ใน อนาคตอีกไม่นานเกินรอ เรากำลังจะมีเครื่องบินความเร็วสูงที่สามารถบินจากกรุงลอนดอน
ประเทศอังกฤษ ไปยังกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นได้ในวลาเพียง 2 ชั่วโมง หรือจะไปเมืองมาลากา
ทางตอนใต้ของสเปน ก็รวดเร็วทันใจได้ในเวลาเพียง 20 นาที ไปกรุงอิสตันบูลภายในครึ่งชั่วโมง
และไปถึงอเมริกาได้ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งย่นระยะเวลาจากเดิมได้กว่า 6 เท่าเลยทีเดียว
รายงานจากเว็บไซต์เดลิเมล ประเทศอังกฤษ ระบุว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา บริษัท
EADS ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของผู้ผลิตอากาศยานรายใหญ่อย่างแอร์บัส (Airbus) ได้ทำการเปิดตัว
โครงการเครื่องบินความเร็วสูง โดยตั้งชื่อโครงการว่า ZEHST ซึ่งย่อมาจาก Zero Emission
Hypersonic Transportation สื่อถึงเครื่องบินที่สามารถบินได้ด้วยความเร็วเหนือเสียง และไม่
ปล่อยมลภาวะสู่สภาพแวดล้อม โดยเปิดตัวที่สนามบิน เลอ บูเช่ (Le Bourget) ประเทศฝรั่งเศส
ก่อนหน้าที่งาน ปารีส แอร์ โชว์ เริ่มต้นเพียงไม่กี่วัน (Paris Air Show ; 20-26 มิถุนายน)
นายจอน เบ็ตติ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของ EADS ได้ให้รายละเอียดว่า ตาม โครงการได้วาง
แผนการผลิต ZEHST ให้สามารถบินได้เร็วกว่าความเร็วเสียงถึง 4 เท่า หรือราว 5,000 กิโลเมตร
ต่อชั่วโมง และขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด ไม่มีการเผาผลาญพลังงานที่จะทำให้เกิดมลพิษ
ทั้งนี้ ZEHST ใช้ไฮโดรเจนเหลว (H) เป็นเชื้อเพลิง และกระตุ้นการเผาผลาญเชื้อเพลิง
โดยออกซิเจนเหลว (O) จึงกล่าวได้ว่าพลังงานของเครื่องบินลำนี้มาจากธาตุประกอบของน้ำ
(H2O) ทั้งสิ้น
ทั้ง นี้ เพื่อให้การขับเคลื่อน ZEHST สามารถบินได้เหนือความเร็วเสียง ก้ต้องอาศัยการขับ
เคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ถึง 3 รูปแบบ เริ่มจากการออกตัวด้วยการใช้เครื่องยนต์เทอร์โบแฟน 2 ตัว
เช่นเดียวกับที่ใช้ในเครื่องบินเทอร์โบเจ็ท เมื่อไต่ความสูงได้ถึงระดับหนึ่ง จะเปลี่ยนไปใช้เครื่อง
ยนต์จรวดเพื่อให้พุ่งสูงขึ้นไปอีกระดับ ก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์ไอพ่น ซึ่งเป็นการขับ
เคลื่อนแบบเดียวกับจรวดมิสไซล์ เพื่อเข้าสู่ระดับความสูงราว 32 กิโลเมตรเหนือพื้นดิน จากการ
บินปกติที่อยู่ที่ระดับความสูงราว 10 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้เครื่องบินสามารถบินได้ด้วยความเร็ว
เหนือเสียงถึง 4 เท่า
ส่วนด้านการออกแบบ คาดว่า ZEHST จะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับเครื่องบินตระกูลคองคอร์ด
ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องบินขนส่งที่บินได้เร็วที่สุดในขณะนี้ และจุผู้โดยสารได้ราว 40-100 คน ทางด้าน
การผลิตได้มีการประมาณว่าต้องใช้เม็ดเงินลงทุนกับโครงการนี้ราว 8,817ล้านบาท โดยทาง
EADS คาดว่าจะสามารถสร้างเครื่องบินต้นแบบได้เสร็จสมบูรณ์ภายในปี พ.ศ.2563 และจะเปิดใช้
ในเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี พ.ศ.2593 หรืออีก 39 ปีข้างหน้านั่นเอง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก lejsl.com, youtube โพสต์โดย webinapage