ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
หลายปีที่ผ่านมา ผู้ก่อการร้ายสามารถทำการระเบิดเครื่องบิน
รถยนต์ หรือ สถานที่ต่าง ๆ ได้โดยการซ่อนระเบิดไว้ในกระเป๋า รองเท้า หรือ
กระทั่งชุดชั้นในเพื่อป้องกันการตรวจจับ แต่มาวันนี้ เห็นทีว่าจะมีวิธีการน่ากลัว
ที่ยากต่อการตรวจจับมากยิ่งขึ้นกำเนิดขึ้นแล้ว เมื่อผู้ก่อการร้ายสามารถซ่อน
ระเบิดไปก่อการร้ายบนเครื่องบินได้ด้วยการฝังระเบิดไว้ในร่างกายเลยทีเดียว
เว็บไซด์เดลิเมล ได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 6 กรกฏาคมที่ผ่านมาว่า
หน่วยข่าวกรองสหรัฐ ฯ ได้ประกาศเตือนสนามบินต่าง ๆ ทั่วโลกว่า ให้ระวังผู้
ก่อการร้ายที่อาจก่อเหตุระเบิดเครื่องบินพาณิชย์กลางอากาศ โดยการผ่าตัดฝัง
ระเบิดไว้ในร่างกาย
โดยหน่วยข่าวกรองของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ ฯ
ระบุว่า ผู้ก่อการร้ายอาจเตรียมวางแผนระเบิดเครื่องบินพาณิชย์กลาง
อากาศ โดยเฉพาะเครื่องบินที่มุ่งหน้าเข้าสู่สหรัฐอเมริกา โดยผู้ก่อการ
ร้ายจะใช้วิธีผ่าตัดร่างกายตนเองแล้วฝังสารก่อระเบิดไว้ในร่างกาย ซึ่ง
วิธีนี้จะทำให้เครื่องสแกนเนอร์ตามสนามบินไม่สามารถตรวจพบระเบิดที่
ฝังอยู่ในร่างกายได้ โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ผู้วางระเบิดจะผ่าตัดร่างกายตั
วเอง แล้วยัดสารระเบิดที่มีชื่อว่า Pentaerythritol Tetranitrat หรือ PETN
เข้าไปในร่างกายและเย็บแผลปิดมิดชิดเหมือนเพิ่งได้รับการผ่าตัดมา
ทั้งนี้ สารดังกล่าวในปริมาณเพียงแค่ 8 ออนซ์ แต่มีอนุภาพรุนแรง
สามารถระเบิดเจาะยานยนต์หุ้มเกราะลึกได้ 5 นิ้วเลยทีเดียว และสามารถระเบิด
ทำให้เกิดรูขนาดใหญ่ขึ้นกับลำตัวเครื่องบิน ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่าง
ใหญ่หลวงได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า การผ่าตัดฝังระเบิดไว้ในร่างกายนี้ใช้เวลา
เพียง 2-3 วันเท่านั้น และเชื่อว่า ถ้าหากเป็นผู้ชาย จะผ่าตัดฝังระเบิดซุกซ่อนไว้
ใกล้ ๆ กับไส้ติ่ง หรือ ใกล้ ๆ กับสะโพก ในขณะที่ผู้หญิง จะฝังระเบิดไว้บริเวณ
ใกล้ ๆ ทรวงอก
ส่วนวิธีการจุดชนวนนั้น ผู้วางระเบิดจะฉีดสาร Triacetone
Triperoxide (TATP) เข้าสู่ผิวหนังเพื่อไปทำปฏิกริยากับระเบิดที่ฝังอยู่ภายใน
ซึ่งวิธีการนี้ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญกลัวเป็นอย่างมากว่า ผู้วางระเบิดอาจจะแกล้ง
บอกว่าตนเป็นโรคเบาหวานและต้องฉีดยาเข้าเส้นเพื่อระงับอาการ ถ้าเป็นเช่น
นั้นก็จะเกิดระเบิดได้ทันที
จากข้อมูลเหล่านี้ ทำให้สหรัฐ ฯ ต้องใช้มาตรการในการ
ตรวจสอบผู้โดยสารที่จะเข้ามายังสนามบินให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดย
ใช้เครื่องสแกนเนอร์ที่มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถเอ็กซเรย์เผยให้เห็น
อวัยวะภายในร่างกายทุกส่วน เพื่อที่จะเห็นได้ว่ามีการผ่าตัดซุกซ่อน
ระเบิดไว้ในร่างกายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม สหรัฐ ฯ ก็ได้มีเตรียมพร้อม
ระวังภัยมาตั้งแต่การเสียชีวิตของนายอุซามะห์ บิน ลาดินหัวหน้ากลุ่ม
อัลกออิดะห์ ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยเกรงว่าอาจมีการแก้แค้น
จึงมีคำสั่งเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยในสนามบิน รวมถึงอาคาร
รัฐบาลต่าง ๆ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม