ผู้กลับชาติมาเกิดจากดาวประกายพรึก
พิธีกร: คำถามแรกนะครับ ออมเนค โอเนค คือชื่อของคุณใช่ไหมครับ?
Omnec: จริง ๆ เรียก ออมเนค ก็พอค่ะ แต่ ออมเนค โอเนค เป็นชื่อจริงของฉันค่ะ
พิธีกร: อย่างแรกสุดเลยนะครับ ผู้ชมทางบ้านหรือเราเองได้แต่จินตนาการว่ามีผู้คนบนดาวศุกร์เพราะนักวิทยา ศาสตร์บอกว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวดวงนั้น หรือว่าพวกเขาไม่ได้บอกความจริงแก่เรา หรือว่าจริง ๆ แล้วเราไม่สามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตบนดาวศุกร์ได้ แล้วคุณอยู่ในมิติอื่นหรือเปล่าครับ?
Omnec: ในยุคหนึ่งนั้นสิ่งมีชีวิตบนดาวศุกร์ก็เคยมีอารยธรรมอยู่ในโลกทางกายภาพ อยู่เช่นเดียวกับมนุษย์บนโลกใบนี้ แต่นั่นก็เป็นเวลานานมาแล้ว อย่างน้อยก็ 20 ล้านปีค่ะ
พิธีกร: นานมากจริง ๆ นะครับ
Omnec: แต่ว่า ณ ตอนนี้วัฒนธรรมและสังคมของเราอยู่ในมิติคู่ขนานกับโลกทางกายภาพ อันที่จริงชาวดาวศุกร์ก็เป็นบรรพบุรุษของชนเผ่าโบราณบางเผ่าพันธุ์บนโลกนี้ แล้วอันที่จริงทุกชนเผ่าบนโลกล้วนสืบเชื้อสายจากชนเผ่าจากดาวดวงอื่นทั้ง สิ้น แต่เหตุการณ์ทั้งหมดก็เกิดขึ้นก่อนที่มนุษย์จะบันทึกประวัติศาสตร์เอาไว้ เสียอีกนะคะ
พิธีกร: แล้วชาวดาวศุกร์ก็เป็นกลุ่มแรก ๆ ที่เกิดขึ้นในจักรวาลด้วยใช่ไหมครับ?
Omnec: ใช่ค่ะ ก็จริง ๆ แล้วมนุษย์และระบบสุริยะต่าง ๆ มาจากกาแล็กซี่อื่นก่อนที่โลกจะก่อกำเนิดเป็นดาวเคราะห์เสียอีก พวกเขาถูกส่งมาเพื่อคุ้มครองกาแล็กซี่แห่งนี้และจุติเป็นสิ่งมีชีวิตขั้นสูง แล้วก็เข้าครองดาวเคราะห์อีกสี่ดวงในระบบสุริยะก็คือ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี และ ดาวเสาร์ พวกเขาก็คือบรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์หลักสี่เหล่าบนโลกนี้ แล้วต่อมาพวกเขาก็เข้าครองโลกนี้ด้วย นับจากนั้นเป็นต้นมาพวกเขาที่เป็นต้นกำเนิตเผ่าพันธุ์ ไม่ใช่กลุ่มที่มาบนโลกนะคะ แต่เป็นกลุ่มดั้งเดิมจากดาวอื่นก็อยู่ในมิติคู่ขนานกับโลกทางกายภาพ แล้วด้วยวิทยาการและความสามารถทางจิตวิญญาณพวกเราชาวดาวศุกร์ เราก็สำแดงร่างปรากฏและอยู่ในจักรวาลทางกายภาพได้ค่ะ
พิธีกร: แล้วบนดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ เช่น ดาวอังคาร ดาวเสาร์ มีสิ่งมีชีวิตอยู่ไหมครับ?
Omnec: ไม่ค่ะ ไม่ได้อยู่บนโลกทางกายภาพ
พิธีกร: แต่ว่าอยู่ในมิติที่มีระดับการสั่นสะเทือนสูงกว่าใช่ไหมครับ?
Omnec: ใช่แล้วค่ะ แต่คุณก็ยังพบร่องรอยอารยธรรมของชนเผ่าต่าง ๆ ได้อยู่ค่ะ
พิธีกร: บนดาวอังคารสินะครับ
Omnec: ใช่ค่ะ ก็เห็นว่ามีการค้นพบอยู่บ้าง
พิธีกร: ก็คงเป็นอย่างนั้นนะครับ แต่บนดาวอังคารนี่ก็ยังมีสิ่งมีชีวิตขั้นสูงที่อยู่ในมิติสูงเช่นเดียวกับ ชาวดาวศุกร์อยู่ใช่ไหมครับ?
