า...!
หนุ่มหล่อยินดีไม่มีปัญหา นี่คือการเปลือยชีวิตหนุ่มสุดฮอตวัย 17 ปี จาก จ.เชียงใหม่ ที่ตกอยู่ในโลกศัลยกรรม ทั้งเบื้องหน้า-หลัง การทำศัลยกรรม 2 ปี 16 ครั้ง ที่คุณฟังแล้วอาจจะ “ขยาด” หรือ “อยาก” จะทำศัลยกรรมเลยทีเดียว
ขี้เหร่ อุบาทว์ มาตั้งแต่เกิด..?
“ตั้งแต่ จำความได้ผมก็รู้สึกว่าหน้าตาผมห่วย และกลายเป็นปมด้อยที่โดนคนรอบข้างล้อมาตั้งแต่เด็กๆ” หนุ่มวัย 17 ปี ที่ปัจจุบันเรียกได้เต็มปากว่าหล่อขั้นเทพด้วยศัลยกร รม พาย้อนเวลากลับไปตั้งแต่จำความได้ว่าตอนนั้นเขาขี้เห ร่ขั้นเทพ อุบาทว์ชนิด โครงหน้า รูปปาก คิ้ว คาง ย่ำแย่ แถมตัวดำ ดั้งก็ยังไม่มีอีก...!
“มัน เป็นปมด้อยเพื่อนๆ มักจะล้อเราเรื่องหน้าตาทุกวันๆ ทำให้ผมเครียดนอนไม่หลับ ใคร่ครวญมีอะไรที่จะทำให้เราหล่อได้เร็วๆ บ้างไหม คิดทุกวัน (เน้นเสียง) คิดร้อยแปดสิบองศาก็ไม่เห็นว่ามีทางอื่นนอกจากการใช้ การศัลยกรรม หลังจากเข้าไปศึกษาข้อมูลตามเว็บไซต์ว่า คลินิก-หมอที่ไหนเก่งและเด่นเปลี่ยนส่วนไหนของใบหน้า และเก็บเงินอยู่นานจนครบเมื่อตอนอายุ 15 ปี (ปัจจุบันเขาเรียนด้านคอมฯ และหาเงินได้จากการทำงานเป็นเว็บมาสเตอร์ให้เว็บไซต์ ดัง และเป็นเจ้าของเว็บ Bit Torrent ด้วย) จึงตัดสินใจว่าจะไปทำศัลยกรรมทันที” หนุ่มจอมศัลยกรรมกล่าว
มีเงินซื้อได้ทุกอย่าง...?
เมื่อ เงิน พร้อม-ข้อมูลและความอยากพร้อมชนิดล้นปรี่ แต่ก็ใช่ว่าจะได้ใบหน้าใหม่ให้หล่อเหลาได้อย่างใจ เพราะวันที่เดินไปคลินิกศัลยกรรม (เขาทำจมูกเป็นอันดับแรก) ในจังหวัดเชียงใหม่ อภิรักษ์อายุเพียง 15 ปี อายุแค่นี้หมอมีจรรยาบรรณที่ไหนเขาจะทำศัลยกรรมให้
ก็มีที่ เชียงใหม่ไง!!!... หนุ่มหน้าพลาสติกหัวเราะเสียงดัง แต่แรกๆ ก็ยอมรับว่าเกร็งว่าจะออกมายังไง เพราะเรายังอายุน้อยมากๆ หมอเขาจะทำศัลยกรรมให้ไหม
“พอไปถึงผิดคาด (หัวเราะ) เขาทำให้ทันที มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าแค่ไปซื้ออาหารมากิน คือ แค่จ่ายตังค์ สั่งหมอ ขึ้นเขียง เราก็ได้จมูกใหม่กลับบ้านมาพ่อแม่ถามผมว่าไปทำอะไรมา หน้าบวมๆ บอกว่ายังไงรู้ไหม...? บอกว่าไปโดนผึ้งต่อยมา (หัวเราะ) นอนรอจนหน้าหายบวมอยู่ 2-3 วัน แต่ที่สุดแล้วพ่อ-แม่ก็ดูออกว่าไปทำจมูกมา” หนุ่มเชียงใหม่ เล่าไปยิ้มไปและย้ำว่าหลังจากนั้นเป็นต้นมาใบหน้าเขา ผ่านการทำศัลยกรรมจาก “คลินิก” ที่ จ.เชียงใหม่มาเกือบ 10 แห่ง
ไม่ มีการซักประวัติ ไม่มีผู้ปกครองมาเซ็นชื่อยินยอม เพราะอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่มีจิตแพทย์มาสอบประวัติ หรือ แนะนำ...? - เราสงสัย
“ไม่มีครับ (ตอบเร็ว) ครั้งแรกก็เป็นกังวลเรื่องเหล่านี้ แต่ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเราเข้าไปทำที่คลินิก ก็เลยไม่ซักอะไรมากมาก หลังจากผ่านด่านแรกไปอย่างง่ายดาย” เขาเปรียบว่า ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
หลัง จากครั้งแรกผ่านการผ่าไปแล้ว ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น อภิรักษ์บอกว่าหลังจากนั้นเขาแก้ไขความหล่อแบบพลาสติ กมาเรื่อย ไม่ว่าจะเป็นการทำๆ แก้ๆ ดั้งจมูกมา 2 รอบ เสริมคางอีกไม่ต่ำกว่า 2 รอบ กรีดริมฝีปากให้บางอีก 1 รอบ เหลากรามให้เรียวสวยงามอีก 1 รอบ
“ส่วน อื่นๆ ก็จะเป็นพวกสารเติมแต่งใบหน้า พวกโบท็อกซ์ ทำให้หน้าเข้ารูป คือ ถ้าอยากยิ้มให้ดูแก้มเด็กก็จะมีการฉีดเข้าไปตรงแก้ม หรือ อย่างกราม ถ้าใหญ่เกิน ก็จะมีการฉีดสลายเนื้อให้ยุบลง”
ศัลยกรรม ความเจ็บที่ไม่ต้องจดก็จำไปจนตาย...!
