ข่าวดี"หลินฮุ่ย"ท้อง ลุ้นคลอด16กรกฎานี้
รับแพนด้าน้อยตัวใหม่ สวนสัตว์ชี้สัญญาณชัด
คนไทยได้ลุ้นต้อนรับแพนด้าน้อยตัวใหม่เพิ่มอีก 1 ชีวิต หลังมีสัญญาณค่อนข้างชัดเจนว่า แม่แพนด้า "หลินฮุ่ย" ได้ตั้งท้องลูกตัวใหม่จากการผสมเทียมแล้ว
โดยเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ นายภิมุข สิมะโรจน์ ผู้อำนวยการองคการสวนสัตว์ ได้แถลงข่าวการตั้งท้องของหมีแพนด้าหลินฮุ่ยว่า องค์การสวนสัตว์ได้ทำการผสมเทียมให้แก่หมีแพนด้าหลินฮุ่ย เมื่อวันที่ 24 - 25 เมษายนที่ผ่านมา รวม 2 ครั้ง จากนั้นก็เริ่มคิดตามภาวะการตั้งท้องของหลินฮุ่ยมาเป็นลำดับ โดยมีการเก็บตัวอย่างของปัสสาวะเพื่อตรวจดูระดับของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนทำหน้าที่ควบคุมการตั้องท้อง การสังเกตุพฤติกรรมต่างๆ และการสังเกตุการเปลี่ยนแปลงของร่างกายของหลินฮุ่ยเป็นประจำทุกวัน
จนกระทั่ง มีการตรวจพบว่า ระดับของฮอร์โมรโปรเจสเตอโรนในปัสสาวะเพิ่มสูงขึ้น เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน หรือประมาณ 45 วันหลังจากการผสมเทียม โดยเพิ่มจากระดับปกติและต่ำกว่า 10 นาโนกรัมต่อมิลลิกรัมคริเอทีนินโดยลำดับ และขึ้นถึงจุดสูงสุดที่ระดับประมาณ 500 นาโนกรัมฯ ในวันที่ 23 มิถุนายน ก่อนเริ่มลดลงมาโดยลำดับ จนถึงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 90 นาโนกรัมฯ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา
นายภิมุข กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม องค์การสวนสัตว์ได้ตรวจการตั้งท้องด้วยวิธีการอัลต้าซาว เพื่อหาตัวอ่อน โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจาก คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย มาตรวจสอบ และตรวจซ้ำอีกครั้งโดยสัตวแพทย์ของโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย เมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้
จากการอัลต้าซาวทั้ง 2 ครั้ง ในส่วนที่เป็นมดลูก พบผนังมดลูกที่หนาขึ้น เพื่อรับการฝังตัวของตัวอ่อน พบโพรงมดลูก และยังพบส่วนที่คล้ายถุงหุ้มตัวอ่อน เมื่อพยายามตรวจลึกลงไป ก็เห็นภาพจุด ที่มีการเต้นเป็นจังหวะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ แต่พอพยายามที่จะใช้โปรแกรมแยกความแตกต่างของอวัยวะต่างๆ เครื่องกลับไม่รายงานผลว่า เป็นอวัยวะส่วนใด จึงยุติการอัลต้าซาวด์
ขณะเดียวกันยังพบว่า แพนด้าหลินฮุ่ยเริ่มมีพฤติกรรมการเลียอวัยวะเพศปรากฏเพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง จึงพอสรุปได้จากพฤติกรรม และจากผลการอัลต้าซาวด์ว่า ยังต้องติดตามตรวจระยะต่อไป จนกว่าจะตรวจพบตัวอ่อนอย่างชัดเจน หรือจนกว่าจะมีการคลอด จึงสามารถยืนยันโดยชัดเจน อย่างไรก็ตามจากพฤติกรรมการแสดงออก คาดว่าน่าจะมีการตั้งครรภ์แล้ว และหากจะคลอด ก็จะใช้เวลาอีก 10 วันนับจาก คือราววันที่ 16 กรกฎาคม