10 ก.ค.54 ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือเอแบคโพล ได้เปิดเผยถึงผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง ความสุขคนไทยหลังเลือกตั้ง และนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยในสายตาประชาชน พบว่า

หลัง จากการเลือกตั้งเสร็จสิ้น ความสุขมวลรวมของประชาชนคนไทยภายในประเทศ (Gross Domestic Happiness) หรือที่เรียกว่า GDH เพิ่มสูงขึ้นจาก 6.61 ในเดือนมีนาคม ปี 2554 มาอยู่ที่ 7.55 ในเดือนกรกฎาคม และเป็นค่าความสุขมวลรวมที่สูงกว่าช่วงเดือนเดียวกันในปี 2552 ที่ 5.92 และปี 2553 ที่ 6.77 อีกด้วย

ส่วน ผลสำรวจสาธารณชนต้องการให้พรรคเพื่อไทย “ทำทันที” 10 อันดับแรก ตามที่เคยหาเสียงไว้ คือ อันดับแรก ร้อยละ 93.7 ต้องการให้ปราบปรามยาเสพติด รองลงมาร้อยละ 90.9 ให้สร้างความปรองดองของคนในชาติ ทำให้บ้านเมืองสงบสุข

ขณะ ที่อันดับ 3-9 นั้นเป็นปัญหาปากท้องทั้งสิ้น นับตั้งแต่ ร้อยละ 89.5 ลดราคาน้ำมันเบนซิน 6 – 7 บาทต่อลิตร และลดดีเซลลง 2 บาทต่อลิตร, ร้อยละ 85.5 นำโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคกลับมาใช้ใหม่, ร้อยละ 74.0 ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน และรองลงไปได้แก่ จำนำข้าวเปลือกขาว 15,000 บาทต่อเกวียน ข้าวหอมมะลิ 20,000 บาทต่อเกวียน

ขึ้นเงินเดือน ผู้ที่จบปริญญาตรีเริ่มขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อเดือน,หักหนี้สำหรับผู้มีหนี้ไม่เกิน 5 แสนบาท ไม่น้อยกว่า 3 ปี,เพิ่มกองทุนหมู่บ้านเพิ่มเงินตำบลละหนึ่งล้านบาท และทำเขื่อนกั้นน้ำทะเลไม่ให้ท่วมกรุงเทพฯ แถวสมุทรสาครและสมุทรปราการ โดยไม่ต้องกู้

และสุดท้ายอยากให้ทำทันทีอื่นๆ อีก เช่น ทำรถไฟฟ้าให้ครบทั้ง 10 สาย คิดค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ทำรถไฟความเร็วสูงไปโคราช ระยอง จันทบุรี แจกคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ให้เด็กนักเรียนทุกคน และออกบัตรเครดิตการ์ดให้เกษตรกร เป็นต้นด้วย

นอก จากนี้จากผลสำรวจส่วนใหญ่หรือร้อยละ73.6 สนับสนุน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย และอีกร้อยละ 71.0 ก็สนับสนุนให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต่อไปอีกด้วยเช่นเดียวกัน