10. Mills Darden (1799-1857) ชาวอเมริกัน หนัก 463 กิโลกรัม แต่ว่าคนนี้แปลกกว่าคนอื่นนิดหน่อย เพราะปกติคนหนักเกิน 450 กิโลกรัมจะมี BMI เป็นร้อยๆเลย แต่คนนี้มี BMI แค่ 87.5 เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่าเขาสูงถึง 7 ฟุต 6 นิ้ว ( 229 ซม.) แต่ว่าภรรยาของเขาน่ะ สูงแค่ 4 ฟุต 11 นิ้ว ( 150 ซม.เท่านั้นเอง) แถมหนักแค่ 44 กิโลเอง แหม อยากรู้ว่าตอน " SI " จะทำยังไงเนี่ย
ปล ปัจจุบันไม่มีรูปของเขาหลงเหลืออยู่เลย เลยมีแค่รูปป้ายที่ระลึกถึงเขามาให้ดูแค่นั้น ( แต่แปลกว่าป้ายทำไมบอกว่าเขาสูง 8 ฟุต 5 นิ้วเลย )
โดย: kevin G [14 ม.ค. 53 13:32] ( IP A:58.181.149.27 X: )
ความคิดเห็นที่ 1
9.Kenneth Brumley ชายผิวดำชาวอเมริกัน ผู้เป็นคุณพ่อลูก 4 ทำให้เขามีฉายาว่า "Half Ton Dad" หรือ " คุณพ่อครึ่งตัน " เขามีน้ำหนักถึง 468 กิโลกรัม Brumley ได้ออกข่าวเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากที่เขาต้องนอนอยู่แต่บนเตียงมานานกว่า 4 ปี เนื่องจากน้ำหนักมากจนขารับน้ำหนักไม่ไหว ไม่สามารถยืนได้ เจ้าหน้าที่ต้องทุบกำแพงบ้านบางส่วนเพื่อเอาตัวเขาออกไปโรงพยาบาล หลังจากนั้นหมอได้ทำการผ่าตัดเอาไขมันส่วนเกินออกจากขาและท้อง ปรากฎว่าตัดออกมาได้ตั้ง 95 กิโลกรัม หลังจากนั้นหมอก็ผ่าตัด Gastric Bypass ให้กับเขา ร่วมกับควบคุมอาหาร ทำให้ตอนนี้น้ำหนักของเขาเหลือ 222 กิโลกรัม และสามารถยืนได้เป็นครั้งแรกในระยะเวลาหลายปี แม้จะไม่กี่นาทีต่อวันก็ตาม
โดย: kevin G [14 ม.ค. 53 13:49] ( IP A:58.181.149.27 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
8. Robert Earl Hughes ( 1926-1958 ) ชาวอเมริกัน เจ้าของน้ำหนัก 485 กิโลกรัม และยังมีรอบอกถึง 3.15 เมตร เขาคนนี้เป็นเจ้าของน้ำหนักตัวที่มากที่สุดในโลกในยุคนั้นอยู่หลายปี แม้หลังจากที่เขาตายแล้ว ก่อนจะถูกลบสถิติไปในเวลาต่อมา
เขาเสียชีวิตในปี 1958 ด้วยโรคหัด
โดย: kevin G [14 ม.ค. 53 14:51] ( IP A:58.181.149.27 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
7. Patrick Deuel ชาวอเมริกัน น้ำหนักสูงสุดของเขาคือ 486 กิโลกรัม เจ้าของฉายา " Half Ton Man " เขาคนนี้เคยทำงานเป็นผู้จัดการภัตตาคาร แต่ต่อมาน้ำหนักของเขาเพิ่มมากจนเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ต้องอยู่แต่บนเตียงนานถึง 7 ปี กว่าจะมีผู้นำส่งโรงพยาบาล และเพราะว่าตัวเขาใหญ่มากทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทุบกำแพงบ้านเพื่อนำตัวเขาออกมา และต้องใช้เครื่องชั่งน้ำหนักปศุสัตว์มาชั่งน้ำหนักเขาเนื่องจากว่าเครื่องชั่งธรรมดาใช้ไม่ได้
