คิดอะไรอยุ่? ทอมอยากได้ตุ๊ดเป็นเมีย
สวัสดีค่ะ ดร.โรเบิร์ตที่นับถือ
หนูอ่านหนังสือ “แปลกทะลุ โลก” เป็นประจำ 5-6 ปี แล้วเห็นจะได้ชอบ คอลัมน์ ดร.โรเบิร์ตมาก หน้าอื่น ๆ ก็ชอบ อ่านทุกหน้าเลยแต่ขอตินิดเดียว มีคำผิดเยอะมาก บางทีอ่านแทบไม่รู้เรื่อง กรุณาแก้ไขด้วย
หนูมีปัญหาชีวิตขอเรียนถาม ดร.โรเบิร์ต เหตุการณ์เกิดขึ้นกับหนูเลยเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง เขาบอกว่า ขำกลิ้งไม่น่าจะเกิดขึ้นกับคน สวย ๆ อย่างหนู (เพื่อน ผู้ชายชอบชม หนูว่าสวยและแหล) อาจเป็นไปได้ว่าบุคลิกภาพหนูเป็นคนขี้เล่น มีอารมณ์สนุกสนานอยู่เสมอแต่เพื่อน บางคนก็ว่าหนูเข้าที่ไหนวงแตกที่นั่น เอาเป็นว่าหนูมีทั้งดีและไม่ดีก็แล้วกัน
หนูอายุ 27 ปีแล้วคะ ทำงานในบริษัทมั่นคงแห่งหนึ่ง เคยมีแฟนเราเป็นคู่กิ๊กกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยความ สัมพันธ์ มีแค่กอดจูบ ไม่เคยลึกล้ำไปกว่านี้ คบหาดูใจกันมา 7-8 ปี ก็วางแผนแต่งงาน โดยคิดว่าทุกอย่างลงตัวแน่นอน แล้วไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่ออย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย คนรักของหนูแจกการ์ดแต่งงานของเขากับผู้หญิงอื่นเฉยเลยมิหนำซ้ำเขียนไว้มุม ซองว่า “นี่ไม่ใช่การล้อเล่น”
ผู้หญิงที่แฟนแต่งงานด้วย ไม่ใช่ ใครที่ไหนก็เพื่อนของหนูเองเดิมนั้นทำหน้าที่เป็นแม่สื่อแม่ชัก ให้หนูกับอดีตแฟนได้สมรักสมรสกัน แต่เกิดการพลิกกลับ พลิกขั้วเพื่อนเราเผาเรือนเสียเองแย่งของรักจากอกหนูอย่างเลือดเย็นที่สุด
เป็นเวลาเกือบปีกว่าจะทำใจ ให้สงบลงได้หนูเตือนตัวเองด้วยคำกลอนเก่า ๆ ทุกวัน “แม้นแผ่นดินสิ้นชาย ที่พึงเชย อย่ามีคู่เสียเลยจะดีกว่า”
ในเมื่อหาผ.สระอัวไม่ได้ ก็ขอขึ้นคานทองนิเวศน์ไปก็แล้วกันแต่เหมือนกามเทพเล่นกลได้แผลงศรรักปักอก หนู เกิดไปปิ๊งกับผู้ชายรูปหล่ออายุ 30 เศษ มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ซึ่งหนูก็พบเห็นหน้าค่าตาเกือบทุกวัน ก็ทักทายกันตามประสาคนทำงานบริษัทเดียวกัน แต่แล้วมีอะไรเกิดขึ้นไม่รู้ได้หนูเกิดปิ๊งผู้ชายคนนี้ในทันทีทันใด
