นี่เป็นบ้านหลังเดียวที่นักท่องเที่ยวได้รับอนุญาตให้เข้าชมได้
มันเป็นบ้านในอุดมคติของชาวนา
ในอุดมคติซึ่งมีแม้แต่ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ที่ไม่เคยต่อเข้าด้วยกัน
อินเตอร์เน็ตนั้นไม่มีไว้ให้บริการ มีแต่อินทราเน็ตเท่านั้น
พวกเขาจะตามคุณไปทุกที่ ซึ่งคุณไม่สามารถออกจากโรงแรมได้
ถ้าไม่ได้มีพวกเขาตามไปด้วย ในโปรแกรมการเที่ยวแต่ละวัน
รวมถึงการเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ 2 - 3 แห่ง
ในโรงแรมนั้นคุณสามารถชม BBC NTV (ทีวีรัสเซีย) และช่องของจีน 2 - 3
มีร้านเล็ก ๆ ซึ่งขายสินค้าจากต่างประเทศให้นักท่องเที่ยว
ตั้งมาตั้งแต่ปี 2001 คุณต้องจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์หนึ่ง
และจะได้รับบัตรรับสินค้าเพื่อไปรับในอีกเคาน์เตอร์หนึ่ง
สำหรับร้านที่ขายของให้ชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะขายแต่น้ำมะนาว
โดยนักท่องเที่ยวจะได้รับถ้วยพลาสติก
ส่วนชาวเกาหลีเหนือจะได้รับถ้วยกระเบื้องซึ่งจะนำไปล้างและนำกลับมาใช้ใหม่
ซึ่งภาพนี้ถูกถ่ายข้างๆ ร้านขายผลไม้และผัก ซึ่งปิดทันทีเมื่อเห็นนักท่องเที่ยว
ซึ่งถ้ามันเป็นไปไม่ได้ ชาวเกาหลีเหนือก็สร้างกำแพงคอนกรีตบังภาพที่ไม่น่าดูเอาไว้
จะเห็นได้แค่หลังคา เมื่อคุณพยายามจะถ่ายภาพซึ่งแตกต่างจากในนิตยสาร
ไกด์จะถามว่า "คุณจะถ่ายรูปไปทำไม ”
ไกด์ห้ามถ่ายภาพชายยืนปัสสาวะกลางถนน หรืออนุเสาวรีย์ แต่ก็แอบถ่ายมาได้ตามเคย
นี่คือทั้งหมดของเปียงยางที่นักท่องเที่ยวทั่วๆ ไปจะไม่ได้เห็นภาพนี้
เมื่อถามไกด์ถึงบ้านเก่าๆ ที่มีอยู่มากมาย
ไกด์จะตอบว่าคนพวกนั้นไม่ยอมย้ายออกไป และขออยู่ที่เดิม
และวางทุกอย่างยกเว้นแว่นตาดำไว้ที่ทางเข้า
คุณต้องเดินผ่านเครื่อง X-ray (ซึ่งไม่มีใครบอกคุณ)
และมีเหตุผลบางอย่างที่สถานที่นี่ติด Wi Fi Router
มันเป็นความสนุกสนานอย่างหนึ่งที่เกาหลีทั้งสองฝั่งจะมอบให้คุณ
นั้นคือการพาไปเยี่ยมชมชายแดน
สังเกตุดูสิว่าถนนในระบบทุนนิยมนั้นมีสภาพดี
แต่ในระบบคอมมิวนิสต์นี่สภาพแย่มาก
หมู่บ้าน ปัน มุน จอม หมู่บ้านนี้มีเส้นแบ่งระหว่างเกาหลีเหนือ
และใต้พาดผ่าน ถือเป็นพื้นที่ที่มีการเผชิญหน้ากันมากที่สุดในโลก
ทหารแต่ละฝ่ายจะยืนคุมเข้มในฝั่งของตน
ทหารเกาหลีเหนือจะยืนหันหน้าเข้าหากันอย่างนี้
นัยว่าเพื่อจับตาซึ่งกันและกันไม่ให้คนหนึ่งกระโดดหนีไปแดนเกาหลีใต้
(โดยไม่ชวนตนเองไปด้วย)