ที่โรงพยาบาล เขาเข้ารับการผ่าตัด Gastric bypass เพื่อลดน้ำหนัก และได้ตัดเอาไขมันส่วนเกินตามตัวออกไป น้ำหนักของเขาจึงค่อยๆลดลง จนตอนนี้เหลือ 193 กิโลกรัม
โดย: kevin G [14 ม.ค. 53 15:09] ( IP A:58.181.149.27 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
6. Michael Hebranko ชายชาวอเมริกัน คนนี้แปลกกว่าเพื่อน เพราะว่า น้ำหนักของเขาที่เป็นสถิติที่ 500 กิโลกรัม น่ะ ไม่ใช่น้ำหนักที่คนไปพบครั้งแรก แต่เป็นน้ำหนักที่พุ่งขึ้นไปใหม่หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักไปแล้วต่างหาก เพราะเดิมทีเขาหนัก 410 กิโลกรัม แต่เขาสามารถลดน้ำหนักเหลือเพียง 90 กิโลกรัมในเวลาเพียง 19 เดือนในปี 1990 ด้วยวิธีควบคุมอาหารและออกกำลัง ทำให้เขากลายเป็น " บุคคลที่สามารถลดน้ำหนักได้มากที่สุดโดยไม่ได้พึ่งการผ่าตัดจากแพทย์ " แต่ว่าต่อมา น้ำหนักเขาดันพุ่งกลับขึ้นไปใหม่จนอยู่ที่ 500 กิโลกรัม จนต้องเข้าโรงพยาบาลในที่สุด
โดย: kevin G [14 ม.ค. 53 15:31] ( IP A:58.181.149.27 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
5.Rosalie Bradford ( 1943-2006 ) หญิงชาวอเมริกัน มีน้ำหนักสูงสุดคือ 544 กิโลกรัม แม่ของเธอทิ้งเธอไปตั้งแต่เล็ก ทำให้เธอเกิดภาวะซึมเศร้าและใช้การกินเป็นทางออก ทำให้น้ำหนักเธอขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนอายุ 15 ปีก็หนักถึง 140 กิโลกรัม ต่อมาอายุ 20 ปี เธอแต่งงานและมีลูก หลังจากมีลูก เธอก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากทำอาหารแล้วก็กิน ทำอย่างนี้ทุกวันจนน้ำหนักก็ยิ่งพุ่ง สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถแม้แต่จะยืนได้ ต้องนอนอยู่แต่บนเตียงนานกว่า 8 ปี จนกระทั่งมีคนพาไปโรงพยาบาลในที่สุด ทำให้เธอสามารถลดน้ำหนักลงได้ถึง 416 กิโลกรัม และกลายเป็นเจ้าของสถิติ " ผู้หญิงที่ลดน้ำหนักได้มากที่สุดในโลก "
ปัจจุบันเธอเสียชีวิตแล้วในปี 2006 ที่ฟลอริด้า
ส่วนนี่รูปเธอก่อนและหลังลดน้ำหนัก และเธอยังเป็นผู้ให้คำแนะนำและให้กำลังใจกับ Patrick Deuel ในช่วงแรกๆที่เข้าโรงพยาบาลด้วย
โดย: kevin G [14 ม.ค. 53 15:33] ( IP A:58.181.149.27 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
