เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมล ของอังกฤษ รายงานว่า เกิดเหตุสุดสลดขึ้นในเมืองแมนเชสเตอร์ ของอังกฤษ เมื่อแม่ลูกอ่อนให้นมลูกด้วยอาการมึนเมาแล้วเผลอหลับไป ตื่นขึ้นมาอีกทีพบลูกเสียชีวิตคาอกตัวเองแล้ว
โดยคุณแม่รายนี้ คือ เอ็มมา เฮคเตอร์ วัย 30 ปี ได้ดื่มไวน์ขาวเกือบ 1 ขวดขณะท้องว่างก่อนนอน จนมีอาการมึนเมา หลังจากนั้นได้ไปนอนให้นม นาโอมิ โรส ลูกสาววัย 7 เดือนบนเตียง แต่ระหว่างที่ให้นมอยู่นั้น เอ็มมาก็เกิดอาการง่วงนอนและเผลอหลับไปทั้ง ๆ ที่ลูกน้อยยังดูดนมอยู่คาอก
หลังจากตื่นขึ้นมาในตอนเช้า อัลเลน เฮคเตอร์ สามีวัย 42 ปีที่นอนอยู่ข้าง ๆ ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า ลูกน้อยของตัวเองได้เสียชีวิตอยู่ในสภาพหน้าถูกกดทับอยู่กับหน้าอกของภรรยา ตัวเอง และมีเลือดออกเต็มปาก จึงร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจว่า "คุณฆ่าลูกผม" ซึ่งหลังจากสิ้นเสียง เพื่อนบ้านก็ได้ยินและรีบวิ่งเข้ามาให้ความช่วยเหลือ และนำตัวหนูน้อยนาโอมิส่งโรงพยาบาลทันที แต่ก็สายไปเสียแล้ว นาโอมิเสียชีวิตมานานเกินกว่าที่แพทย์จะยื้อชีวิตหนูน้อยได้แล้ว
จากการสืบสวนพบว่า ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ทำให้เอ็มมามึนเมาจนหลับไม่รู้ตัวได้ขนาดนั้น มีปริมาณมากกว่าที่กำหนดสำหรับการขับขี่รถถึงเกือบ 3 เท่าเลยทีเดียว ซึ่งนั่นทำให้เอ็มมาหลับเป็นตาย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกน้อยที่กำลังดูดนมอยู่คาอก จนลูกน้อยต้องมาเสียชีวิตดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ขณะนี้เอ็มมาได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนโดยประมาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และการเสียชีวิตของนาโอมิในครั้งนี้ทำให้เธอเสียใจมากที่สูญเสียลูกไป ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนราคาแพงในชีวิตที่ทำให้เธอจดจำไป ตลอดชีวิตเลยทีเดียว
ทั้งนี จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้องค์กรด้านสุขภาพเด็กได้ออกมาเตือนว่า การนอนหลับขณะที่ลูกน้อยยังดูดนมอยู่คาอก และการนำลูกน้อยนอนบนเตียงนั้น ถือเป็นพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงสูงมาก ยิ่งเมื่อคนเป็นแม่อยู่ในอาการมึนเมาด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เหตุการณ์เลวร้ายที่ไม่มีใครคาดคิดเกิดขึ้นอย่างง่ายดายเลยทีเดียว ดังนั้น ผู้เป็นแม่จึงควรมีสติทุกครั้งที่ให้นมลูก และต้องคอยดูลูกตลอดเวลาที่ลูกดูดนม และที่สำคัญ ไม่ควรให้เด็กแรกเกิดที่มีอายุระหว่าง 1-7 เดือนนอนบนเตียง โซฟา หรือโต๊ะ เพราะอันตรายมาก เด็กช่วงวัยนี้ควรนอนอยู่ในเปลเท่านั้น