.......... มาทำความรู้จักกับ เมืองภาพยนตร์ "เชียงใหม่ มูฟวี่ เวิลด์" (CNX WOOD) .....เมืองภาพยนตร์ครบวงจรระดับโลก กันดีกว่า ..... แล้วเสร็จปี 2555
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-ประธานโครงการ “เชียงใหม่วูด”ไม่หวั่นทั้งเศรษฐกิจดูไบและการเมืองของไทย ระบุยังมั่นใจการเมืองไทยไม่กระทบการลงทุนแต่อย่างใด เผยเตรียมวางศิลาฤกษ์แน่นอนกลางเดือนมิ.ย.นี้ที่อำเภอสันกำแพง ด้านเจ้าของที่ดินผืนใหญ่ในเชียงใหม่เตรียมหอบโฉนดเข้าร่วมหุ้นหวังหลบ เลี่ยงกฎหมายภาษีที่ดินที่รัฐจ้องเต็มที่
นายเอดูอาร์โด เอ. โรเบิลส์ (EDUARDO A. ROBLES) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธาน CREATIVE KINGDOM INC. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการลงทุนในโครงการโรงถ่ายภาพยนตร์ CNX WOOD หรือ “เชียงใหม่วูด”ภายหลังจากเข้าร่วมประชุมนานาชาติว่าด้วยเรื่อง “เศรษฐกิจสร้างสรรค์ภาคเหนือประเทศไทย: โอกาสและความท้าทายในสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ”ที่จัดโดยสถานกงสุลใหญ่แห่ง สหรัฐอเมริกา ประจำจังหวัดเชียงใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า โครงการCNX WOOD หรือเชียงใหม่วูด ไม่ได้หยุดชะงักหรือชะลอลงไปแต่อย่างใดแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากดูไบเวิลด์ บ้างก็ตาม
ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมวางศิลาฤกษ์ในพื้นที่ก่อสร้าง ของโครงการในวันที่ 16 มิถุนายน53 โดยโครงการนี้จะเริ่มดำเนินการระยะที่ 1 บนพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ ในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 650 ล้านบาท จากนั้นจะทยอยดำเนินการในระยะต่อๆ ไปจนกระทั่งครอบคลุมพื้นที่รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,500 ไร่ วงเงินลงทุนกว่า 8,000 ล้านบาท (250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)ใช้เวลาในการก่อสร้างของโครงการทั้งหมดประมาณ 7 ปี(2552-2559)ที่จะดำเนินการโครงการจนเสร็จสมบูรณ์
นายเอดูอาร์โด กล่าวถึงรายละเอียดของโครงการที่สันกำแพงว่า การลงทุนเบื้องต้นจะเป็นการสร้างสตูดิโอขนาดยักษ์ ที่อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งโครงการที่สันกำแพงจะมี 3 สตูดิโอ บนเนื้อที่ประมาณ 39 ไร่ โดยทำเป็นสตูดิโออินดอร์ 2 สตูดิโอ และเอาต์ดอร์ 1 สตูดิโอ เพื่อรับงานจากต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเวลา 18 เดือนนับจากนี้ โครงการในเฟสแรกนี้บริษัทได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลง ทุน หรือบีโอไอ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับโครงการเชียงใหม่วูดนั้น นายเอดูอาร์โด กล่าวว่า มีความแตกต่างจาก Hollywoodของสหรัฐอเมริกา และ Bollywood ของอินเดีย ที่เน้นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ในขณะที่เชียงใหม่วูด จะมุ่งเน้นในเรื่องอุตสาหกรรม Games Animation และDigital เป็นหลัก ซึ่งน่าจะเป็นแห่งแรกในโลก โดยเบื้องต้นมีแล้วอย่างน้อย 5 บริษัทด้านเกมสตูดิโอ ที่ร่วมลงทุนในโครงการนี้ ซึ่งมีนักลงทุนชาวไทยถือหุ้น 51% และนักลงทุนต่างชาติถือหุ้น 49% เช่น จากแอฟริกาใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น
ผู้บริหาร CREATIVE KINGDOM INC.บอกด้วยว่า โครงการเชียงใหม่วู้ดนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่การลงทุนโครงการอุตสาหกรรมบันเทิงอย่าง Games Animation และDigital หรือภาพยนตร์เท่านั้น แต่เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วย โดยภายในโครงการนอกจากสตูดิโอ และโรงถ่ายภาพยนตร์แล้ว ยังจะมีโครงการบ้านพักสำหรับการอยู่อาศัย โรงแรม สวนสนุก ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบวงจรอีกด้วย เนื่องจากโครงการนี้ไม่เฉพาะแต่พื้นที่อำเภอสันกำแพงเท่านั้น จะมีการกระจายไปยังอำเภออื่นด้วยโดยเฉพาะที่อำเภอแม่ริม ที่กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินผืนใหญ่ไม่ต่ำกว่า 100 ไร่เพื่อก่อสร้างโครงการดังกล่าวให้เต็มรูปแบบ