4. Walter Hudson ( 1944-1991 ) ชาวอเมริกัน น้ำหนักสูงสุดของเขาคือ 544 กิโลกรัม นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของรอบเอวที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย เพราะรอบเอวของเขาคือ 3.02 เมตร อาหารของเขาในแต่ละวันก่อนจะพบแพทย์คือ ไส้กรอก 2 กล่องใหญ่ เบคอน 1 ปอนด์ ไข่ไก่ 12 ฟอง ขนมปัง 1 แถวใหญ่ แฮมเบอร์เกอร์ 4 ชิ้น ชีสเบอร์เกอร์ 4 ชิ้น เฟรนช์ฟราย 8 กล่อง สเต็ก 3 ชิ้น มันฝรั่งอบ 4 หัว และ บร็อคโคลี่ อีก 4 หัว พร้อมด้วยน้ำโซดาอีกมื้อละกว่า 1 ลิตร
ในการช่วยเหลือเขาออกมานั้นต้องใช้พนักงานดับเพลิงตัวใหญ่ถึง 9 คนค่อยๆพยุงเขาออกมาจากเตียง ต่อมา Dick Gregory นักโภชนาการได้เข้ามาช่วยเหลือ Hudson โดยสูตรอาหารพิเศษของเขาเอง เขาหวังจะใช้ Hudson ในการโปรโมตโปรแกรมอาหารลดน้ำหนักของเขาด้วย นอกจากนี้ เขาก็อ้างว่าน้ำหนักของ Hudson ลดลงไปในระหว่าง 90-360 กิโลกรัม แต่ว่า Hudson ปฏิเสธไม่ยอมเข้าร่วมในวิดีโอที่เกี่ยวกับโปรแกรมอาหารลดน้ำหนัก Gregory จึงหยุดการช่วยเหลือทันที
Hudson เสียชีวิตขณะนอนหลับในปี 1991 หลังจากที่เขาประกาศว่าจะแต่งงานได้เพียงอาทิตย์เดียว
3. Carol Yager ( 1960-1994 ) หญิงชาวอเมริกัน เจ้าของตำแหน่งหญิงที่หนักที่สุดในโลกตลอดกาล น้ำหนักอย่างเป็นทางการที่หนักที่สุดคือ 545 กิโลกรัม ซึ่งชั่งตอนเธอเสียชีวิตใหม่ๆ แต่แฟนของเธออ้างว่าก่อนหน้านี้ เธอเคยหนักถึง 1600 ปอนด์ หรือ 727 กิโลกรัม แต่ไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่หมอของเธอก็ปฏิเสธที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งหากเป็นจริง เธอจะเป็นเจ้าของสถิติ มนุษย์ที่มีน้ำหนักมากที่สุดในโลกตลอดกาล ทันที
เธอบอกว่าความอ้วนของเธอเริ่มมาจากการที่เธอถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยญาติของเธอตั้งแต่เด็กๆ แต่เธอปฏิเสธที่จะพูดว่าญาติคนนั้นคือใคร จากนั้นน้ำหนักของเธอก็พุ่งพรวดจนกระทั่งเธอไม่สามารถเดินหรือยืนได้เช่นเดียวกับคนอ้วนมากๆคนอื่นๆ ทำให้เธอได้แต่นอนบนเตียงเท่านั้น ในช่วงสองปีสุดท้ายของชีวิต เธอเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น และการไปโรงพยาบาลแต่ละครั้งก็ต้องใช้พนักงานดับเพลิง 15-20 คน โดยแบ่งเป็นสองทีม ทีมแรกจะค่อยๆส่งตัวเธอออกมาจากบ้าน อีกทีมจะรออยู่ด้านนอกคอยรับตัวเธอออกมา จากนั้นก็นำส่งโรงพยาบาล ซึ่งเฉพาะค่าที่จ้างพนักงานดับเพลิงพาเธอไปส่งโรงพยาบาลแต่ละครั้งก็เกือบ 1000 เหรียญที่เดียว
เธอเสียชีวิตในปี 1994 ด้วยโรคเบาหวาน ไตวาย และโรคแทรกซ้อนต่างๆอีกมากมาย
โดย: kevin G [14 ม.ค. 53 18:44] ( IP A:125.25.107.30 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