ข้าง ต้นเล่าไปเหมือนสนุก ทว่าอภิรักษ์ย้ำว่า ที่เล่าชนิดเน้นผลลัพท์มันอาจจะดูง่ายชนิดดีดนิ้วแล้ วหน้าเปลี่ยน แต่ความจริงแล้วมันต้องผ่านความเจ็บแบบแสนสาหัสจากกา รศัลยกรรมมากมาย
“อย่าง เรื่องเหลากราม เป็นการทำศัลยกรรมที่ผมจะไม่มีวันลืม (เน้นเสียง- ที่จริงเขาบอกว่าเจ็บปวดทรมานแทบทุกส่วนที่ศัลยกรรม) คือหมอเขาจะเปิดแผลใต้คาง พร้อมกับไล่เลาะไปด้านข้าง เหมือนมีอะไรมาขูดตรงกรามเราเสียงดังและเจ็บมาก (เน้นเสียง) แม้หมอจะฉีดยาคลายความกังวลให้ แต่เราก็ยังจำความรู้สึกแบบนั้นได้ดี หรืออย่างการทำจมูก มันก็ไม่ได้ง่าย เพราะตอนแรกเราทำแบบไม่มีต้นแบบ ทำมาแล้วต้องไปแก้ โดยครั้งที่ 2 ผมบอกเขาจัดว่าเอาจมูกแบบโดม-ปกรณ์ ลัม เอารูปพี่โดมไปให้แพทย์ แต่เนื่องจากเนื้อจมูกเรามีน้อย ไม่สามารถดึงออกมาได้โด่งเท่าโดม จมูกก็เลยต่ำกว่าโดมหน่อยแต่ทรงเดียวกัน”
ส่วน ผิวพรรณจากอดีตที่เคย “ดำด้าน” ดำเหมือนถ่าน อภิรักษ์ก็ใช้วิธีฉีดวิตามินที่ทำให้ผิวกระจ่างใส และทำผิวหน้าเลเซอร์ที่ใบหน้า พร้อมทั้งศึกษาเกี่ยวกับวิธีเพิ่มความสูง จนตอนนี้ส่วนสูง 180 เซนติเมตรโดยธรรมชาติ
“สิ่งที่ไม่ต้องศัลยกรรมในร่างกายผมก็คือส่วนสูงเท่า นั้นครับ” หนุ่มสุดฮอตหัวเราะลั่น
ความคุ้มค่า ผล-เสีย ศัลยกรรม…?