Omnec: แน่นอนค่ะ
พิธีกร: ครับ ว่าแต่คุณมายังโลกนี้ได้อย่างไร คุณขึ้น UFO มาหรือว่ามาในแบบอื่นครับ?
Omnec: อืม...บนดาวเคราะแต่ละดวง โดยเฉพาะดาวเคราะห์ที่เก่าแก่จะมีเมืองอยู่แห่งหนึ่งที่มีที่ตั้งอยู่ทั้งใน โลกทางกายภาพและในมิติคู่ขนานด้วย ประมาณว่าเป็นเมืองที่เร้นอยู่…
พิธีกร: บนโลกนี้ด้วยเหรอครับ หรือว่าบนดาวดวงอื่น?
Omnec: บนโลกนี้ก็มีวิหารเร้นลับโบราณอยู่ตามที่ต่าง ๆ แล้ววิหารเหล่านี้ก็เป็นที่ที่มนุษย์เรียกว่าประตูเชื่อมระหว่างมิติ แต่ว่าสถานที่เหล่านี้ก็ถูกซ่อนไว้นานมาแล้ว บนดาวดวงอื่น ๆ ก็มีสถานที่ลักษณะนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งเปิดโอกาสให้เราปรากฏร่างได้ และยังทำให้เรานำยานพาหนะออกมาใช้เดินทางในโลกทางกายภาพได้อีกด้วย เรามียานอวกาศที่ใช้เดินทางระหว่างกาแลคซี่ ระหว่างมิติ และข้ามเวลา และนี่ก็คือวิธีที่ฉันเดินทางมายังโลกนี้ หลังจากที่ฉันสำแดงร่างปรากฏในเมืองที่ว่านี้บนดาวศุกร์ ก็มีคนพาฉันขึ้นยานอวกาศซึ่งใช้วิธีเดียวกันกับการปรากฏร่าง แล้วฉันก็ถูกนำมาที่ธิเบตมาอยู่ที่สำนักสงฆ์แล้วพำนักอยู่ที่นั่นในช่วงปี แรก เพื่อที่จะปรับตัวให้ชินกับสภาพแรงดึงดูดของโลก เรียนรู้ภาษา และปรับสภาพร่างกายของตัวฉันเองค่ะ
พิธีกร: คุณคงต้องปรับตัวลำบากเลยทีเดียวนะครับ จากดาวที่มีแรงดึงดูดน้อยแล้วต้องมาอยู่ยังโลกที่แรงดึงดูดต่างกันเช่นนี้
Omnec: ใช่แล้วค่ะ การปรับสภาพร่างกายนั้นลำบากจริง ๆ
พิธีกร: คุณออกเดินทางมาตอนอายุเท่าไหร่ครับ แล้วคุณลงมาเกิดใหม่หรือว่ามาพร้อมกายหยาบเลย?
Omnec: ถ้าจะนับตามมาตรฐานระบบเวลาและความเข้าใจของมนุษย์แล้วละก็ ฉันก็มาตอนที่ฉันเป็นเด็กอายุเจ็ดขวบค่ะ
พิธีกร: เป็นช่วงที่คุณมาครั้งแรกสินะครับ
Omnec: แต่ถ้านับตามเวลาที่อยู่ในมิติของชาวดาวศุกร์รวมถึงเวลาของโลกมนุษย์แล้ว ฉันก็คงเกิดมาได้ 130 ปีแล้วละค่ะแม้ว่าฉันจะดูเหมือนเด็กเจ็ดขวบก็ตาม เพราะว่าช่วงอายุพวกเรายืนยาวมากและกระบวนการชราภาพก็ดำเนินไปอย่างช้ามาก ณ ตอนนี้อายุของฉันที่ใกล้เคียงที่สุดก็คือ 250 ปีค่ะ
พิธีกร: คุณก็ยังดูดีอยู่นะครับแม้อายุจะปาเข้าไปขนาดนั้นแล้ว
Omnec: แต่บนโลกฉันก็มีอายุเทียบเท่ากับคนอายุ 50 ปีค่ะ
พิธีกร: ครับ แล้วนี่เป็นงานหรือเป็นหน้าที่ที่คุณต้องมาที่นี่หรือว่าคุณอาสามา แล้วทำไมคุณถึงมาที่นี่ครับ?
Omnec: เป็นเหตุผลรวมกันทั้งหมดนั่นแหละค่ะ ฉันได้รับคำขอจากจิตวิญญาณเบื้องบน
พิธีกร: จิตวิญญาณของดาวศุกร์หรือว่าเป็นจิตวิญญาณ...
