ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ

 

 

ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ

 

ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Health Plus)

          ผู้ใหญ่โดยทั่วไปต้องการเวลา 7-8 ชั่วโมง สำหรับการนอนหลับสนิท ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีอื่นใดที่จะสามารถทดแทนวิธีการนอนหลับสนิทได้ เพราะชีวเคมีในร่างกายของเราต้องการการนอนหลับอย่างเต็มที่ และการนอนหลับโดยปราศจากการรบกวนเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพสูงสุด 

          แต่สังคมสมัยใหม่ทำให้ช่วยเวลาในการปฏิบัติการกิจยาวแต่ละวันยาวนานขึ้น และเปลี่ยนระบบเวลากลางวัน-กลางคืนของร่างกายเรา

          นอกจากนี้ร่างกายยังต้องรับแรงกดดันที่จะต้องมีการเรียนรู้ การเข้าสังคม การออกกำลังกายที่ การเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นการดูหนังทีวีซีรีส์เรื่องล่าสุดและการทำกิจกรรมอื่นๆ ภายในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ทำให้เวลาในการนอนของเราลดลง

 อาการผิดปกติของการนอนไม่หลับ

          ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับจากการอุดกั้น เป็นความผิดปกติที่เกิดจากการตีบแคบของทางเดินหายใจ (หลังลิ้น) ระหว่างหลับ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการหายใจ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการการกรน ภาวะหายใจลำบาก หายใจเฮือกและสำลักกรน การตีบตันของทางเดินหายใจ ทำให้ต้องใช้แรงหายใจมากขึ้น นำไปสู่การหายใจที่ไม่สม่ำเสมอ และทำให้ผู้ป่วยไม่ได้พักผ่อนระหว่างการนอนในช่วงเวลากลางคืน 

          ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับยังเป็นสาเหตุของการปวดศีรษะ สมาธิสั้น การสูญเสียความทรงจำ การใช้วิจารณญาณที่ผิดพลาด และการเซื่องซึมหรือง่วงนอน ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับสามารถทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจวาย และโรคหลอดเลือดในสมอง หากไม่ได้รับการบำบัดรักษา

          ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับมีอาการหยุดหายใจซ้ำๆ ระหว่างการนอนหลับ เนื่องจากทางเดินหายใจด้านบนถูกอุดกั้น การตีบตันของทางเดินหายใจอาจจะเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อาทิ ลิ้นที่มีขนาดใหญ่ เนื้อเยื่อพิเศษหรือความตึงตัวของกล้ามเนื้อที่คล้อยลงไปอุดกั้นการเปิดของทางเดินหายใจ

          การหยุดหายใจในแต่ละครั้งอาจมีช่วงระยะเวลาตั้งแต่ 2-3 วินาที จนถึงหลายๆ นาทีและอาจจะเกิดขึ้น 5 ถึง 30 ครั้งหรือมากกว่าในแต่ละชั่วโมง การหยุดหายใจนี้จะทำให้หัวใจทำงานหนัก และนำไปสู่โรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรงหลายโรค (ข้อมูลจากกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ของอเมริกา (NIH), 2009)

 อาการ

           กรนเสียงดังและมีลักษณะติดขัด

           หายใจเฮือกหรือสำลักกรนระหว่างนอน

           นอนหลับในช่วงกลางวันมากเกินไป 

 อาการอย่างอื่นของภาวการณ์หยุดหายใจ ขณะนอนหลับอาจรวมถึง

           ปวดศีรษะในตอนเช้า

           ปัญหาเรื่องความจำหรือการเรียนรู้

           รู้สึกหงุดหงิด

           ไม่สามารถมีสมาธิในการทำงานได้

           อารมณ์แปรปรวนหรือมีการเปลี่ยนแปลงของบุคลิกภาพ บางทีรู้สึกซึมเศร้า

           คอแห้งขณะตื่น

           ปวดปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน

          ถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับอาจความเสี่ยงทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดในสมอง โรคอ้วน และโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจล้มเหลวหรือทำให้อาการแย่ลง จังหวะการเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ และมีโอกาสที่จะประสบอุบัติเหตุในที่ทำงานหรือจากการขับขี่มากขึ้น (ข้อมูลจากกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ของอเมริกา (NIH), 2009)

 ผลกระทบ

          มีการประเมินว่า ชาวอเมริกันได้รับผลกระทบจากภาวะการนอนหลับผิดปกติ อาทิ การทำงานอย่างไม่มีประสิทธิผล สูญเสียค่ารักษาพยาบาล การลาป่วย และส่งผลกระทบถึงความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพย์สิน มีมูลคำว่า 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในแต่ละปี

          ในภาวการณ์นอนหลับผิดปกติ สถานการณ์การเกิดภาวะออกซิเจนลดลงเป็นพักๆ และในขณะเดียวกันร่างกายไม่ได้มีการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ทำให้เกิดการหลั่งของฮอร์โมนความเครียด ฮอร์โมนนี้ทำให้ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้น และมีความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดในสมอง อัตราการเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอรวมถึงภาวะหัวใจล้มเหลว

          ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับที่ไม่ได้รับการรักษาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการเผาผลาญอาหาร (Metabolism) เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคอ้วนและเบาหวาน

