จากผลการวิจัยล่าสุดหนุ่มๆ อเมริกัน ถึงคำถามที่ว่า "อะไรคือสิ่งที่คุณปรารถนาในตัวคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิต" 90% ของผู้ชายตอบตรงกันว่า "ผู้หญิงคนนั้นจะต้องมีลักษณะของการเป็นแม่ที่ดีของลูก" ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า สัญชาตญาณของผู้ชายคือ การออกไปล่าสัตวกลับมาเพื่อเลี้ยงคนในครอบครัว ซึ่งหมายถึงคนที่คิดว่าจะมีลูกด้วย
"การหาคู่ครองเพื่อที่จะสืบทอด DNA ต่อกันไปเป็นภารกิจพื้นฐานของการเป็นมนุษย์" ดร.เมียร์ดิทซ์ สมอลล์ อาจารย์ประจำคณะมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์และเจ้าของหนังสือ Lur Babies, Ourselves : How Biology and Culture Shape the Way we Parent กล่าวว่า "พื้น ฐานของผู้ชายจะตอบสนองอัตโนมัติไปยังผู้หญิงที่มีแนวโน้ม จะเลี้ยงลูกของเขาได้ดี แม้ว่าในขณะนั้นเขาไม่อยากจะมีลูกในเวลาอันใกล้ก็ตาม"
กลับ มาดูที่หนุ่มข้างๆ ตัวเรากันบ้าง เชื่อหรือไม่ว่า การที่เขาพาคุณออกไปเที่ยวบาร์ ชวนไปกินข้าว หรือแม้แต่ดูหนังฟังเพลง ก็ล้วนแต่มีสถานการณ์ให้เขาตีความเป็นไปได้ที่คุณจะเป็น "ว่าที่" ภรรยาของเขาได้เช่นกัน โดยแบ่งออกเป็น 3 เรื่องใหญ่ๆ ดังนี้
คุณควบคุมสถานการณ์ได้
เรา รู้ว่ามันน่าหงุดหงิดเป็นอย่างมากที่ลืมบีบีไว้ที่่บาร์ หรือเสียเวลาขับรถหลงทางอยู่เป็นชั่วโมงๆ แต่การนิ่งสงบสบยทุกการเคลื่อนไหว ทำให้เขารู้สึกว่าคุณจัดการกับปัญหาตรงหน้าได้เป็นอย่างดีไม่ว่าสิ่งนั้นจะ เป็นเรื่องดีหรือร้าย
"มันเป็นสัญชาตญาณของเด็กทารกที่จะมองความไว้ วางใจให้กับแม่ เพราะเขาเชื่อว่าแม่จะสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ได้ดีและสามารถยืนหยัดได้ ในสถานการร์ที่น่าหวั่นวิตก" สมอลล์กล่าว ย้อนกลับไปสมัยโบราณ แม่จะต้องมีสติที่จะอุ้มลูกหนีจากภัยร้ายต่างๆ ได้ ซึ่งการมีสตินั้นส่งผลมาถึงการตัดสินใจของผู้ชายในปัจจุบันเลยทีเดียว ดังนั้นการแสดงออกว่าคุณสามารถยืนหยัด เข้มแข็งในการแก้ปัญหาในเรื่องต่างๆ ได้ ย่อมเป็นสิ่งที่ทำให้เขามั่นใจว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณจะสามารถดูแลลูกๆ และคนในครอบครัวแทนเขาได้
คุณจับความรู้สึกของเขาได้เมื่อเขารู้สึกแย่
สิ่ง หนึ่งที่เหมือนกันระหว่าผู้ชายกับทารกก็คือ พวกเขาไม่เก่งเลยที่จะสื่อสารออกมาเป็นคำพูด เมือมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น เพราะนั่นคุณจะต้องรู้จักสังเกตสีหน้า ท่าทางน้ำเสียงเขา เพื่อจับทิศทางให้ถูกต้อง
"ผู้ชายจะมุ่งเข้าไปหาผู้หญิงที่มีความ อ่อนโยน รู้จักสังเกตในจุดเล็กๆ น้อยๆ ของอารมณ์และความรู้สึก" สมอลล์อธิบาย "ถ้าคุณสามารถจับความรู้สึกของคนได้โดยที่เขาไม่ต้องพูดออกมา นั่นแปลว่าคุณจะสามารถจับความต้องการของเด็กๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการร้องไห้ เพราะหิว เพราะเหนื่อย หรือเพราะอับชื้น"
คุณแชร์เรื่องสนุกๆ น่าสนใจในวันสำคัญของคุณ
"การ เล่าเรื่องงานหมั้นของตัวเองให้ลูกๆ ฟัง เป็นการถ่ายทอดความสัมพันธ์ของคนในสังคมรวมถึงวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ ว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำอีกด้วย" ดร.เฮเลน ฟิชเชอร์ นักมานุษยวิทยา เจ้าของหนังสือ Why Him? Why her? How to Find and Keep Lansting Love
แม่ที่เป็นเพื่อนคู่คิด เพื่อนคุย และถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ได้ดี ย่อมจะเป็นครูทีดีให้กับลูกหลานอีกด้วย เพราะเธอจะเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่ทำให้เด็กๆ เกิดการเรียนรู้ได้อย่างฉลาดและมีประสิทธิภาพ และผลการวิจัยยับพบอีกว่า พ่อแม่ที่ไม่ค่อยสนใจลูก จะส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการที่ช้า และมีโอกาสประสบความสำเร็จน้อยกว่าเด็กที่ได้รับการสนใจอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้น "อย่าเบื่อที่จะสอนลูก"
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
Credit:
Teenee.com