ย้อนปูมชีวิต...ดูแนวคิดวันนี้ 3 ว่าที่ ส.ส. หน้าใหม่
จนถึงวันนี้ กับเรื่องทางการเมือง เสียงวิพากษ์ “พรรครักประเทศไทย” ที่มี ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เป็นหัวหน้า ก็ยังไม่สร่างซา ซึ่งไม่ใช่แค่วิพากษ์เพียงการได้เป็นว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของชูวิทย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการที่สมาชิกพรรคนี้ได้เป็นว่าที่ ส.ส. ระบบเดียวกัน อีกตั้ง 3 คน ซึ่งคำถามหนึ่งที่ดังขึ้นมาคือ...ว่าที่ ส.ส.อีก 3 คนของพรรคนี้เป็นใครกัน? มีที่มาที่ไปอย่างไร? จะทำหน้าที่ ส.ส.ได้แค่ไหน? วันนี้ลองมาดูปูมชีวิตของว่าที่ ส.ส. 3 คนที่ว่านี้...ชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์, โปรดปราน โต๊ะราหนี, พงษ์ศักดิ์ เรือนเงิน
เริ่มที่ชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย ลำดับ 2 คนนี้ ปัจจุบันอายุ 49 ปีเศษ เกิดวันที่ 24 ธ.ค. 2504 พื้นเพเป็นชาว อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เป็นนักกฎหมาย จบการศึกษาชั้นมัธยมต้นจากโรงเรียนชิโนรส จบชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ จบปริญญาตรีสาขานิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และจบปริญญาโทศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (พัฒนาสังคม) จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ซึ่งคนนี้จริง ๆ แล้วก็ต้องถือว่ามิใช่หน้าใหม่ในแวดวงการเมือง
ก่อนจะมาถึงวันได้เป็นว่าที่ ส.ส. ชัยวัฒน์มีประสบการณ์ทำงานมาไม่น้อย รวมถึงในแวดวงการเมืองด้วย กล่าวคือ เริ่มทำงานเป็นนักกฎหมายที่สำนักงานบำรุง สุวิชา อภิศักดิ์ ทนายความ เป็นที่ปรึกษากฎหมายและทนายความให้บริษัทหลายแห่ง ก่อนจะมาเป็นทนายความส่วนตัว ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
ในแวดวงการเมือง ก่อนจะมาเป็นว่าที่ ส.ส. ก็เคยเป็นทนายความฝ่ายวิชาการ พรรคความหวังใหม่, ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ-กฎหมาย และกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคกิจสังคม ต่อมาเข้าสังกัดพรรครักถิ่นไทยในตำแหน่งโฆษกพรรค และเลขาธิการพรรค ก่อนจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เขต 3 กรุงเทพฯ แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง จึงย้ายเข้าร่วมทำงานทางการเมืองกับเพื่อนสนิทที่ชื่อ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เป็นเลขาธิการพรรคต้นตระกูลไทย เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้ชูวิทย์ เลขาธิการพรรคสู้เพื่อไทย
และปัจจุบันเป็นถึงเลขาธิการพรรครักประเทศไทย
“ร่วมงานทางการเมืองกับชูวิทย์มาโดยตลอด มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกันมานาน เพราะเป็นเพื่อนซี้ตั้งแต่เป็นนักเรียนตอนเรียนที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ การทำงานร่วมกันจึงไม่มีปัญหา โดยเฉพาะด้านการเมืองก็มักเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีเหตุมีผล”...ว่าที่ ส.ส.รายนี้ระบุ พร้อมทั้งบอกอีกว่า...
