เบียร์ แพงที่สุดในโลก ( Most expensive Beer )
Vielle Bon Secours เป็น เบียร์ แพงที่สุดในโลก ด้วยราคาขวดละประมาณ 35,000 บาทต่อขวด ( 1,000 เหรียญยูเอส ) แต่คุณไม่สามารถหาดื่มได้ทั่วไป คุณสามารถหาดื่มได้เพียงแห่งเดียวในโลก ที่บาร์ Bierdrome กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เท่านั้น
Samuel Adams' Utopias เป็น เบียร์ แพงที่สุดในโลก อันดับสอง ผลิตโดยบริษัทเบียร์บอสตัน ( Boston Beer Company ) ด้วยราคาขวดละ 3,500 บาทต่อขวด ( 100 เหรียญยูเอส ) ขวดทำจากทองแดงก้นกว้าง แบบดั่งเดิมที่สืบทอดกันมากว่า 100 ปี และมีปริมาณแอลกอฮอล์ ( alcohol ) 25%
กาแฟ แพงที่สุดในโลก ( Most expensive coffee )
Kopi Luwak โคปิ ลูแว็ค เป็นกาแฟโรบัสต้าชนิดหนึ่ง และเป็น กาแฟแพงที่สุดในโลก เนื่องจากขบวนการผลิตอันยุ่งยาก แปลกประหลาด มีออกสู่ต้องตลาดประมาณปีละ 500 ปอนด์ต่อปี ทำให้มันมีราคาประมาณกิโลกรัมละ 41,000 บาท และสามารถผลิตได้เพียงไม่กี่แห่งบนโลกนี้ จึงประเทศที่ผลิตได้ก็มีดังต่อไปนี้
ประเทศอินโดนีเซีย ทีึ่ เกาะสุมาตรา (Sumatra) , เกาะจาวา ( Java ) เกาะสุลาเวสี ( Sulawesi ) ประเทศฟิลิปปินส์ ( จะเรียกกาแฟชนิดนี้ว่า Kape Alamid ) ประเทศทิมอร์ ( จะเรียกกาแฟชนิดนี้ว่า kafé-laku ) ประเทศเวียดนาม ( จะเรียกกาแฟชนิดนี้ว่า weasel coffee )ขบวนการผลิต โคปิ ลูแว็ค ( Kopi Luwak )
ปลูกกาแฟในแห่งที่มีสัตว์ที่เรียกว่า ชะมดสายพันธ์ุเอเซีย (Asia Palm Civet) แต่ชาวพื้นเมืองจะเรียกชะมด ชนิดนี้ว่า "ลูแว็ค" เมื่อชะมดกินเม็ดกาแฟเข้าไป กรดและเอนไซม์ในกระเพาะอาหารของชะมดทำปฏิกิริยาทางเคมี คล้ายกับ การหมัก(Fermentation) กับเม็ดกาแฟสุกชะมดมากิน เม็ดกาแฟที่สุก รอชะมดถ่ายมูลออกมา แล้วตามเก็บ แต่สามารถรวบรวมได้ค่อนข้างง่ายเนื่อง จากชะมดมีนิสัยขับถ่ายในสถานที่เดิมๆ เสมอ นำมูลที่ได้มาเลือกเฉพาะเม็กกาแฟ นำเม็ดกาแฟที่ได้ไปตากให้แห้ง นำเม็ดกาแฟที่ตากแห้งดีแล้วมาคั่วจนแห้งสนิด เป็นอันจบขบวนการผลิต โคปิ ลูแว็ค
ความพยายามเลียนแบบ โคปิ ลูแว็ค ( Kopi Luwak )
แมสสิโม มาร์โคเน นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ใช้เวลาสืบเสาะอยู่นานกว่าจะพบว่า ในป่าแห่งหนึ่งของประเทศเอธิโอเปีย มีชะมดกัดกินกาแฟ แต่จากการทดสอบรสชาติก็ยังด้อยกว่าของอินโดนิเซีย เนื่องจากเป็นชะมดต่างพันธุ์กัน
แมสสิโม มาร์โคเนยังค้นพบว่า กระบวนการย่อยอาหารของชะมด ต้องผ่านแบคทีเรียและ เอนไซม์ในท้องของชะมด เป็นกรรมวิธีเดียวกับการหมักกาแฟแบบหนึ่งที่เรียกว่า "การหมักเปียก" และยังใช้แบคทีเรียชนิดเดียวกันด้วย คือ แบคทีเรียแล็กติกเอซิด มาร์โคเนมั่นใจว่าการหมักกาแฟเปียกน่าจะให้ผลใกล้ เคียงกับกาแฟที่ผ่านการย่อยในท้องของชะมดแต่ยังอยู่ในขั้นตอนการทดลอง