เหตุการณ์ที่ทำให้หนูประทับใจเขาและไม่มีวันลืมบุญคุณของ เขาได้เลย เกิดขึ้นในลิฟต์ ขณะนั้นมีคนใช้ลิฟต์ 7-8 คน หนูมีอาการท้องเสียตั้งแต่เมื่อคืนเกิดจาก ไปกินอะไรที่ผิดสำแดงมาหนูพยายามกลั้นไม่ให้ก๊าซในท้องในไหลลอดออกมาแต่หนู ก็แพ้กฎธรรมชาติ ปล่อยก๊าซออกมา แม้เกิดเสียงนิดเดียวแต่ท่ามกลางความ เงียบในลิฟต์ได้ยินชัดเจน
สิ่งที่ร้ายกว่านั้น กลิ่นไม่พึง ปราถนา โชยไปทั่วทั้งห้องลิฟต์ ผลก็คือทุกคนพร้อมใจ เอามือปิดจมูก แล้วจ้องสายตามายังหนู ขณะที่หนูอายมากแทบแทรกลิฟท์หนีไป ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งพูดว่า “ขอโทษครับ... ผมไม่ตั้งใจผมท้องเสีย” ชายคนนั้นรับแทนหนู
ผู้ชายที่แสดงความเป็นสุภาพบุรุษปกป้องไม่ให้หนูหน้าแตก ก็คือผู้ช่วยผู้จัดการคนนั้น ขอใช้ชื่อย่อ ช.นะคะ เมื่อ อยู่ในลิฟต์ 2 คน หนูขอบคุณเขาและเขา ก็บอกว่าไม่เป็นไรครับแต่นัยตายิบ ๆ คล้ายล้อเลียนทำให้หนูอยากร้องกรี๊ด ๆ
วันต่อมาเมื่อเจอหน้ากัน ช.ส่ง สายตายิ้มล้อเลียนมาให้หนูอีก หนูก็ได้แต่ ทำหน้าหงิกใส่เขาความจริงแล้ว หนูมารู้ใจตัวเองภายหลังอาการหน้าหงิกใส่ ช. นั้น ที่แท้คือการส่ง“รัก” ของหนูไปให้เขา นั่นเอง
กาลเวลาผ่านไปเป็นเดือน ช. เลิกทำหน้าล้อเลียนหนู แต่หนูกลับไม่ ยอมเลิกทำหน้าหงิกใส่เขาจนกระทั่ง วันหนึ่งเขากระซิบว่า “ระวังหน้าจะหงิกเป็นตะหลิวเป็นการถาวร” คราวนี้หนูทุบอกเขา หลาย ครั้ง แต่ทุบเบา ๆ นะคะ
หนูคิดว่าเหตุการณ์ในลิฟต์ครั้งนั้นกามเทพได้แผลงศรรัก ปักอกหนูเข้า ให้แล้วแต่เขาล่ะนึกอย่างไรกับหนู ไม่มีทางรู้ได้ แม้ว่าหนูพยายามพาตัวเองไปใกล้ชิด ช. ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม
นอกจากแววตามีแววล้อเลียน ขี้เล่นแล้ว นอกนั้น บุคลิกของ ช. ดูเอาจริง เอาจังไปแทบทุกส่วน เขาสุภาพกับหนูอย่างเสมอต้นเสมอปลายขนาดจะเลี้ยง ข้าวหนูที่ห้องอาหา ในบริษัท ช.พูด ว่า “มื้อนี้ผมขออนุญาติเลี้ยงคุณครับ”
บุคลิก ของ ช. ตรงข้ามกับกฎ ของนิลตันแรงกระทบเท่าไรแรงต้านก็มี เท่านั้นแต่กับช.หนูพยายามเหวี่ยง พยายาม วีนพยายามอ้อนไม่เคยมีปฏิกริยาสะท้อน กลับมาเลยมีแต่เฉยกับอมยิ้ม หนูจึงไม่รู้ว่า เขาคิดอะไรกับหนูอย่างไรบ้าง