Omnec: จิตวิญญาณเบื้องบนเป็นจิตวิญญาณของสรรพสิ่งทั้งมวลในจักรวาลค่ะ
พิธีกร: ในมิตินี้แล้วก็มิติที่สูงกว่าด้วย ไม่ใช่แค่ดาวศุกร์และดาวอื่น ๆ ใช่ไหมครับ?
Omnec: ค่ะ เหล่าจิตวิญญาณเบื้องบนมีภารกิจเกี่ยวข้องกับชะตาลิขิตของมนุษย์บนโลกและโลก ทางกายภาพด้วย จิตวิญญาณเบื้องบนเหล่านี้ครั้งหนึ่งก็เคยมาจุติบนโลกแล้ว ณ ตอนนี้ก็วิวัฒน์เป็นจิตวิญญาณขั้นสูงแล้วค่ะ
พิธีกร: เหมือนกับศาสดาต่าง ๆ ใช่ไหมครับ พระเยซูก็เช่นกันใช่ไหมครับ?
Omnec: ค่ะ พระเยซูก็เป็นจิตวิญญาณหนึ่งในกลุ่มนั้นค่ะ....ภารกิจของเหล่าจิตวิญญาณ เบื้องบนก็คือช่วยให้มนุษย์และคนในสังคมได้ทราบเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่ ขาดหายไป สิ่งที่มนุษย์ไม่ได้บันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ซึ่งสูญหายไปบนโลกนี้ และให้มนุษย์ทราบถึงต้นกำเนิดที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง จิตวิญญาณจะนำข้อมูลกลับมาให้มนุษย์เพราะว่าโลกนี้กำลังเข้าสู่ยุคที่เรียก ว่า “New Age” (นิว เอจ) ซึ่งการรับรู้และจิตสำนึกจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และข้อมูลต่าง ๆ ต้องนำกลับมาให้มนุษย์ได้รับทราบเพื่อที่จะเปลี่ยนมุมมองและแนวคิดของมนุษย์ บนโลก ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับคำสอนที่ศาสนาคริสต์มีอยู่ค่ะ
พิธีกร: คุณเป็นคนเดียวที่มาจากดาวศุกร์หรือเปล่า หรือว่ามีอีกหลายคนมาที่นี่ครับ?
Omnec: ไม่ค่ะ จริง ๆ แล้วมีอยู่มากมายเลย
พิธีกร: แต่คุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าคนทั่วไปจะรู้จักกันดีนะครับ
Omnec: ก็...ฉันเป็นคนที่ได้รับเลือกให้เผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณชนค่ะ
พิธีกร: ถ้าอย่างนั้นก็ยังมีอีกหลาย ๆ คนปฏิบัติงานอยู่ใช่ไหมครับ?
Omnec: ค่ะ พวกเขาปฏิบัติงานกันในหลายระดับค่ะ
พิธีกร: ครับ แล้วคุณมีความสามารถพิเศษอย่างเช่นการอ่านความคิด หรือดูรัศมีออร่าหรืออะไรทำนองนั้นไหมครับ?
Omnec: จริง ๆ แล้วเราทั้งหลายมีกฎแห่งจิตวิญญาณบางประการที่คุ้มครองความคิดส่วนบุคคลอยู่ ค่ะ ดังนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้น แต่...
พิธีกร: คุณไม่อยากใช้พลังอย่างนั้นหรือว่าคุณทำไม่ได้?
Omnec: ไม่ได้ค่ะเพราะว่ามีการคุ้มครองลักษณะพิเศษอยู่ แต่ถ้าหากว่ามีความคิดมุ่งร้ายผุดขึ้นมาในความคิดของคุณ เราก็จะรับรู้ได้ แต่หลายคนบนโลกนี้ก็ไม่อาจรับรู้แบบพวกเราได้เพราะ...
