เด็กอัจฉริยะ 6 ขวบ ซ่อม-ลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้อย่างคล่องแคล่ว ตอนนี้อยู่ป.2 ได้เกรด4ทุกวิชา พ่อเผยเรียนเร็ว-ความคิดโตกว่าเด็กปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปพิสูจน์ความอัจฉริยะของเด็กน้อยวัย 6 ขวบที่สามารถซ่อมคอมพิวเตอร์และลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งเรียนอยู่ในชั้น ป.2 และได้เกรดเฉลี่ย 4.00 ทุกเทอม ทั้งที่อายุ 6 ขวบควรจะเรียนในชั้น อนุบาลปีที่ 3 สร้างความแตกตื่นแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
เด็กน้อยดังกล่าว ทราบชื่อว่า ด.ช.ณัฐนนท์ มหายนต์ หรือน้องเซนด์ (send) อยู่บ้านเลขที่ 22/2 ม.2 ต.บ้านใหม่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของจ่าสิบตำรวจ ณัฐมนต์ มหายนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจงานป้องกันและปราบปราม สภ.มหาราช ซึ่งเปิดบ้านเป็นร้านรับซ่อมคอมพิวเตอร์ โดยขณะผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึง พบว่ากำลังนั่งซ่อมประกอบคอมพิวเตอร์อย่างคล่องแคล่วเหมือนช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ผู้ใหญ่ที่ชำนาญการณ์ทั่วไป โดยสามารถถอดประกอบชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ได้ทุกส่วน และสามารถลงโปรแกรมต่างๆ ในคอมพิวเตอร์ได้อย่างคล่องแคล่ว ถือเป็นเด็กอัจฉริยะเก่งเกินเด็กทั่วไป
จ่าสิบตำรวจณัฐมนต์ กล่าวว่า ครอบครัวของตนมี 3 พ่อแม่ลูก ภรรยาเป็นพนักงานบริษัททั่วไป ตนเองนอกจากจะเป็นตำรวจแล้วยังเป็นช่างซ่อมคอมพิวเตอร์มานานแล้ว ส่วนลูกชายนั้นก็เลี้ยงดูเหมือนเด็กทั่วไป แต่เริ่มฉายแววอัจฉริยะตอน 2 ขวบ เพราะลูกชายเริ่มจับเม้าส์และแป้นพิมพ์ดีดคอมพิวเตอร์ รวมทั้งเริ่มเล่นเกมในคอมพิวเตอร์อย่างคล่องแคล่ว โดยเห็นว่าลูกเก่งกว่าเด็กทั่วไป จึงเริ่มส่งเสริมให้เรียนรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เรื่อยมา ทั้งๆที่ช่วงนั้นลูกชายก็ยังไม่ได้เข้าโรงเรียนและอ่านหนังสือยังไม่ออก แต่ก็สามารถเรียนรู้เรื่องคอมได้เป็นอย่างรวดเร็ว โดยเชื่อว่าจำในลักษณะภาษาภาพ
บิดาของเด็กอัจฉริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า น้องเซนด์ได้เข้าเรียนระดับอนุบาลที่โรงเรียนสนามชัยสิทธิ์นุสรณ์ ที่ อ.เมือง จ.อ่างทอง ตั้งแต่อายุย่างเข้า 3 ขวบเท่านั้น และใช้เวลาเรียนอนุบาลเพียง 2 ปี พออายุ 5 ขวบก็เรียนลัดไปเรียน ป.1 และเปิดเทอมนี้ลูกอายุ 6 ขวบ ก็เรียนชั้น ป.2 แล้ว ซึ่งผลการเรียนเกรดเฉลี่ยได้ 4.00 มาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ที่แปลกอีกอย่างหนึ่งคือกระบวนความคิดของลูกชาย จะคิดแบบมีเหตุผลและมีที่มาที่ไปของน้ำหนักเหตุผลทุกครั้ง แต่ก็ไม่ได้หมายความจะเครียดตลอดเวลา ซึ่งลูกชายก็มีความสดใสน่ารักตามวัยเด็ก
จ่าสิบตำรวจณัฐมนต์ กล่าวว่า สำหรับความสามารถทางคอมพิวเตอร์นั้น เริ่มจากเล่นเกม เปิดและใช้โปรแกรมต่างๆ ได้ และเริ่มมีการจำในภาษาอักษรเพิ่มขึ้น โดยช่วงอายุ 4-5 ขวบที่ผ่านมา สามารถถอดประกอบคอมพิวเตอร์ได้ และล่าสุดลูกชายสามารถลงโปรแกรมวินโดว์ได้แล้ว หรือจะเป็นโปรแกรมพื้นฐานสำเร็จรูปทั่วๆไป ก็สามารถลงได้ รวมทั้งซ่อมระบบไฟฟ้าฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำพวกอุปกรณ์พื้นฐานได้เช่นกัน ทั้งนี้ พร้อมจะส่งเสริมลูกชายใช้ความเก่งและความสามารถ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในตัวเองในอนาคตให้มากกว่านี้
น้องเซนด์ กล่าวว่า ชอบในเรื่องคอมพิวเตอร์และเรื่องเรียน เพราะสนุกดีเหมือนได้เล่นของเล่น ส่วนเทคนิคก็คือการจำด้วยภาษาภาพ ทุกอย่างได้จำเป็นสัญลักษณ์ภาพทั้งหมด เพราะภาษาอังกฤษก็ยังไม่ได้เก่งเหมือนผู้ใหญ่ หากโตไปอยากเป็นตำรวจหรือทหาร และให้พ่อตัดชุดทหารบก ทหารอากาศ ทหารเรือ และตำรวจ ใส่เป็นประจำ