2. Manuel Uribe ชาวเม็กซิกัน เขาคนนี้เป็นข่าวดังในปี 2006 หลังจากที่เขาประกาศตัวลงหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์เพื่อเรียกร้องขอความช่วยเหลือ เพราะความที่เขาน้ำหนักตัวมากทำให้เขาไม่สามารถลุกจากเตียงได้เลยมาตั้งแต่ปี 2001 ได้แต่นั่ง นอน กิน ขับถ่ายอยู่บนเตียงอยู่ตลอด เมื่อแพทย์ไปพบ ตอนนั้นเขาหนักถึง 597 กิโลกรัม ส่งผลให้เขาได้รับการบันทึกว่า เป็น มนุษย์ที่น้ำหนักมากที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ และเป็นอันดับสองของมนุษย์ที่หนักที่สุดในโลกตลอดกาล
เขาเล่าว่า การอ้วนของเขาเริ่มหนักมากตั้งแต่เขาแต่งงานครั้งแรกและย้ายไปทำงานที่ ดัลลัส สหรัฐอเมริกา เขาทำงานเป็นคนซ่อมเครื่องพิมพ์ดีด ทำให้เขาได้แต่นั่งทำงานบนโต๊ะทั้งวัน ประกอบกับอเมริกามีรถยนต์ใช้กันมาก ทำให้เขาเลือกที่จะขึ้นรถแทนการเดิน และไม่ได้ออกกำลังกายเลย น้ำหนักก็พุ่งพรวดจนสุดท้าย ภรรยาคนแรกของเขาทนไม่ได้ ก็เลยขอเลิกกับเขาไป
ปัจจุบันด้วยความช่วยเหลือของแพทย์ เขาสามารถลดน้ำหนักลงมาเหลือ 360 กิโลกรัม โดยที่หมายมั่นปั้นมือว่า จะต้องทุบสถิติกลายเป็น มนุษย์ที่ลดน้ำหนักได้มากที่สุดในโลก ให้ได้ และเมื่อเดือน ต.ค ที่ผ่านมา เขาก็เข้าพิธีสมรสกับภรรยาคนที่สองไปเรียบร้อยแล้ว
โดย: kevin G [14 ม.ค. 53 19:03] ( IP A:125.25.107.30 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
และอันดับหนึ่ง ได้แก่ Jon Brower Minnoch ชาวอเมริกัน ( 1941-1983 ) เขาประสบปัญหาน้ำหนักเกินมาตั้งแต่เด็กๆ และมาสุดๆตอนเขาอายุ 36 ปี ซึ่งถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยภาวะหัวใจและระบบหายใจล้มเหลว แพทยพบว่าเขาหนักถึง 639 กิโลกรัม ทำให้เขาทุบสถิติน้ำหนักมากที่สุดตลอดกาลของ Robert Earl Hughes ( 485 กิโลกรัม ) เจ้าของสถิติขณะนั้นแบบขาดลอย และยังไม่มีใครแซงได้จนบัดนี้ ( คงมีคนอยากแซงหรอก ) และเช่นกัน การเคลื่อนย้ายเขานั้นต้องใช้พนักงานดับเพลิงเป็นโหลๆ ในการ " ขน " เขาไปขึ้นเรือเฟอร์รี่เพื่อไปพบแพทย์ และความที่เขาตัวใหญ่จนไม่สามารถแม้จะขยับพลิกตัวเองได้ ทำให้ต้องมีเจ้าหน้าที่ถึง 13 คน มาคอยพลิกตัวเขาอยู่ตลอด
และเมื่อพบแพทย์ น้ำหนักของเขาก็ลดลงไปเหลือ 216 กิโลกรัมในเวลาเพียง 16 เดือน รวมเบ็ดเสร็จลดไปได้ 419 กิโลกรัม ส่งผลให้เขากลายเป็นเจ้าของสถิติ มนุษย์ที่ลดน้ำหนักตัวได้มากที่สุดตลอดกาล มาจนบัดนี้ แต่แค่ปีเดียวหลังจากนั้นเขาก็ต้องกลับมาโรงพยาบาลอีกเนื่องจากน้ำหนักเขาเพิ่มขึ้นเป็น 432 กิโลกรัม และจากนั้นอีกประมาณสองปี เขาก็เสียชีวิต
โดย: kevin G [14 ม.ค. 53 20:14] ( IP A:125.25.152.118 X: )