“ต้องบอกว่าดีใจเป็นที่สุดที่ได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้ ผมทำงานการเมืองมาตั้งแต่ปี 2531 เรียกว่าอยู่ในแวดวงการเมืองมานานเกือบ 24 ปี ไม่เคยได้เป็น ส.ส.มาก่อน แต่ก็เคยมีตำแหน่งเป็นเลขานุการคณะกรรมาธิการตำรวจของสภาผู้แทนราษฎร ครั้งนี้ได้เป็น ส.ส.สมัยแรก ผมจะดีใจมากถ้าแนวทางการต่อต้านคอร์รัปชั่นของพรรครักประเทศไทย ปลุกกระแสประชาชนเกือบล้านที่หย่อนบัตรให้ ให้ลุกขึ้นมาปฏิเสธแนวทางการจ่ายในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขอขอบคุณทุกคนที่ทำให้ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ พร้อมทั้งขอขอบคุณพรรคการเมืองที่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ไม่สร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองอีก ผมจะยินดีมากถ้าเห็นคนไทยเดินไปในหลักความปรองดอง และให้แนวทางรัฐสภาแก้ไขปัญหาบ้านเมือง แม้ว่ารักประเทศไทยเป็นพรรคเล็ก แต่เราจะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์ ทำงานการเมืองเพื่อส่วนรวมและประเทศอย่างเต็มกำลัง จะไม่ทำให้ผิดหวัง ที่สำคัญท่านจะไม่เห็นภาพการวอล์กเอาต์ของ ส.ส.พรรครักประเทศไทยแน่”...ชัยวัฒน์กล่าว
คนถัดมา โปรดปราน โต๊ะราหนี เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 3 ของพรรคนี้ คนนี้มีพื้นเพเป็นชาว จ.พัทลุง ปัจจุบันอายุเพิ่งจะเฉียด 31 ปี เกิดวันที่ 26 ส.ค. 2523 จบปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ปริญญาโทศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง กับเรื่องหน้าที่การงานนั้น ปัจจุบันเป็นผู้บริหารโรงเรียนธรรมศาสน์วิทยามูลนิธิ จ.พัทลุง ซึ่งเขาได้รับมอบหมายให้เป็นประธานสาขาพรรครักประเทศไทยทางภาคใต้ และมีส่วนช่วย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตอนลงหาเสียงในพื้นที่ภาคใต้ ขณะเดียวกันเขาคนนี้ก็ยังมีฐานเสียงมาจากกลุ่มผู้ประกอบอาชีพเครือข่ายขายตรงทั่วประเทศด้วย
และเพราะเขาคนนี้เคยเป็นรองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มุสลิมไทย ผู้ตรวจสอบมาตรฐานฮาลาล และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ว่าที่ ส.ส.คนนี้ก็ถูกคาดหวังว่าจะเป็นปากเสียงให้พี่น้องไทยมุสลิม
“ผมเคยเป็นผู้ช่วย ส.ว.พัทลุง ภักดี เจริญ วานิช แต่กับหัวหน้าพรรค (ชูวิทย์) ไม่เคยรู้จักเป็นส่วนตัวมาก่อนเลย แต่พอดีรู้จักกับเลขานุการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง ซึ่งรู้จักคุณชูวิทย์ เคยปรึกษาเรื่องจดทะเบียนจัดตั้งพรรค ก็ได้รับการชักชวนจากคุณชูวิทย์ผ่านทางนี้ มีพรรคการเมืองอื่น 2-3 พรรคมาทาบทามเช่นกัน แต่เมื่อได้รับการทาบทามจากทางนี้ก็ร่วมงานทันที เพราะส่วนตัวชื่นชอบคุณชูวิทย์อยู่แล้วในเรื่องแนวคิดและความกล้า ติดตามผลงานมาตั้งแต่สมัยลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. เมื่อได้รู้จักกันแล้วก็รู้ว่าคุณชูวิทย์เป็นคนจริง ทำจริง ซึ่งคนไทยชอบคนพูดจริงอย่างคุณชูวิทย์ จึง ไม่ใช่ว่าฟลุกที่ได้รับเลือกตั้ง ครั้งนี้”…โปรดปรานกล่าว
อย่างไรก็ตาม เขาบอกอีกว่า...“หลังจากทราบว่าจะได้รับเลือกตั้ง ผมนอนไม่หลับ และรับโทรศัพท์กันไม่หวาดไม่ไหว ขอบคุณทุกเสียงของพี่น้องที่ลงคะแนน และพร้อมตอบแทนทุกคนด้วยผลงานที่มีคุณภาพ การทำหน้าที่ ส.ส. เบื้องต้นที่มีการพูดคุยเรื่องการตรวจสอบ ก็คงจะเน้นปัญหาชายแดนภาคใต้
ผมเคยร่วมเป็นคณะทำงานด้านนี้ 1 ปี ชุดที่มี อานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน พอจะมีประสบการณ์ และเป็นคนภาคใต้ ก็คาดว่าจะได้รับความไว้วางใจให้ติดตามเรื่องการแก้ปัญหาภาคใต้” …โปรดปรานระบุ