          การลดลงของระดับออกซิเจนในเลือดแม้เพียงในช่วงเวลาสั้นๆ เป็นสาเหตุทำให้เกิดการปวดศีรษะในตอนเช้า และมีสมาธิในการทำงานสั้นลง และยังส่งผลถึงการไม่สามารถใช้วิจารณญาณอย่างเหมาะสม ความสามารถในการเรียนรู้และความจำลดลง

          การง่วงนอนนำไปสู่ปัญหาด้านอารมณ์และพฤติกรรม รวมทั้งโรคซึมเศร้า และผู้ที่เป็นโรคนี้จะง่วงนอนมากกว่าคนปกติ 3 เท่า ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนหรือที่ทำงานมากขึ้น

          สำนักงานความปลอดภัยบนทางหลวงแห่งชาติ (The National Highway traffic Safety Administration) ประเมินว่า การเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันประมาณ 100,000 รายในแต่ละปี โดยจากการรายงานของตำรวจอุบัติเหตุเกิดขึ้นเกิดผู้ขับขี่ที่ง่วงนอน ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 รายและผู้บาดเจ็บอีกกว่า 71,000 ราย

 ใครคือผู้ที่มีความเสี่ยง

          ทุกคนมีความเสี่ยงที่จะประสบกับภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ การหยุดหายใจจากภาวะทางเดินหายใจถูกอุดกั้นขณะนอนหลับสามารถเกิดได้ทั้งในเพศชาย เพศหญิง และเด็กในทุกๆ วัย

ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ โดยทั่วไปไม่ได้ตระหนักว่าเกิดการหยุดหายใจในช่วงเวลากลางคืน

           มีการประเมินว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันกว่า 12 ล้านคนมีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับทำให้โรคดังกล่าวกลายเป็นโรคที่เป็นกันทั่วไป เช่นเดียวกับโรคหอบหืด

           กว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจ ขณะนอนหลับมีน้ำหนักมากเกินไป

           พบมากในเพศชาย

           กว่า 1 ใน 25 ชายวัยกลางคนและ 1 ใน 50 หญิงวัยกลางคนมีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ

           ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ของเด็กและ 10 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่าของผู้ใหญ่ที่มีอายุเกิน 65 ปี มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ

           พบภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับได้อย่างแพร่หลายในชาวแอฟริกัน อเมริกัน เอเชีย คนพื้นเมืองอเมริกันและชาว ฮิสพานิก (Hispanics) กว่าชาวผิวขาว (คอเคเซียน)

 การวินิจฉัยโรค

          พูดคุยปัญหาการนอนและอาการกับแพทย์ ถ้าแพทย์สงสัยว่าคุณมีความผิดปกติด้านการนอน แพทย์จะแนะนำคุณให้ไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนเพื่อตรวจวินิจฉัย

          การศึกษาด้านการวินิจฉัยโรคการนอนในช่วงเวลากลางคืนหรือที่เรียกว่า โพลีโซมโนแกรม (polysomnogram) หรือ (PSG) ถูกนำมาใช้ในการกำหนดชนิดและความรุนแรงของความผิดปกติของการนอนและการรักษาที่เหมาะสมจากผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเกิดการหยุดหายใจ การละดุ้งตื่นบ่อยครั้งระหว่างหลับและระดับออกซิเจนในเลือดมีการลดลง

 การบำบัดรักษา

           การรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจชนิดแรงดันบวกต่อเนื่อง Continuous Positive Airway Pressure (CPAP) เป็นวิธีการบำบัดรักษาด้วยแรงดันบวกทางเดินหายใจ (PAP) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด และเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาการหยุดหายใจจากภาวะทางเดินหายใจถูกอุดกั้นขณะนอนหลับ (OSA)

           การรักษาทำโดยการปล่อยแรงดันอากาศแบบเบาเข้าจมูกผ่านหน้ากาก

           แรงดันอากาศป้องกันการตีบตันของทางเดินหายใจ ทำให้หายใจได้อย่างอิสระระหว่างการนอน

           การรักษาแบบไม่ต้องต่อท่อกับเครื่องช่วยหายใจ (Noninvasive therapy) สามารถบรรเทาอาการภาวการณ์หยุดหายใจขณะนอนหลับจากการอุดกั้นเมื่อใช้ตามคำสั่งแพทย์

 วิธีการบำบัดรักษาอื่นๆ รวมถึง

           การผ่าตัด

           การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์/พฤติกรรม

 ข้อดีดีของการรักษาเป็นประจำ

           ลดผลกระทบของการหยุดหายใจจากภาวะทางเดินหายใจถูกอุดกั้นขณะนอนหลับ

           การใช้การบำบัดรักษาด้วยแรงดันบวกทางเดินหายใจ (PAP) ในช่วงเวลากลางคืนเป็นประจำ มีข้อดี

           พลังงานและความสนใจระหว่างวันเพิ่มขึ้น

           ความดันโลหิตลดลง

           ความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดในสมอและหัวใจวายลดลง

           มีประสิทธิภาพในการทำงานทั้งที่บ้านและที่ทำงานเพิ่มขึ้น

           คุณภาพชีวิตโดยรวมดีขึ้น

 

 

  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย 

 คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Credit: http://health.kapook.com/view3782.html
19 มิ.ย. 54 เวลา 13:32 1,981 4 30
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...