ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ iPhone ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเหล่าวัยรุ่นและวัยทำงานประดุจดั่งอวัยวะ ชิ้นสำคัญที่ต้องควักออกมาใช้งานเป็นประจำยามมีเวลาว่างแม้เพียงเสี้ยวนาที โลกที่เต็มไปด้วย iPhone, Android และ Blackberry เต็มเมืองกำลังล่องลอยไปในกระแสของเทคโนโลยีที่ไม่มีใครเข้าใจ

เคยสังเกตไหมว่าเมื่อก่อนมันไม่ใช่แบบนี้

เราไม่เคยต้องมานั่งวิตกกังวลครั้งที่เราจะซื้อโทรศัพท์อย่าง Nokia 3310 ว่าปีหน้าเราจะถูกทางผู้ผลิตสินค้าหักหลังด้วยการส่งเวอร์ชั่นใหม่กว่า ดีกว่า และเร็วกว่าออกมาให้เจ็บช้ำน้ำใจเล่น

แต่ทุกวันนี้คำถามที่เราพบกันมากที่สุดคำถามหนึ่งก็คือ “iPhone 5 จะออกเมื่อไหร่? ควรรอซื้อ iPhone 5 ไปเลยดีไหม?”

น่าแปลกใจที่คำถามดังกล่าว หลุดออกมาจากจากฝ่ามือของใครสักคนที่กระทบลงบนแป้้นคีย์บอร์ดจนเป็นตัวอักษร โผล่ขึ้นมาในหน้าจอคอมพิวเตอร์ ในช่วงเวลาที่ iPhone 4 เพิ่งจะเริ่มวางขายได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น

นั่นบ่งบอกว่า ใครบางคนหรืออาจจะหลายๆ คนกำลังพยายามไหลไปตามกระแสของเทคโนโลยีโดยไม่คิดที่จะออกแรงต้าน แถมบางครั้งยังออกแรงส่ง ขอนำหน้ากระแสไปอีกหน่อยด้วยซ้ำ

ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเราอาจจะไม่เคยถามตัวเองเลยว่าเราต้องการโทร ศัทพ์เครื่องหนึ่งมาทำอะไร และสิ่งที่เรากำลังครอบครองอยู่นั้น “เพียงพอ” ต่อความต้องการของเราหรือยัง

จริงอยู่ที่ว่า หาก Apple เกิดส่ง iPhone 5 ออกมาจริงๆ เราอาจจะได้เห็นโทรศัพท์ที่มี CPU ระดับ Dual-Core ความเร็วสูง ภาพกราฟฟิกตอนเล่นเกมชนิดเนียนตาเทียบเคียงเครื่องเล่นเกม Console อันแสนแพง หรือลูกเล่นต่างๆ ที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจ

แต่ลองคิดเล่นๆ ว่าหากปีนี้ Apple เกิดไม่ส่ง iPhone 5 ออกมา แล้วทุกคนต้องใช้ iPhone 4 ต่อไปอีกหนึ่งปีล่ะ?

ผมไม่คิดว่านั่นจะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงอะไรจนทุกคนต้องออกมาเดือดร้อน โอดครวญ หรือรับไม่ได้กับ iPhone 4 ที่กำลังใช้อยู่ เพราะว่าสิ่งที่เรากำลังใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น นับว่าเพียงพอกับความต้องการพื้นฐานของเราไปอีกหลายปี

แต่อะไรบางอย่างกำลังออกแรงบังคับให้ Apple อาจจะต้องส่ง iPhone 5 ออกมา ไม่ได้เพื่อตอบสนองความจำเป็น แต่อาจเป็นความจำใจ เพราะหาก Apple ไม่ออก iPhone รุ่นใหม่ ก็จะดูเหมือนกับว่า Apple ได้ล้าหลังคู่แข่งรายอื่นๆ ที่พร้อมใจกันออกรุ่นใหม่เป็นว่าเล่น ชนิดไม่เกรงใจคนที่เพิ่งเก็บเงินซื้อไปเมื่อไม่กี่เดือนแม้แต่น้อย

แล้วต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดก็คือคนเรานี่แหละ ที่คอยจะแสวงหาสิ่งใหม่ๆ ความสามารถใหม่ๆ ความต้องการใหม่ๆ มาให้กับตนเอง ทั้งๆ ที่สิ่งเดิมๆ ยังไม่เคยใช้จนคุ้มค่าเลยด้วยซ้ำ

โลกของเทคโนโลยีในยุคนี้เริ่มจะเดินทางกันเร็วขึ้น เหมือนล่องเรือไปตามกระแสน้ำอันเชี่ยวกราดโดยที่คิดว่าปลายทางต้องเป็นที่ พักผ่อนอันอุดมสมบูรณ์และสบายใจ

แต่เท่าที่เคยรู้มา ยิ่งกระแสน้ำเชี่ยวกราดเพียงใด อันตรายที่ปลายทางก็มักจะมากขึ้นตามๆ กัน

ไม่ได้เรียกร้องอะไร แค่คิดว่า “ช้าๆ ลงบ้างก็คงจะดี”

ตีพิมพ์ในนิตยสาร Digital Lifestyle ฉบับที่ 22 เดือนเมษายน 2554