หนูจึงคิดแผนการณ์ตามกฎ นิวตัน เพื่อรู้แรงสะท้อนกลับหรืออารมณ์ ความรู้สึกที่เขามีต่อหนูเป็นอย่างไร เป็นเพื่อนหรือคนรักแผนนี้เริ่มขึ้นในช่วงที่ พนักงานบริษัทในแผนกของหนูออกไปสัมนา ที่ต่างจังหวัด แผนการณ์ของหนูมีเพื่อน ๆ ที่รู้ใจอยากให้หนูมี ผ.สระอัว เสียที รู้เห็นเป็นใจ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
หลังจากงานวิชาการสิ้นสุดลง ตามด้วยการบันเทิงและรีแล๊คซ์ ทีมงาน กลุ่มหนึ่งเป็นผู้ชาย ทำหน้าที่มอมเมา ช. ให้เขาดื่มจนเมาแอ๋
เมื่องานเลี้ยงสิ้นสุดลงในเวลาตี 1 กว่า ๆ เพื่อน ๆ ของ ช.พาตัวเขาซึ่งเมาแอ๋ แต่ยังคุยได้เจื้อยแจ้วอยู่ (ช.มีนิสัยชอบพูด เวลาเมา แต่ยามปกติ พูดน้อยมากๆ) พาตัวเขาส่งกลับหองพักในโรงแรม แล้วทำไปตามแผน เพื่อน ๆ อ้างเมาเหมือนกันขึ้น พาเข้าห้องผิด แทนที่เข้าห้อง ช. มาเข้าห้อง หนูซึ่งปกติแล้วแต่ละห้องนอน 2 คน แต่คืนนั้นเพื่อนผู้รู้ใจ ไปนอนเบียดกันที่ ห้องข้าง ๆ เพื่อให้หนูมีโอกาส ที่พบพาน กับสิ่งที่เรียกว่า “เทพอุ้มสม”
วิธีการนี้ดูว่าเสียความเป็นกุลสตรี ไปบ้างแต่มองในแง่ศีลธรรม หนูกับ ช. ต่างเป็นคนโสด และว่าไปแล้วในสายตา เพื่อน ๆ เราเป็นคู่รักกัน ซึ่งรอเวลาสุกงอม เข้าพิธีแต่งงานอย่างเป็นทางการ แม้กระนั้น เพื่อนบางคนรู้มาผิด ๆ ว่า หนูเสร็จ ช.ไปนานแล้ว
ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นหนูเปิด โอกาส (รวมทั้งเปิดกระโปรงด้วย) ให้แก่ ช.เห็นหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่ ค่อยสนใจซึ่งหนูได้แต่สันนิษฐานในแง่ดี ว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษเกินไปที่จะฉวยโอกาส ทำเช่นนั้นได้
แต่เพื่อนบางคนไม่คิดเช่นนี้ บางคนสันนิษฐานว่า ช. อาจเป็นตุ๊ด ประเภทอีแอบเพราะตลอดมาจีบใครก็ ทำแบบ หมาหยอกไก ไม่เคยจริงจังกับใคร อีกทั้งมีหลาวกรณี เวลาเผลอตัวตกใจอาการ “แต๋วหลุด” ก็ปรากฏออกมาเป็นเสียงร้อง อุทาน “ว้าย!” เป็นต้น
นี่เองเพื่อความแน่ใจว่า ช.เป็น ตุ๊ดจริงหรือไม่เพื่อน ๆ จึงให้หนูลอง เสนอตัวให้ดูซิว่า ช.จะเปนอย่างที่คิด หรือไม่ ขณะเดียวกันความแผนจริง ๆ หาก ช. คิดจะเข้าพระเข้านางจริง ๆ ก็ให้หนูพยายามแข็งใจ ขัดขืนโดยต่อรองหลังแต่งงานจึงค่อยมีอะไรกันได้