ว่าที่ ส.ส. พรรครักประเทศไทยอีกคนหนึ่ง พงษ์ศักดิ์ เรือนเงิน เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 4 ปัจจุบันอายุเกือบ 45 ปี เกิดวันที่ 21 ต.ค. 2509 พื้นเพเป็นชาว จ.สมุทรสาคร จบปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหกรรมศาสตรบัณฑิตไฟฟ้ากำลัง มหาวิทยาลัยสยาม ซึ่งก่อนหน้านี้ทำงานเป็นวิศวกรอยู่ที่บริษัท สมบัติ ต้นตระกูล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือข่ายธุรกิจของชูวิทย์ และถูกชักชวนเข้ามาทำงานการเมือง ซึ่งประกอบกับมีความสนใจด้านการเมือง และในสมัยที่ชูวิทย์ลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. รวมถึงตอนที่ชูวิทย์ร่วมงานกับพรรคชาติไทย เขาคนนี้ก็เคยมีประสบการณ์ร่วมทำงานด้านการเมืองให้ชูวิทย์มาบ้าง จึงตกลงใจ
พงษ์ศักดิ์บอกว่า...พร้อมปฏิบัติตามนโยบายพรรคและยืนยันตามแนวทางหัวหน้าพรรค พร้อมจะทำหน้าที่ตรวจสอบเพื่อประชาชน เป็นการตรวจสอบไม่ใช่คัดค้านขัดขวาง จะตรวจสอบโดยโครงการใดของรัฐบาลเป็นเรื่องที่ดีต่อประชาชนก็พร้อมสนับสนุน แต่ถ้าไม่เป็นประโยชน์ต้องท้วงติง ซึ่งหัวหน้าพรรคก็พูดชัดเจนแล้ว
“ยอมรับว่าการหาเสียงที่ผ่านมานั้นชูท่านหัวหน้าพรรคเพียงคนเดียว ตอนที่รู้ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ก็ตื่นเต้น นอนไม่หลับ เพราะไม่คิดว่าจะได้ ซึ่งเดิมเคยมีการพูดถึงว่าพรรคเราจะได้ ส.ส. 2 ที่นั่ง แล้วกลายมาเป็น 4 ที่นั่ง ถือว่าเกินความคาดหมาย เป็นสิ่งที่ไม่นึกไม่ฝันจริง ๆ จากคะแนนเสียงที่ได้แสดงว่าประชาชนต้องการที่จะให้พรรครักประเทศไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งเราพร้อมจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่”...พงษ์ศักดิ์กล่าว
ที่ว่ามาก็เป็นบางส่วนของปูมชีวิต และแนวคิดการทำงานการเมืองนับจากนี้ ของ 3 ว่าที่ ส.ส. ที่มีหัวหน้าพรรคเป็นจอมลีลาเรียกความสนใจจากคนไทยได้ชะงัด ซึ่งดู ๆ แล้วประวัติ 3 ว่าที่ ส.ส.ก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไร และแนวคิด-คำพูดคำจาก็ไม่เบาเหมือนกัน อย่างรายหลังสุด คือ พงษ์ศักดิ์ ก็ยังบอกไว้ด้วยว่า...“แม้ใครจะมองว่าเป็นฝ่ายค้านจะไม่มีผลงาน แต่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล ถ้าต่างรู้จักทำหน้าที่ตนเอง ผลงานก็จะตกอยู่กับประชาชน!!”.
ภารกิจ...บนจุดยืน 'ชูวิทย์'
“ส.ส.พรรคของผมเป็นคนมีความรู้ความสามารถทั้งนั้น แต่เสียอย่างเดียวคือประชาชนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก โดยข้อเท็จจริง คนเหล่านี้อาจทำหน้าที่ได้ดีกว่าคนอื่น ๆ ที่ท่านรู้จักก็ได้”...เป็นเสียงของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ที่ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวหนังสือพ็อกเกตบุ๊ก “การเมืองแบบหมา ๆ”
ทั้งนี้ ชูวิทย์บอกอีกว่า...เรื่องการทำงานของว่าที่ ส.ส.อีก 3 คนของพรรค ได้วางแผนแบ่งหน้าที่ให้แต่ละคนทำเรียบร้อยแล้ว โดย พงษ์ศักดิ์ มีความรู้ความชำนาญด้านวิศวกรรมก็จะให้ดูงานกระทรวงคมนาคม สำหรับ โปรดปราน นี่น่าสนใจ มีเพื่อนฝูงญาติพี่น้องอยู่ในหลายจังหวัดทางใต้ จึงมอบหมายให้ดูงานความมั่นคงจังหวัดชายแดนใต้ ให้ดูแลและหาข้อมูลเชิงลึก ส่วน ชัยวัฒน์ เคยเป็นทนายความ ก็จะให้ดูแลเรื่องกฎหมาย การตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรี และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายในสภา ส่วนตนเองจะดูภาพรวมทั้งหมด
“จุดยืนผมชัดเจน ผมไม่กลัวใครและอำนาจใด ๆเพราะเคยผ่านมาแล้วทั้งนั้น ทั้งอำนาจมืด อำนาจสว่าง ผมยืนยันจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่!!”…หัวหน้าพรรครักประเทศไทยระบุ ก็รอดูกันไป??