เข้าสู่ฤดูฝนมองไปทางไหนหัวใจก็ชุ่มฉ่ำไปด้วยความเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้า หลังจากที่
โรยรามานานหลายเดือน คราวนี้คงได้เริงร่ารับสายฝนที่พรำลงมากันอย่างสนุกสนาน และ
ได้เวลาของนักเดินป่าทั้งหลายที่จะเตรียมตัวแบกเป้เข้าป่าอีกครั้งเพื่อไปชมความงามของ
ธรรมชาติในช่วงฤดูฝน ป่าที่ไหนน่าเที่ยวชมบ้างตามไปดูกัน...พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกัน
ได้เลย
1. อช. เขาใหญ่ จ. นครราชสีมา
เป็นสถานที่เดินป่าที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปแล้ว เป็นที่ที่นักเดินทางหัวใจสีเขียวต้อง
ไม่พลาด เพราะที่นี่นั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวให้คุณได้ศึกษาธรรมชาติมากมายหลายแห่ง
ทั้งทุ่งหญ้า ป่าเขา และน้ำตกที่แสนงดงาม นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่น
ช้าง กระทิง นกเงือก เป็นต้น ซึ่งทาง อช. ได้จัดเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติไว้หลาย
เส้นทาง ส่วนใครที่ชอบน้ำตกก็มีน้ำตกชื่อดังอย่างน้ำตกเหวสุวัต น้ำตกเหวนรก ให้คุณ
ได้ชมท่ามกลางป่าดงดิบพื้นสุดท้ายของดงพญาเย็น
สอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท. สำนักงานนครราชสีมา โทร. 0 4421 3666, 0 4421 3030
2. อช. ภูสอยดาว จ. อุตรดิตถ์
มีพื้นที่สภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำ
ลำธาร ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูงจากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4
ของประเทศไทย มีจุดเด่นที่น่าสนใจและเป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยว ได้แก่ น้ำตกภู
สอยดาว เป็นน้ำตก 5 ชั้น และการผจญภัยขึ้นสู่ลานสนสามใบอันสวยงาม มีเนื้อที่กว้าง
ประมาณ 1,000 ไร่ ที่นี่คุณจะได้พบกับดอกหงอนนาคที่ชูช่อล้อเล่นกับเม็ดฝนเป็นทุ่ง
กว้าง อีกทั้งเห็ดนานาชนิดที่ขึ้นในช่วงฤดูฝน ใครเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติรับรองว่าคุ้ม
ค่ากับความเหนื่อยยากในการเดินทางแน่ๆ
สอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท.สำนักงานแพร่ โทร.0 5452 1118
3. อช. น้ำหนาว จ. เพชรบูรณ์
ป่าน้ำหนาวเป็นเขตกั้นระหว่างภาคอีสานและภาคเหนือสภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นเทือกเขาสูง
ทอดยาวผ่านจังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยทั่วไปอากาศหนาว เย็นในตอนดึก
และตอนเช้า ส่วนใหญ่ตอนกลางวันอากาศเย็นสบาย จึงกล่าวได้ว่าอุทยานแห่งชาติน้ำ
หนาวมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 25 องศาเซลเซียส แม้ว่านักท่อง
เที่ยวส่วนมากจะมาเยือนป่าน้ำหนาวในช่วงฤดูหนาว แต่ในช่วงฤดูฝนน้ำหนาวก็นับว่ามี
เสน่ห์และชวนหลงใหลเพราะป่าสนเขานั้นจะชุ่มฉ่ำไปด้วยละอองฝน ผืนป่าเต็มไปด้วย
ผีเสื้อนานาพันธุ์ อีกทั้งยังมีดอกไม้ป่าและกล้วยไม้ดินที่พร้อมใจกันออกดอกให้นักท่องป่า
ได้ยลโฉมด้วย
สอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท. สำนักงานพิษณุโลก โทร. 0 5525 2742-3
4. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จ. เลย
เป็นอีกภูหนึ่งที่ชื่อเสียงว่าเป็นแหล่งรวมพันธุ์พืชโดยเฉพาะไม้ดอก และกล้วยไม้มี
มากกว่าที่ใดๆ แต่ด้วยเหตุที่สถานที่แห่งนี้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า การที่จะมาเยือนนั้น
ต้องได้รับอนุญาติจากกรมป่าไม้ก่อน เส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูหลวง เป็นเส้นทาง
เดินต่อเนื่องกันคุณจะได้เดินผ่านป่าดงดิบ ลำห้วย ป่าสนสามใบ และทุ่งดอกไม้สลับทุ่ง
หญ้าหลายชนิด อีกทั้งยังมีกุหลาบขาวและกล้วยไม้ป่าต่าง ๆ ให้ชมบริเวณผาโหล่นแต้
อีกทั้งยังมีจุดชมทิวทัศน์ของภูหอ ภูกระดึง นอกจากนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ได้แก่ ผากบ ผาชมวิว โหล่นช้างผึ้ง ซุ้มงูเห่า และน้ำตกสายทอง
สอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท. สำนักงานเลย โทร. 0 4281 2812
5.อช. ภูหินร่องกล้า จ. พิษณุโลก
ภูหินร่องกล้า มีระดับความสูงจากน้ำทะเล 1,300-1,400 เมตร ในช่วงฤดูฝนเมฆฝนจะ
ปกคลุมยอดเขาเป็นไอหมอกขาวสวยงามมาก โดยเฉพาะเส้นทางท่องเที่ยวชมลานหินปุ่ม
ผาชูธง คุณจะได้ชมแหล่งต้นน้ำที่ไหลผ่านลานหิน เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าที่บานสะพรั่งรับ
น้ำฝนบนลานหิน เช่น หงส์ทอง เปราะภู และยังปกคลุมไปด้วยมอส ตะไคร่ เฟิน และ
กล้วยไม้ชนิดต่างๆ ซึ่งทางอุทยานตั้งชื่อเส้นทางเดินป่าแห่งนี้ว่า "สวรรค์บนดิน"
นอกจากนี้ยังมีน้ำตกหลายแห่ง เช่น น้ำตกหมันแดง น้ำตกศรีพัชรินทร์ น้ำตกผาลาด
และน้ำตกตาดฟ้า เป็นต้น
สอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท. สำนักงานพิษณุโลก โทร. 0 5525 2742-3