มันเป็นศิลปะที่ได้แรงบันดาลใจมากจากธรรมชาติ ที่มีอยู่รอบ ๆ ตัวเรา ภาพวาดนี้วาดโดยบรรพบุรุษชาว อบอริจิ้น ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ตั้งแต่ดั้งเดิม
มีภาพวาดหลายร้อยภาพอยู่ตามหินต่าง ๆ แต่ละภาพก็วาดลงบนแผ่นหิน รอบ ๆ ตัวเต็มไปหมดเลยครับ อายุของมันยาวนานถึง เกือบ 20,000 - 30,000 ปีเดียวครับ แต่บางภาพเหมือนเพิ่งวาดเมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นภาพที่มีชีวิตชีวาครับ เปี่ยมไปด้วยความหมายและพลัง มันช่วยบอกเล่าเรื่องราวของการถือกำเนิดของชีวิต โดยเฉพาะชีวิตมนุษย์ตลอดหลายร้อยหลายพันปีที่ผ่านมา ภาพเหล่านี้บอกถึงเรื่องราวทั้งอดีตและปัจจุบันครับ และบอกเรื่องราวของชนเผ่าที่อาศัยที่นี่มานานแล้ว นานหลายชั่วอายุคนเลยทีเดียว
ภาพวาดพวกนี้ไม่ได้ลบเลือนไปตามกาลเวลานะครับ แต่ยังคงชัดเจนสดใส ยังกับฝีมือของชาวอบิริจิ้นยุคปัจจุบัน นี่เป็นงานศิลปะที่มีทรงพลังมีทั้งภาพปลา เต่า และสัตว์ป่าต่าง ๆ ซึ่งมีความหมายลึกซึ้งทางจิตใจ
ขณะที่เดินมาตามทาง กับงานศิลปะที่เก่าแก่ที่สุดในโลก การสร้างสรรค์ของบรรพบุรุษในยุคแห่งความฝัน จุดเริ่มต้นแห่งความรู้และความเข้าใจ
จากตำนานเก่าแก่เป็นเรื่องของพี่น้องเผ่านามากัน ที่มีความเห็นแก่ตัวจนกลายร่างเป็นจระเข้ คอยตามล่าพวกพ้องในอดีตที่เป็นมนุษย์ บุคคลที่วาดภาพเหล่านี้ สำคัญยิ่งกว่าตัวภาพวาดซะอีก พวกเขาต้องมีพลังและมีความรู้เรื่องต่าง ๆ อย่างมากเลยนะครับ
ค่อนข้างเหลือเชื่อที่ว่าตำนานการสร้างเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีตมันมีบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวในปัจจุบัน มีการแสดงอวัยวะภายในของสิ่งมีชีวิตอย่างละเอียดมาก เหมือนแผนภูมิวิธีอธิบายการแล่ปลา และสิ่งที่คนสมัยนั้นกินกัน
ภาพนี้ งูสายรุ้ง เป็นตัวเมียด้วย คือ เทพแห่งพื้นโลก พลังแห่งผู้หญิง มีส่วนหัวที่มุดลงใต้ดิน งูสายรุ้งมันก็คือรุ้งนั้นเองครับ พูดอีกอย่างก็คือ สายรุ้งเปรียบเสมือนสะพานขนาดใหญ่ที่เชื่อมระหว่างโลกนี้กับโลกหน้า มันเป็นภาพที่ทรงพลังมากครับ มีความเป็นนามธรรมสูงมาก ๆ เลยด้วยครับ เทพเจ้าแห่งพื้นโลก ชีวิตแห่งพื้นโลกและก่อกำเนิดจากเพศหญิง
นี่เป็นการเผชิญกับรากเง้าทางวัฒนธรรม ในตำนานของสังคมมนุษย์ยุคแรกสุดเลยทีเดียวครับ มันเป็นความเชื่อที่ยากจะลบล้างได้ ถ้าคนรุ่นใหม่หันหลังให้มัน แล้วใครละจะเป็นผู้สืบทอดศิลปะอันเก่าแก่เหล่านี้ ให้คงอยู่ตลอดไป