ตามแผนอีกเช่นกัน หนูนอนในห้องคนเดียวและนุ่งแพนตี้(กกน.) ตัวเดียว นอกนั้นนุ่งลมห่มฟ้า แล้วมุดตัว เข้าไปอยู่ในผ้าห่ม เมื่อเพื่อนชายหิ้วปีก ช.มาถึงห้องก็ช่วยกันถอดเสื้อถอดกางเกง เหลือ กกน. ตัวเดียว แล้วจับตัวเข้าไป ในผ้าห่มเช่นกันได้
เมื่อร่างกายเปล่าเปลือยสนิท ชิดกัน มือของ ช.ไขว่คว้ามา ที่หน้าอกหนู แล้วกอดในท่านั้น ตลอด 8 ชั่วโมงจนรุ่งเช้า ซึ่งหนูเผลอหลับไปตอนในไหนก็ไม่รู้
เราตื่นพร้อมกันในเวลา 8.00 น. นอนมองตากันหลายนาที หนูทนไม่ไหว พูดขึ้นก่อนว่า “แล้วเราจะทำยังต่อไป” หนูถามเช่นนี้ เพื่อรอคำตอบอย่างรับผิดชอบจากเขา แต่คำตอบที่ได้รับคือ “ผมไม่ ทราบ ผมไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะ” คำ พูดนี้แสดงว่า ช.รู้ตัวตลอดเวลาว่าตนเอง ทำอะไร และหนูทำอย่างไร
ขอตัดตอนคำพูดช่วงนี้ไปเลย เรามีปากเสียงกันนิดหน่อย จากนั้นหนูหา ข้อสรุปโดยตั้งคำถามเดิมไปว่า “แล้วคุณ จะรับผิดชอบต่อการกระทำเช่นนี้อย่างไร”
ขอใช้คำว่า บีลีฟิอิท ออร์น็อต เชื่อหรือไม่? สุภาพบุรุษโคตรแมนอย่าง ช. ร้องให้กระซิก ๆ แล้วเขาก็แย้มปาก พูดออกมา ซึ่งเป็นคำพูดทำให้นูตัวแข็ง ไปทั้งร่างจะให้ผมรับผิดชอบคุณได้อย่างไรในเมื่อผมรู้ตัวดีไม่ได้ทำอะไรคุณ เพราะผมรักผู้ชายไม่ใช่รักผู้หญิง”
ก็แสดงว่า ช. บุรุษมาดแมนได้ ซ่อนเร้นความเป็นตุ๊ดได้อย่างแนบเนียนที่สุด หนูจึงถึงบางอ้อว่าเหตุใด เราเปิดโอกาส เหมาะ ๆ แก่เขาหลายครั้งหลายหน แต่เขาไม่มีทีท่าจะฉวยโอกาสนั่นเลย
แต่ช. มีข้อต่อรอง เรานอนคุยกัน บนเตียงต่อไปว่า ผมอยู่ในช่วงรักษาตัวเอง จิตแพทย์ยืนยันว่า ผมมีโอกาสย้อนกลับ มารักผู้หญิงได้ หรืออย่างน้อยก็รัก ได้ทั้ง ผู้หญิง และผู้ชาย” ตรงนี้เองทำให้หนูงงผู้ชายคนเดียวรักทั้งผู้ชายและผู้หญิงได้ในคราว เดียวกันมีด้วยเหรอ ดร.โรเบิร์ตช่วย อธิบายหน่อยนะคะ
ช.หยุดร้องไห้ พูดต่อ ไม่เพียงเท่านั้นยังโอบกอดหนูไว้ ตอนนั้น หนูจั๊กจี้มากกว่ามีอารมณ์ จึงแกะมือเขา ออกไปช.พูดกระซิบข้างหูหนูว่า “แต่ผมก็รักคุณนะ รักตั้งแต่ช่วยคุณในลิฟต์ นั่นแหละ”
ช.อธิบายว่าโรคกะเทยของเขา มีทางรักษาหายได้ หากหนูรักเขาบ้าง ขอให้รอได้หรือไม่ เมื่อถึงวันนั้น วันนี้ เขากลับมาเป็นผู้ชายครบสมบูรณ์ เราจะ แต่งงานกัน