พร้อมกันนี้ยังจะลง ทุนสร้างวีไอพี เทอร์มินัล ติดกับคาร์โก สนามบินเชียงใหม่ และเครื่องบินส่วนตัวอีกหนึ่งลำ เพื่ออำนวยความสะดวกกับบรรดาผู้สร้างภาพยนตร์จากต่างประเทศ ที่จะบินเข้ามาถ่ายทำในสตูดิโอของบริษัท มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อขออนุญาตกับรัฐบาลไทยอยู่
นอก จากนี้ นายเอดูอาร์โด กล่าวถึงการพิจารณาลงทุนโครงการนี้ที่จังหวัดเชียงใหม่ของประเทศไทยว่า เนื่องจากเล็งเห็นแล้วว่ามีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งบุคลากรที่มีฝีมือและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ พร้อมทั้งระบุว่าไม่มีความเป็นห่วงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองใน ประเทศไทยแต่อย่างใด โดยมองว่าประเทศไทยมีข้อดีตรงที่ปัญหาทางการเมืองไม่เคยเป็นอุปสรรคสำหรับ การเข้ามาลงทุนเลย ซึ่งจากการเข้ามาลงทุนในโครงการเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อการจ้างงานและเศรษฐกิจ เป็นอย่างมาก
แหล่งข่าวจากวงการที่ดินในเชียงใหม่กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เจ้าของที่ดินรายใหญ่ ๆ ในเชียงใหม่ต่างเตรียมเสนอที่ดินของตนเองเข้าไปเป็นหุ้นในโครงการนี้เป็น จำนวนมากแต่บางรายก็ยังไม่กล้าตัดสินใจทั้งที่เป็นเจ้าของที่ดินแปลงใหญ่ติด กันและเป็นที่สนใจของโครงการเชียงใหม่วูดสาเหตุเป็นเพราะความไม่มั่นใจในการ เสนอโครงการที่มาในรูปแบบของการเสนอขายในรูป Animationเป็นหลักซึ่งค่อนข้างออกมาเป็นจินตนาการไปหน่อย “เจ้าของที่ดินส่วนใหญ่ที่สนใจและต้องการเอาที่ดินไปเป็นหุ้นเป็นเพราะเกรง ในเรื่องของภาษีที่ดินที่รัฐบาลออกข่าวว่าจะนำมาใช้จึงพยายามหาวิธีเลี่ยง กันไว้ก่อนก็เป็นได้”แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับบริษัท CNX WOOD ฯ ก่อตั้งขึ้นโดยนายเอลดูอาร์โด เอ โรเบิ้ลส์ ประธานกรรมการบริหาร และนายธนุ บุณยวัฒน ประธานบริษัท จากงานด้านสถาปัตยกรรม รับออกแบบและดีไซน์ โครงการต่างๆ ในนามบริษัท ครีเอทีฟ คิงดอม อิงค์ เมื่อปี 2540 เช่น โครงการโรงแรม และรีสอร์ท ในดูไบ งานสวนสนุก งานสตูดิโอ ของเอ็มจีเอ ที่มาเก๊า และเริ่มเปิดบริษัท ครีเอทีฟ คิงดอม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เมื่อปี 2545 รับงานออกแบบด้านบันเทิง และเปิดครีเอทีฟ คิงดอม แอนิเมชันสตูดิโอ ในเชียงใหม่ เมื่อปี 2547
ปัจจุบัน มีสาขาอยู่ทั้งหมด 5 ประเทศ ได้แก่ โจฮันเนสเบิร์ก เซาต์แอฟริกา, มะนิลา ฟิลิปปินส์, ดูไบ, เชียงใหม่, ปักกิ่ง และกำลังมีแผนจะเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศอินเดีย
นับเป็นโครงการขายฝันขนาดใหญ่ของเชียงใหม่ อีกโครงการที่ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการ CNXWOOD Movie World Projet ณ อำเภอสันกำแพง ไปเมื่อวาน โดยมีนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายเอริค จี. จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ร่วมพิธีด้วย นับเป็นการสร้างความชัดเจนของโครงการเหยียบระดับหมื่นล้านที่จะลงทุนใน จังหวัดเชียงใหม่
โครงการนี้ ผมได้ยินข่าวช่วงต้นปีว่าโครงการนี้อาจจะพับเพียบพับแผนไปเพราะวิกฤติการ เงินของดูไบเพราะบริษัท สัญชาติสหรัฐฯ ชื่อว่า ครีเอทีฟ คิงด้อม อิงค์ หรือ ซีเคไอ (Creative Kingdom Inc.) อินเตอร์เนชั่นแนล คัมพานี ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกานี้เองเป็นผู้ออกแบบดูไบเวิรล์ด และออกแบบตึกเดอะปาล์ม และอาจจะได้รับผลกระทบจากการไม่ได้รับค่าจ้างมูลค่ามหาศาล
