กระจกเงา คนโบราณเชื่อกันว่า กระจกเงาที่เราใช้ส่องอยู่ทุกวันนี้ เปรียบเสมือนกับเงา
หรือดวงวิญญานของมนุษย์ เพราะเมื่อเราได้ส่องกระจกเราก้อจะรู้ว่ารูปราง ลักษณะ
หน้าตาของเราเป็นเช่นใด ดังนั้นคนในสมัยโบราณจึงให้ความสำคัญ กับกระจกเงาเป็น
อย่างมาก ลองมาดูกันว่าท่านได้เปรียบกระจกเงาเป็นลาง สังหรณ์ในด้านใดบ้าง
1. หากกระจกส่องเงาในบ้านใครเเตก โดยที่ท่านทุบเเตกเอง หรือเตกเอง โดยไม่รู้
สาเหตุ เชื่อกันว่าคนในบ้านนั้นกำลังจะมีเคราะห์จนถึงเลือดตกยางออก เพราะเชื่อกันว่า
กระจกเปรียบเสมือนเงาหรือวิญญานของตัวท่าน เพราะท่าน ต้องส่องมองกระจกทุกวัน
เพื่อดูตัวท่านเอง เเต่หากวันใดเงาของท่านเเตกสลายไป ดวงวิญญานของท่านก็จะลับไป
ด้วยเช่นกันเมื่อกระจกส่องเงาของท่านเเตก ให้รีบเก็บกวาดให้สะอาด เเล้วนำไปทิ้งในที่
มิดชิด เพราะกลัวว่าเด็กหรือใครต่อใคร ที่เดินผ่านมาจะเหยียบเอา เเละเกิดบาดเจ็บได้
หลังจากนั้น ก็ให้จุดธูปไหว้พระขอพร สิ่งศักดิ์สิทธ์ให้ช่วยคุ้มครองท่านให้เเคล้วคลาด
ปลอดภัย ในวันรุ่งขึ้นก้ให้ตักบาตร กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรเสีย
เเละให้รีบซื้อบานใหม่มาทดแทน
2.เงาตัวเองหายไปเมื่อส่องกระจก หากเมื่อใดก็ตามที่ท่านยืนส่องกระจกในบ้านเพื่อดูเงา
หรือความเรียบร้อยของ ตัวเอง เเละปรากฏว่าอยู่ๆเงาในกระจกของท่านก็หายไปท่านว่า
เป็นลางไม่ดี อาจมีอันตรายถึงชีวิต ท่านให้รีบไปทำการสะเดาะห์เคราะห์ ตักบาตรทำบุญ
อุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรเสีย เผื่อว่ากรรมหนักจะได้กลายเป็นเบา
3. หากเมื่อใดก็ตามที่ระจกในบ้านของท่านเเตกหรือร้าว ้ชื่ิอกันว่าว่าไม่ให้เก็บกระจก
หรือเศษกระจกไว้ในบ้าน ให้นำไปทิ้งเสีย เพราะเชื่อว่า กระจกที่เเตกหรือร้าว เป็นลางร้าย
เกี่ยวกับคนในครอบครัวอาจทำให้คนในครอบครัวมีการทะเลาะเบาะเเว้งกัน อยู่กันอย่าง
ไม่เป็นสุข เเละอาจเกิดอันตรายจนถึงเลือดตกยางออกได้
4. ไม่ควรตั้งกระจกให้ตรงกับปลายเตียงนอน เพราะคนในสมัยโบราณ เชื่อเรื่องพิธีกรรม
เกี่ยวกับกระจกว่า มันสามารถสะท้อนภาพคนที่ตายไปเเล้ว ออกมาจากกระจก ดังนั้นผู้
ที่นอนอยู่บนเตียงจึงมักจะนอนฝันร้าย เเละมักจะ นอนไม่ค่อยลับ เพราะมีความรู้สึก
เหมือนกับว่ามีเงาของใครบางคนคอยจ้อง มองอยู่ตลอดเวลา
ขอบคุณข้อมูลจาก FW Mail