สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เด็กชายชาวจีนวัย 5 ขวบ ที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะ
ยากจนในเมืองเฟิ่นหยาง มณฑลชานซี ประเทศจีน ต้องใช้ชีวิตอยู่เบื้องหลังหน้ากากไป
อีกกว่าสิบปี หลังจากที่เขาถูกไฟไหม้ลวกผิวหนังบริเวณศีรษะ ใบหน้า จนถึงลำตัวส่วนบน
จนกลายเป็นข่าวสุดสะเทือนอารมณ์ชาวจีนมาก่อนหน้านี้แล้ว
ด.ช.หวาง เจิ้งเซียง หรือ เซี่ยงเซี่ยง ที่แพทย์สั่งให้ใส่หน้ากากเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ที่แผลเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 10 ปีต่อจากนี้ หลังจากที่เขาล้มใส่กองฟางที่ไฟกำลังลุก
ไหม้ที่สวนหลังบ้าน เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ซึ่งแพทย์ที่ทำการรักษาหนูน้อย ไม่
สามารถผ่าตัดศัลยกรรมได้ จึงทำได้เพียงรอให้ผิวหนังที่แข็งแรงกว่านี้เกิดขึ้นใหม่เสียก่อน
ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานับ 10 ปี หรือจนกว่าหนูน้อยจะเจริญเติบโตย่างเข้าสู่วัยรุ่น ส่งผล
ให้เขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่เบื้องหลังหน้ากากนับตั้งแต่วันนี้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
พ่อของเด็กชาย เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รู้สึกสงสารลูกมาก เด็กในหมู่บ้านไม่ยอมเล่นด้วย
เพราะลูกชายดูน่ากลัว ตนต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เด็กๆ มาเล่นกับลูกตนเอง เพื่อไม่ให้
เกิดปมด้อยกับเด็กไปมากกว่านี้ ปัจจุบันมีเพียงน้องชายและสุนัขเป็นเพื่อนเล่นกับเขา
เท่านั้น ในขณะที่โรงเรียนในหมู่บ้านก็ไม่รับเข้าเรียน โดยอ้างว่าเซี่ยงเซี่ยงอาจจะทำให้
เด็กคนอื่นตื่นตกใจกลัว จึงทำให้เด็กชายผู้น่าสงสารรายนี้ เสียโอกาสทางการศึกษาไปในทันที