กล่าวสำหรับราคาการ "อัพหน้า" เพื่อหล่อเหลาราวกับ 'ยกเครื่องใหม่' ถือว่าไม่ใช่เรื่องราวเล่นๆ
อภิรักษ์ บอกว่า คร่าวๆก็ทำจมูกครั้งแรก 15,000 บาท ครั้งที่สอง 22,000 บาท ทำคางครั้งแรก 16,000 บาท ครั้งที่สอง 25,000 ทำปากราคาถูกหน่อย เพราะทำเว็บให้กับทางคลินิก และเหลากราม 25,000 บาท เป็นต้น รวมการทำศัลยกรรมทั้งหมดก็ราว 16 ครั้ง ณ วันนี้ เป็นเงินเท่าไหร่ลองคิดดูเอาเอง
“ส่วน ตัวมองในเรื่องชีวิต คิดว่าคุ้มค่า เพราะหลังจากการทำ ชีวิตเปลี่ยนไปมาก มั่นใจขึ้น เวลาทำอะไรก็ตาม จะเป็นที่ยอมรับ จากเดิมที่เป็นคนขี้อายพูดน้อยตอนนี้ก็มีความมั่นใจเ พิ่มขึ้น สมัยก่อนไปจีบสาวแล้วรู้สึกอายๆ แต่ตอนนี้หากต้องการคุยกับคนนี้ ก็สามารถเข้าไปทักแล้วคุยได้เลย หลายคนก็เขามาคุยกับเราแบบปลื้มๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้หน้าตาทำให้มีความมั่นใจสูงขึ้นเป็นสิบเท่า”
นอก จากทั้งหมดที่กล่าวมานี้ อนาคตเขายังวางแผนเอาไว้ว่า จะจัดฟันให้เรียงสวย ส่วนปัญหาใหญ่เรื่องรูปหน้าที่อาจจะเปลี่ยนไปตามวัยท ี่ต้องเผชิญนั้น เขาบอกว่าได้คิดไว้แล้ว จึงปรึกษากับหมอเรื่องกะโหลกศีรษะของเด็ก หมอบอกว่าสักอายุ 16-17 ปี กะโหลกจะอยู่เท่านั้น ส่วนที่เปลี่ยนแปลงจะเป็นส่วนของเนื้อเยื่อ เพราะคนเอเชียหรือเกาหลีที่ทำกัน ก็ทำตั้งแต่อายุ 17-18 ปีเหมือนกัน อย่างจมูก ถ้าอายุมากขึ้นก็ใช่ว่าจมูกจะโด่งขึ้น
“เรื่อง แก่เรื่อง เ***่ยวเป็นธรรมดาของมนุษย์ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะศัลยกรรมดึงหน้าไหม อย่างบางคนอายุ 60 มาดึงหน้าจนอยู่ที่ 30 กว่า หน้าจะไม่มีรอยย่นเลยมีคนสงสัยว่าผมเป็นเพศที่ 3 หรือไม่เห็นทำศัลยกรรมมากมายแบบนี้ ยืนยันตรงนี้ว่าตนเป็นผู้ชายแน่นอน วันนี้ก็มีแฟนผู้หญิงเป็นตัวเป็นต้น แม้จะมีสาวเข้ามาหามากมาย แต่ก็ไม่ได้ให้ความใกล้ชิดแต่อย่างใด”
เสพติดศัลยกรรมทำดีได้ดีตลอดไปจริงเหรอ …?
ท้าย ที่สุด หนุ่มจอมศัลยกรรมวัย 17 ปี ได้ฝากถึงผู้ที่คิดจะทำศัลยกรรมว่า การทำศัลยกรรมต้องศึกษาให้ดี เพราะหมอแต่ละคนมีฝีมือในแต่ละส่วนที่แตกต่างกัน บางคนทำออกมาไม่ได้จะดูดีขึ้นเสมอไป เราจึงต้องศึกษาให้ดี และคิดตรึกตรองให้ถี่ถ้วน
“ที่ ผมพูดมาทั้งหมดไม่ใช่ว่าจะสนับสนุน เพราะการทำศัลยกรรมมันมีข้อเสียมากมาย มีเรื่องชกต่อยหรือทำอะไรเสี่ยงๆ กับการกระแทกบนใบหน้าไม่ได้ทั้งนั้น เพราะอะไรแข็งๆ มาโดนหน้ามันจะพัง อย่างไรก็ดีสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หลายคนติดศัลยกรรมออกมาไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ไม่มั่นใจถึงกับไม่กล้าออกไปพบเจอผู้คน แต่ผมอาจจะโชคดีกว่า แต่อย่างไรก็ดี หน้าศัลยกรรมแบบนี้ เราต้องดูแลตัวเองให้มากๆ โดยเฉพาะะเรื่องอุบัติเหตุ ขับรถพลาดจนส่งผลให้ส่วนที่ทำศัลยกรรมเกิดความเปลี่ย นแปลง”
โดย ส่วน ตัวตนเองว่า มันลำบากตอนการพักฟื้น เช่น หลังทำแก้คางครั้งที่ 2 ต้องเหลาไปด้านข้างของบริเวณคาง และมีการเลาะเนื้อออกจากกระดูกและเย็บใหม่ คืนแรกที่นอนก็ดิ้นเลย ส่วนปากรับประทานอาหารไม่ได้ประมาณ 7 วันหลังทำปากบาง ต้องตักอาหารใส่เบาๆ น้ำก็ดูดไม่ได้ต้องเทเข้าไป ทำอย่างนี้จนหายบวมจึงจะกินได้ปกติ ซึ่งทรมานมากแบบไม่มีวันลืม
อภิรักษ์ ยังทิ้งท้ายด้วยว่า หากตอนนั้นไม่ทำศัลยกรรม ชีวิตจะไม่เป็นอย่างวันนี้, แต่สิ่งที่แน่นอนกว่าก็คือ คนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการทำศัลยกรรมก็มีมากกว่าค นที่ทำแล้วดี..! แต่ "ดี" ในวันนี้แล้ววันข้างหน้าละใครจะรู้…?
Twitter : raydo_thairath