ช.พูดอีกว่าบรรดาพ่อ ญาติพี่น้อง ต่างให้กำลังใจเขาให้หายจากโรคกะเทย ขณะเดียวกันจิตแพทย์แนะนำว่า หากให้ ได้ผลเร็วขึ้นก็ขอให้คนที่ ช. รักให้กำลัง ใจด้วยจะเป็นตัวช่วยได้มากที่สุด หนูก็เลย คิดว่าตกลง ช.รักหนูจริงหรือเปล่านี่ หรือเพียงหลอกให้หนูเป็นแค่ตัวช่วย รักษาโรค กะเทยแก่เขาเท่านั้น
ตรงนี้เอาที่หนูขอคำแนะนำจาก ดร.โรเบิร์ต โรคกะเทยรักษาหายได้จริง หรือและหนูจะมีความสุขเหมือนคนปกติหรือไม่หากได้ ผ.สระอัวผัวเป็น กะเทยกลับใจ กรุณาตอบอย่างละเอียด ด้วยนะคะ จะเป็นพระคุณอย่างสูง
ขอแสดงความนับถือ
พิงกี้/ลาดพร้าว,กทม.
ตอบคุณพิงกี้
ผู้เขียนอ่านจดหมาย ของคุณ พิงกี้จบ ก็พอรู้จักตัวตนของคุณได้ ระดับหนึ่ง คุณน่าจะเป็นสาวมั่น ค่อนข้างไปทางห้าวก็ไม่ทราบว่า ถึงขั้นเป็นสาว ทอมหรือเปล่า ซึ่งหากคาดหมายผิดไป ก็ขอโทษ แต่ถ้าคิดถูกคุณกับ ช. น่าจะ เกิดการพลิกกลับขั้ว เกิดขึ้นแล้ว
เอากรณีของ ช.ก่อน เขาบอก คุณว่า เขาชอบผู้ชายมากกว่าผู้หญิงแต่อยู่ ระหว่างการรักษาตัว ซึ่งหมอให้คำรับรอง ว่าอย่างน้อยทำให้เขารักได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชายได้
ขอบอกให้คุณพิงกี้รู้ไว้ว่าผู้ชาย ซึ่งรักได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายนั้นเรียกว่า “ไบเซ็กซ์ช่วล” หรือรู้จักในชื่อ “เสือใบ” หมายถึงมีอารมณ์ความรู้สึกทางเพศ ได้ทั้งเพศเดียวกันและเพศตรงข้าม
เสือไบแท้จริง แล้วคือผู้ชาย เกย์ นั่นเอง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะเป็น เกย์คิง คนพวกนี้เมื่อสมสู่กับผู้ชายด้วยกัน จะทำตัวเป็นผู้ชาย กรณีนี้หากพบจิตแพทย์ สามารถแก้ไขได้เกือบเต็มร้อย
ส่วนเกย์ควีน คือผู้ชายที่ยอมให้ ผู้ชายด้วยกันเองสมสู่ทางทวารหนัก หรือทำ ออรัลเซ็กซ์ให้แก่คู่ตัวเอง พวกนี้คือตุ๊ดร้อยเปอร์เซนต์พวกนี้แก้ไขได้ยากแต่ไม่ได้ หมาย ถึงรักษาไม่ได้
สำหรับ “เสือไบ” ยุคใหม่นั้น มีพฤติกรรมน่าตกใจไม่น้อย เป็นผู้ชาย ที่สมสู่กับผู้ชายทางทวารหนัก ขณะเดียวกันก็ยอมให้ผู้ชายสมสู่ทางทวารหนักของตัวเองด้วย เช่นนี้เรียกว่า “เสือไบพันธุ์แท้” ก็ไม่ทราบว่า ช.ของคุณเป็นเสือใบพันธุ์ นี้ หรือเปล่า? ถ้าใช่คุณก็เตรียมตัวเตรียมใจ รอรับข่าวนินทาว่า “ผัวไปมีผัวน้อย”