พิธีกร: แต่ก็มีคนบนโลกนี้ที่คุณสามารถโทรจิตสื่อกันได้ใช่ไหมครับ?>>
Omnec: ค่ะ ถ้าในแง่ของโทรจิตแล้วฉันก็สื่อกระแสจิตกับมนุษย์ที่มีความสามารถในด้านนี้ ได้ แล้วฉันก็ใช้วิธีนี้เพื่อสื่อกับคนที่ไม่ได้อยู่บนโลกด้วย
พิธีกร: บนดาวศุกร์เหรอครับ?>>
Omnec: ค่ะ ฉันสื่อจิตไปเวลาที่ต้องการข้อมูลต่าง ๆ แล้วนี่ก็ไม่ใช่การเข้าทรงด้วยเพราะว่าฉันติดต่อได้โดยตรงกับจิตหรือสิ่งมี ชีวิตที่ฉันรับรู้ได้ แต่ว่า...อย่างที่เราก็รู้ว่าผู้คนในอารยธรรมโบราณบนโลกเคยมีความสามารถใน การสื่อสารกันโดยใช้กระแสจิตเช่นนี้ และสามารถจดจำผู้ที่อยู่ก่อน รวมทั้งประวัติศาสตร์ของพวกเขาได้ แต่ว่าก็เกิดมีการปรับแต่งพันธุกรรมของมนุษย์โลกหลังจากยุคแอตแลนติส แล้วก็มีการรุกรานจากระบบจักรวาลอื่นเข้ามาด้วย...
พิธีกร: เป็นเวลานานนับพันปีแล้วใช่ไหมครับ?
Omnec: ใช่แล้วค่ะ อันที่จริงก็เป็นช่วงก่อนคริสตกาลนั่นแหละค่ะการปรับแต่งพันธุกรรมมนุษย์ก็ เป็นการแยกสมองออกเป็นสองส่วนด้วยกัน นั่นทำให้มนุษย์ไม่สามารถสื่อสารกันได้โดยไม่ใช้คำพูด แล้วยังไม่สามารถจดจำอารยธรรมที่มีอยู่ก่อน ก่อนที่พวกเขาจะมาเกิดในโลกทางกายภาพนี้ เหตุนี้มนุษย์จึงใช้สมองสองส่วนนี้ได้เพียงแค่สำหรับการใช้ชีวิตอยู่บนโลก ทางกายภาพนี้เท่านั้น สิ่งนี้เป็นสิ่งที่มนุษย์ที่มารุกรานโลกเป็นคนทำขึ้นมา ซึ่งเป็นกลุ่มที่ก่อตั้งระบบชนชั้นและการแบ่งแยกระหว่างเผ่าพันธุ์และความ ขัดแย้งระหว่างศาสนาขึ้น แล้วสถาปนากลุ่มตัวเองขึ้นครองอำนาจ บงการและควบคุมมนุษย์โลก นี่เองที่ทำให้พวกที่รุกรานควบคุมมนุษย์ได้มากขึ้นเพราะมนุษย์ได้สูญเสีย ความสามารถดังกล่าวไปหมด แล้วความลับและองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่พวกนั้นบังคับให้มนุษย์ดั้งเดิมถ่ายทอดมาก่อนที่มนุษย์จะถูกปรับแต่ง พันธุกรรมก็สงวนไว้สำหรับองค์กรลับต่าง ๆ ที่ก่อตั้งขึ้นมาสำหรับพวกชนชั้นสูงและมีอำนาจให้ศึกษาเท่านั้น ส่วนคนที่เหลือก็ถูกจำกัดและควบคุมในรูปของศาสนา คำสอนต่าง และ ความรู้ต่าง ๆ และระหว่างนั้นพวกนั้นก็แบ่งแยกเผ่าพันธุ์ สร้างภาษา ก่อตั้งศาสนาต่าง ๆ และทุกอย่างที่เกิดจากระบบเหล่านี้...>>
พิธีกร: คือแบ่งแยกทุกสิ่งออกจากแหล่งต้นกำเนิดนั่นเอง
Omnec: ใช่ค่ะ แล้วพวกเขาก็สร้างความขัดแย้งแตกแยกให้เกิดขึ้น
พิธีกร: แล้วพวกเขาเป็นใครกันล่ะครับ?
Omnec: อืม...ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้บอกค่ะว่าพวกเขามาจากดาวดวงไหนเนื่องจาก ปัจจุบันนี้พวกเขาอยู่ในช่วงกระบวนการพยายามเยียวยาและแก้ไขในสิ่งที่ทำลงไป ในอดีต
พิธีกร: พวกเขารับรู้แล้วและอยากจะแก้ไขในสิ่งที่ทำลงไปใช่ไหม?
Omnec: ถูกแล้วค่ะ และนี่ก็เป็นกระบวนการเปลี่ยนผ่านวิวัฒน์โลกนั่นเอง
พิธีกร: แล้วพวกเขาอยู่บนโลกนี้ด้วยหรือเปล่าครับ? แล้วพวกเขายังติดต่อสื่อสารกับ
ขอบคุณ ARCHYSHOP และคุณหมู มหาชัย เอื้อเฟื้อคำแปล