เจ้าของอภิมหาโครงการนี้มีโปรไฟล์ที่เริดหรู เพราะเชี่ยวชาญและรับจ้างออกแบบสถาปัตยกรรมระดับเมือง แหล่งท่องเที่ยว และสวนสนุก Theme Park ระดับโลก เช่น ก่อสร้างดีสนีย์แลนด์ ประเทศญี่ปุ่น คาสิโน รีสอร์ท โรงแรม สปา ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ มีสาขาใน 5 ประเทศ ได้แก่ 5 ประเทศ ได้แก่ โจฮันเนสเบิร์ก เซาต์แอฟริกา, มะนิลา ฟิลิปปินส์, ดูไบ, เชียงใหม่ ประเทศไทย , ปักกิ่ง ของจีน และกำลังมีแผนจะเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศอินเดีย
โครงการที่เชียงใหม่การันตีอีกด้วย ทาง ดร.อรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้ทำการอนุมัติโครงการของบริษัทครีเอทีฟ 3 โครงการ คือ โครงการสตูดิโอถ่ายทำ โครงการผลิตซอฟต์แวร์ และโครงการผลิตงานด้านสถาปัตย์และแอนิเมชั่น ภายใต้ชื่อ สตูดิโอ ซิตี้ ที่ อ.สันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 3 สตูดิโอ มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท บนเนื้อที่ประมาณ 39 ไร่ จากเนื้อที่โครงการทั้งหมด 600 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับสตูดิโออินดอร์ 2 สตูดิโอ และเอาต์ดอร์ 1 สตูดิโอ เพื่อรับงานจากต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 18 เดือนคาดว่าจะทำให้เกิดการจ้างงานกว่า 300 ตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านภาพยนตร์ สถาปัตยกรรม และได้เพิ่มทักษะความรู้ให้แก่วงการบันเทิงของประเทศไทย
สำหรับแผนการลงทุนโครงการ "CNX MOVIE WORLD" หรือ CNXWOOD จะเป็นศูนย์ภาพยนตร์เต็มรูปแบบที่จังหวัดเชียงใหม่ ใช้งบลงทุนทั้งโครงการมูลค่า 8 พันล้านบาท โครงการนี้จะเริ่มดำเนินการระยะที่ 1 บนพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ ในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ650 ล้านบาท จากนั้นจะทยอยดำเนินการในระยะต่อๆ ไปจนกระทั่งครอบคลุมพื้นที่รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,500 ไร่ วงเงินลงทุนกว่า 8,000 ล้านบาท ใช้เวลาในการก่อสร้างของโครงการทั้งหมดประมาณ 7 ปี (2553-2560)
โดยโครงการทั้งหมดมี 4 โซนหลักได้แก่ Studio Production อินดอร์และเอาต์ดอร์ พร้อม ด้วยเทคโนโลยีการถ่ายทำ และ Special Effect ล่าสุดรองรับการทำงานของผู้สร้าง และผู้กำกับจากทั่วโลก, โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว โรงภาพยนตร์ที่รองรับการเปิดรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ระดับโลก และศูนย์ประชุมนานาชาติ, บ้านพักของผู้สร้าง-ผู้กำกับภาพยนตร์และดาราชั้นนำทั่วโลก และรีสอร์ต-สปา สวนสนุก และสตรีตบาร์ ในส่วนนี้งานออกแบบคอนเซ็ปต์จะถูกนำมาใช้ เพื่อผสานโลกแห่งจินตนาการของโลเกชันที่มีชื่อเสียงทั่วโลกเข้ากับโลกแห่ง ความเป็นจริงของเมืองภาพยนตร์
นายเอลดูอาร์โด เอ โรเบิ้ลส์ ประธานกรรมการบริหาร CREATIVE KINGDOM INC. บอก ว่า โครงการเชียงใหม่วู้ดนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่การลงทุนโครงการอุตสาหกรรมบันเทิงอย่าง Games Animation และDigital หรือ ภาพยนตร์เท่านั้น แต่เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วย โดยภายในโครงการนอกจากสตูดิโอ และโรงถ่ายภาพยนตร์แล้ว ยังจะมีโครงการบ้านพักสำหรับการอยู่อาศัย โรงแรม สวนสนุก ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบวงจรอีกด้วย เนื่องจากโครงการนี้ไม่เฉพาะแต่พื้นที่อำเภอสันกำแพงเท่านั้น จะมีการกระจายไปยังอำเภออื่นด้วยโดยเฉพาะที่อำเภอแม่ริม ที่กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินผืนใหญ่ไม่ต่ำกว่า 100 ไร่เพื่อก่อสร้างโครงการดังกล่าวให้เต็มรูปแบบ
พร้อมกัน นี้ยังจะลงทุนสร้างวีไอพี เทอร์มินัล ติดกับคาร์โก สนามบินเชียงใหม่ และเครื่องบินส่วนตัวอีกหนึ่งลำ เพื่ออำนวยความสะดวกกับบรรดาผู้สร้างภาพยนตร์จากต่างประเทศ ที่จะบินเข้ามาถ่ายทำในสตูดิโอของบริษัท มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อขออนุญาตกับรัฐบาลไทยอยู่