ไม่ทราบเกิดจากสาเหตุอะไร ในสังคมไฮโซและไฮซ้อ (ปัจจุบันเรียก ว่าไฮเอนด์) เกิดปรากฏการณ์เรียกว่า “ผัว มีผัวน้อยเกิดขึ้นหลายครั้งหลายคู่ บางราย ก็กล้าเปิดเผยเรื่องออกมาแก่สาธารณะชน หลังหย่ากัน บางรายก็ปกปิด ยอมซับน้ำตา กับหัวเข่าตัวเอง ที่คิดผิดเอาเสือไบ พันธ์แท้มาเป็นสามี
แต่ผู้เขียนมั่นใจอยู่ 2 กรณีว่า การแก้ไขรสนิยมเสือไบพันธุ์แท้ สามารถ แก้ไขรักษาได้ด้วย
1.มั่นใจในเทคโนโลยี ทางการแพทย์ยุคใหม่
2.มั่นใจว่าความรัก ความเข้าใจของคู่ครองที่มุ่งมั่นใช้ชีวิต คู่อย่างคนปกติ ก็สามารถทำให้อาการ “เสือไบ” มอดมลายหายไปได้
ทุกวันนี้นักวิจัยพบว่า ผู้ชาย ที่เป็นตุ๊ดเป็นแต๋ว ผู้หญิงเป็นทอม-ดี้ เป็นแค่อาการเก็บกดจากการเก็บกด ประสบการณ์ร้ายในวัยเด็กแล้วมาปรากฏขึ้นเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่เท่านั้น เช่นเด็กที่ถูกพ่อเฆี่ยนตีทำร้ายตลอดเวลา เมื่อโตขึ้นเขาจะเกลียดผู้ชายแล้วรักผู้หญิง ขณะเดียวกัน เพราะผู้เป็นพ่อเลี้ยงดูลูกชาย อย่างโอ๋ตลอดเวลา เด็กชายคนนั้นจะรักพ่อ โตขึ้นจะรักผู้ชาย
ทำนองเดียวกัน แม่เลี้ยงดูลูกชาย อย่างโอ๋ มดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม เด็กชาย โตขึ้นแม้จะรักผู้หญิงก็จริง แต่อาจเกิด เบี่ยงเบนทางเพศได้สูง โดยทำตัวเป็น ผู้หญิงอย่างแม่ นี่แหละจึงเป็นที่มาอย่าง หนึ่งของผู้ชายตุ๊ด หรือผู้ชายลูกแหง่ ที่ไม่อาจเป็นผู้นำครอบครัวที่ดีได้
อย่างไรก็ตามสิ่งเก็บกดเหล่านี้ แม้จะกลายเป็นแรงผลักให้เกิดการเบี่ยงเบน ทางเพศภายหลัง ก็ไม่ถึงขั้นเป็นอาการ ป่วยขั้นร้ายแรงทุกวันนี้โรคกะเทยโรค ทอมดี้แพทย์แผนปัจจุบันยืนยันว่า รักษาได้หากเจ้าตัวต้องการ แต่กับปรากฏ การณ์มีกะเทยเกลื่อนเมือง ก็เพราะกะเทย อยากเป็นกะเทย ไม่คิดรักษาตัวเองอย่าง จริงจังนั่นเอง
ทุกวันนี้มีหลายประเทศยอมรับ บุคลเพศที่ 3 ซึ่งเป็นเพศอยู่ตรงกลาง ระหว่างชายกับหญิง คนไทยรู้จักในชื่อ “ผู้ชายนะยะ” หรือกะเทย ตุ๊ด แต๋ว เก้ง กวาง นั่นเอง