ทำไมกาแฟ โคปิ ลูแว็ค ( Kopi Luwak ) จึงอร่อย
ชา แพงที่สุดในโลก ( Most expensive Tea )
Ritz Carlton ประเทศฮ่องกง ( Hong Kong ) เป็นโรงแรมที่ขาย ชาแพงที่สุดในโลก ด้วยราคา 155,540 บาทต่อถ้วย
Diamond teabag เป็นถุงชงชา แพงที่สุดในโลก ลักษณะของถุงชานี้ เป็นงานทำมือ ประกอบไปด้วยเพชร 280 เม็ด ประดิษฐโดย Boodles jewelers เนื่องในงานฉลองครบรอบ 75 ปี ของ PG Tip's รายได้ที่ได้เพื่อการกุศลให้แก่เด็กในแมนเซสเตอร์ ( Manchester ) ประเทศอังกฤษ ( England )
Darjeeling เป็นพันธุ์ชา แพงที่สุดในโลกด้วย ราคา 115,500 บาท/กิโลกรัม (3,300 เหรียญยูเอส ) เนื่องจากมันชอบขึ้นในบริเวณที่เป็นเขาสูงชันใน อินเดีย ( India ) เนปาล ( Bhutan ) และ ภูฎาน (Bhutan) ที่ความสูงจากน้ำทะเลตั้งแต่ 5,000 ถึง 8,000 ฟุต
พิซซ่า แพงที่สุดในโลก ( Most expensive Pizza )
Pizza พิซซ่า แพงที่สุดในโลก ถาดนี้ปรุงโดยเชฟ Domenico Crolla’s เจ้าของร้านพิซซ่า "Pizza Royale 007" เชฟ Crolla ได้ตั้งราคาไว้สูงถึง 129,500 บาท ( 3,700 เหรียญยูเอส ) และจะเปิดประมูลผ่าน ebay และเงินที่ได้จะบริจาคให้แก่มูลนิธิ The Fred Hollows และผลการประมูลผ่าน ebay จบลงในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2006 ผู้ประมูลได้เป็นทนายชาวอิตารี นามว่า Maurizio Morelli ด้วยราคาประมาณ 147,000 บาท ( 4,200 เหรียญยูเอส )ข้อมูลเฉพาะ พิซซ่า แพงที่สุดในโลก
รูปกุ้ง lobster , ไข่ปลาคาร์เวียร์ , ปลาแซลมอนรมควัน , เนื้อกวาง , แฮม
ไอศครีม แพงที่สุดในโลก ( Most expensive Icecream )
Grand Opulence เป็นชื่อ ไอศครีมซันเด ( Sundae ) แพงที่สุดในโลก ที่ขายในภัตตาคาร Serendipity restaurant ที่มหานครนิวยอร์ค ( New York ) ในราคาถ้วยละ 35,000 บาท ( 1,000 เหรียญยูเอส )
ไอศครีม Grand Opulence ประกอบไปด้วย
รูปด้านหน้า ภัตตาคาร Serendipity restaurant ที่มหานครนิวยอร์ค ( New York )
แฮม แพงที่สุดในโลก ( Most expensive Ham )
Alba Quercus Reserve เป็นแฮม แพงที่สุดในโลก เป็นเนื้อขาหมูรมควันจากสเปน โดยสูตรพิเศษ Manuel Maldonado โดยมีกำลังผลิต 80 - 100 ขาต่อปี ในปี 2006 และมีราคาขายปอนด์ละ 160 เหรียญ หรือ ซื้อทั้งขา 13 ปอนด์ 2,080 เหรียญต่อขา และจะเริ่มมีการออกขายครั้งแรกในปี 2008 แฮมนี้มีวิธีการผลิตดังนี้
ควบคุมอาหารที่ให้หมูกิน อาหารที่ให้กินเป็นข้าวโอ็ตอย่างดี ซึ่งจะทำให้เนื้อมีกลิ่น และรสชาติที่เข้มข้น และมีไขมันแทรกตัวเป็นชั้นบางๆ ในเนื้อ เมื่อฆ่่าหมูแล้ว จะทำการหมักเนื้อหมู ด้วยกรรมวิธีพิเศษ ไว้ 2 ปี