วิธีขับรถเที่ยวหน้าฝน ให้ปลอดภัย

ตรวจสอบรถอย่างละเอียดก่อนออกเดินทาง เบรก พวงมาลัย ระดับของเหลวต่างๆ ปริมาณลมยาง และระบบไล่ฝ้าควรได้รับการตรวจสอบว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานสำหรับ การเดินทาง ที่อาจต้องพบกับฝนที่ตกหนักระหว่างทาง   เตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินที่มีคุณภาพดีให้พร้อม การเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ ที่ไม่คาดหมายเอาไว้ล่วงหน้าจะช่วยลดค่าใช้จ่าย จากการใช้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินและช่วย ลดความตึงเครียดหากรถเสียระหว่างการ เดินทาง อุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ ควรตอบสนองต่อ ความต้องการของผู้ขับขี่แต่ละคน ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วควรประกอบไปด้วย ยางอะไหล่ ไฟฉาย ฟิวส์ ที่สูบลม น้ำสะอาด อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และป้ายสัญญาณขอความช่วยเหลือ ที่มองเห็นเด่นชัด   ตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งาน หากใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพหรือ ชำรุด ควรเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีในขณะฝนตก   ขับอย่างระมัดระวัง! ใส่ใจในการขับขี่และรักษาระดับความเร็วให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ การขับรถด้วยความเร็วสูงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่น้ำฝนอาจก่อตัว เป็นแผ่นน้ำบางๆ คั่นกลางระหว่างล้อและถนน ทำให้ความสามารถในการยึดเกาะถนนลดลง ผู้ขับขี่จึงควบคุมรถได้ยากขึ้น เปิดไฟหน้ารถขณะฝนตก เมื่อต้องขับรถในขณะฝนตกให้เปิดไฟหน้ารถเสมอ เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณมองเห็นสิ่งต่างๆ บนถนนได้ชัดเจนขึ้นแล้ว ยังช่วยให้รถคันอื่นๆ มองเห็นคุณได้จากระยะไกลด้วย   หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกแรงๆ หรือการเบรกกระทันหัน การค่อยๆ เหยียบเบรกเพื่อชะลอ ความเร็วลงนับว่าเป็นวิธีการขับขี่ที่เหมาะสมที่สุด เพราะหากคุณเหยียบเบรกอย่างรุนแรง รถ อาจลื่นไถลได้   ขับรถอย่างมีสติและเว้นระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้า ในยามที่ถนนเปียก คุณ จะต้องใช้เวลาและระยะทางในการเบรกเพิ่มขึ้นเมื่อประสบกับสถานการณ์ ฉุกเฉิน การขับรถ ด้วยความระมัดระวังและไม่ขับตามหลังรถโดยสารขนาดใหญ่หรือรถบรรทุกจะ ช่วยเพิ่มความ ปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะล้อด้านหลังของรถขนาดใหญ่มักจะปัดละอองน้ำมาใส่รถคันข้างหลัง จนอาจทำให้เสียทัศนวิสัยในการขับขี่ได้   หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำลึก คุณไม่มีทางทราบได้เลยว่าภายใต้ผิวน้ำนั้นมีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าคุณขับลงไปยังแอ่งน้ำด้วยความเร็วสูง กันชนหน้าและหม้อน้ำอาจจะถูกกระแทกจนได้รับ ความเสียหายร้ายแรง หรือถ้าคลื่นน้ำซัดเข้ามาในห้องเครื่องก็อาจจะทำให้เครื่องยนต์ดับได้   ตื่นตัวกับสัญญาญเตือนให้หยุดรถหรืออุปสรรคที่ขวางอยู่บนถนน หากพบว่าถนนข้างหน้า มีน้ำท่วมขัง พยายามอย่าขับรถฝ่าไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่คุณไม่คุ้นเคย ให้มองหาเส้นทางใหม่ที่ปลอดภัยกว่า   ขับช้าๆ เมื่อต้องฝ่าน้ำท่วม หากคุณจำเป็นต้องขับฝ่า น้ำที่ท่วมขังบนพื้นถนนนิ่งๆ ให้ขับไป อย่างช้าๆ อย่าขับรถฝ่าน้ำที่กำลังไหลอยู่หากคุณไม่ทราบว่าแอ่งน้ำนั้นลึกขนาดไหน หยุดรถ ก่อนที่จะถึงบริเวณน้ำท่วมและตรวจสอบความลึกของน้ำ ซึ่งโดยทั่วไป หากระดับน้ำสูงกว่า ขอบประตูรถหรือสูงกว่า 1 ใน 3 ของล้อเมื่อวัดจากพื้นถนน คุณไม่ควรขับฝ่าไปอย่างเด็ดขาด   เมื่อรถติดหล่ม ให้เปลี่ยนมาใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 และเร่งเครื่องช้าๆ อย่าเร่งเครื่องแรง จนทำให้ล้อหมุนฟรี เพราะจะทำให้รถของคุณจมลึกลงไปอีก   การเชนเกียร์ต่ำกระทันหันขณะฝนตกเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง ขณะที่พื้นถนนเปียก การเปลี่ยนเกียร์อย่างรวดเร็วซึ่งส่งผลกระทบต่อความเร็วของล้อและยางอาจ ทำให้รถของคุณ ลื่นไหล คุณอาจสูญเสียการควบคุมรถและก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ผู้ขับขี่ควรใช้ความระมัด เพิ่มขึ้นเมื่อต้องการเปลี่ยนมาใช้เกียร์ต่ำขณะขับ บนถนนลื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถขึ้นเนิน ที่มีความลาดชัน  

อย่าลืม ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อย่าขับรถขณะลมแรง พายุเข้า เพื่อความปลอดภัยค่ะ

Credit: http://sakid.com/2011/05/30/29569/
28 มิ.ย. 54 เวลา 23:14 1,639 5 50
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...