คุณพิงกี้ถามมาว่า หากตัดสินใจ อยู่กับช. จะมีความสุขเหมือนคู่ครอง ปกติหรือไม่? ตรงนี้ก่อนจะตอบคำถาม ผู้เขียนขอถามคุณกลับไปว่าคุณรัก ช. มากแค่ไหน ถ้ารักมาก ก็กระโจนใส่ไปเลย ถ้าคิดว่ารักมั๊ง หรือไม่แน่ใจก็รีบถอย ออกมาเสียเถอะ
ผู้เขียนคาดหมายว่า สภาพของ ช. ในขณะนี้ หลังรักษาตัวได้ระยะหนึ่ง เขาอาจอยู่ในเกณฑ์ชายก็ได้ หญิงก็ดี หมายถึงว่าเขามีความสามารถ มีเซ็กซ์ กับคุณ ฉันผัวเมียได้ตามปกติแต่ขณะ เดียวกัน เขาพร้อมเป็นเมียของชายอื่น หรือไม่ตรงนี้ผู้เขียนตอบไม่ได้ และคิดว่า เป็นสิ่งที่คุณไม่น่าเสี่ยงอย่างยิ่งเช่นกัน
ก็เป็นอันว่าเดินสายกลางดีกว่า หากรักกันจริง ก็รอเวลาให้ ช.รักษาตัว จน กระทั่งหมอการันตีว่า เขาหายจากโรค เกย์ แล้ว นั่นแหละคุณพิงกี้ค่อยตัดสินใจ ใหม่ก็ได้
ว่ากันว่า การเป็นกะเทย เป็นเกย์ กับบางคนเป็นเหมือนสิ่งเสพติด เหมือนเสพติดยาบ้า ยาอี เหล้า บุหรี่ หาก จะคิดเลิก ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด แม้จะใจแข็ง อย่างไร ก็ต้องมีคนช่วย ดังนั้นหากคุณ เข้าไปช่วย ช. อาจทำให้เขาหายเร็วขึ้น
การเข้าไปช่วยเหลือ ช. บางกรณี คุณอาจต้องเสียสละเช่น ช. อาจคึกคักขึ้นมา อยากลองของ ขอมีเซ็กซ์กับคุณ หากคุณ ปฏิเสธเรื่องราวอาจจะไปกันใหญ่ ทั้งหมด นี้จึงอยู่ที่ผู้เขียนกล่าวไว้ข้างต้นอยู่ที่ใจ ของคุณ คุณมีรักจริงรักแท้ต่อ ช. หรือไม่ หรือเป็นแค่รักแกล้งหลอก
คุณเองก็เถอะ หาเวลาสงบ มองตัวเองจากกระจกบานใหญ่ จากหัวจรด ปลายเท้า มองอย่างช้า ๆ อย่างมีสติ บางที คุณอาจพบตัวตนที่แท้จริงว่า คุณเองก็อาจ ไม่ใช่ผู้หญิงแท้ เป็นทอมต่างหาก
หากเกิดการพลิกขั้วกันจริง ๆ คุณพิงกี้เป็นทอม ส่วน ช.เป็นเกย์ควีน อย่างนี้ กามเทพชักซุกซนขี้เล่นไป หน่อยละมั๊ง?
125 x 125 pixels
สนใจติดต่อ
webmaster [at] nokroo.com พื้นที่โฆษณา
125 x 125 pixels
สนใจติดต่อ
webmaster [at] nokroo.com พื้นที่โฆษณา
125 x 125 pixels
สนใจติดต่อ
webmaster [at] nokroo.com
เซคชั่น "แปลก ทะลุ โลก" นี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง "นิตยสารแปลกทะลุโลก" กับ "นกรู้ดอทคอม"
หากท่านใดต้องการนำเนื้อหาไปดัดแปลง , ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ กรุณาติดต่อขออนุญาตจากคุณอังคีรส์ เจริญราษฎร์ เท่านั้นครับ
THEPOco
