ภาพน่าสะพรึง!! “พายุฝุ่นยักษ์”
กลืนแอริโซนาระลอกสอง
เดลิเมล์ - มลรัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ ถูกพายุฝุ่นลูกมหึมาโจมตีเป็นลูกที่สองในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์เมื่อวันจันทร์ (18) ตามเวลาท้องถิ่น อิทธิพลของมันแแปรเปลี่ยนท้องฟ้าเป็นสีน้ำตาล ต้องดีเลย์เที่ยวบินจำนวนมาก ก่อความโกลาหลแก่ผู้ขับขี่ และด้วยทัศนวิสัยที่เลวร้ายทำให้รถบรรทุกหลายคันประสบอุบัติเหตุ
พายุฝุ่นลูกนี้ก่อตั้งที่ปินัล เคาน์ตี และมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อนพัดเข้ากลืนเมืองฟินิกซ์ ณ เวลาประมาณ 17.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเมืองไทย 07.30 น.เช้าวันอังคาร) โดยกำแพงฝุ่นยักษ์นี้มีความสูงราว 3,000 ฟุต พัดด้วยความแรงลม 40 ถึง 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ออสติน จามิสัน นักพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าว
“คุณได้เจอกับทัศนวิสัยเลวร้ายอย่างกะทันหันซึ่งมาพร้อมๆ กับฝุ่นที่หนาทึบในอากาศ” เขากล่าว “ด้วยทัศนวิสัยที่เลวร้าย จึงเป็นอันตรายต่อการขับขี่”
รายงานข่าวระบุว่า ทัศนวิสัยที่เลวร้ายเป็นสาเหตุให้รถบรรทุก 8 คนประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันบนถนนสายอินเตอร์เสตท8 โดยคนขับ 3 รายถูกนำตัวขึ้นรถฉุกเฉินส่งสถานพยาบาลแห่งหนึ่งในฟินิกซ์ ขณะที่คนอื่นๆอีก 7 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปิดเลนฝั่งตะวันตกเพื่อเปิดทางให้หน่วยกู้ภัยเคลียร์รถออกจากถนน
ขณะเดียวกัน มีรายงานพายุฝุ่นยังทำให้เที่ยวบินจำนวนหนึ่ง ณ ท่าอากาศยานฟินิกซ์ สกาย ฮาร์เบอร์ ต้องเดินทางล่าช้า โดยทางโฆษกของสนามบินบอกว่าเที่ยวบินขาเข้าจากเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงรวมไปถึงลอสแองเจลินถูกระงับไว้จนกว่าพายุจะคลี่คลาย อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ระบุถึงจำนวนเที่ยวบินที่ต้องดีเลย์หรือถูกยกเลิก
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา พายุฝุ่นลูกมหึมากลืนเมืองฟีนิกซ์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ไปแล้วรอบหนึ่ง โดยคราวนั้นมันดึงดูดความสนใจจากทั่วโลกได้อย่างมาก
พายุฝุ่นลูกดังกล่าวบดบังท้องฟ้าจนมืดมิด หักโค่นต้นไม้และเสาไฟฟ้าระเนระนาด ทำประชาชนหลายร้อยคนต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้า สระว่ายน้ำเต็มกลายเป็นบ่อโคลนและต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายเที่ยว
อย่างไรก็ตาม จามิสันบอกว่า พายุฝุ่นลูกล่าสุดนี้ไม่รุนแรงและมีขนาดใหญ่เท่าลูกแรก แถมมันยังใช้เวลาดูดกลืนเมืองสั้นกว่าด้วย ขณะที่โฆษกสนามบินบอกว่าทัศนวิสัย ณ ท่าอากาศยานในวันจันทร์ (18) ดีกว่าเมื่อเหตุการณ์วันที่ 5 กรกฎาคม โดยหนนั้นพายุฝุ่นสูงกว่า 5,000 ฟุต ส่งผลกระทบให้ต้องระงับเที่ยวบินนานกว่า 45 นาที หักโค่นต้นไม้ เสาไฟฟ้าระเนระนาดและบดบังวิสัยทัศน์ครอบคลุมพื้นที่กว่า 50 ไมล์เลยทีเดียว