"แพลงกิ้ง" ถอยไป "พับเพียบไทย"มาแรง....

หลังจากกระแสการแพลงกิ้ง (Planking) หรือการทำตัวแกร็งตรงต่อสู้กับแรงโน้มถ่วง ตามสถานที่แปลกๆ กลายเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในประเทศไทย จนกลายเป็นสิ่งที่เกิดการเลียนแบบไปอย่างกว้างขวางทั้งวัยรุ่น ดารา ไม่เว้นแม้กระทั่งพระสงฆ์ จนกระทั่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติต้องออกมาแสดงความวิตกถึงความเหมาะสม ของการกระทำ

 

ยังไม่ทันเท่าไหร่กระแสการแสดง"ท่าทาง"อีกประเภท ก็ออกมาถล่มโลกออนไลน์อีกรอบและดูเหมือนว่าจะหนักหน่วงและรวดเร็วยิ่งกว่า การแพลงกิ้งเสียอีก

 

วันนี้คุณพับเพียบแล้วรึยัง? ไม่อันตราย งามอย่างไทย ผู้ใหญ่รัก!!!

 

นี่คือคำจำกัดความของหน้าจบนเว็บไซต์เฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า “พับเพียบไทยแลนด์” โดยได้รับคำอธิบายว่า "แหวกกระแส Planking ขอเอาความเป็นไทยใส่เข้ามา หารูปนั่งพับเพียบเก๋ๆแล้วเอามาแชร์กันดู"

 

 

จากวันที่เพจนี้ได้รับการก่อตั้งเมื่อเวลา14.00 น. ของวันที่ 17 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา หรือเพียงหนึ่งวันเศษ มีผู้มากด"ไลค์" หรือชอบแล้วมากกว่า 60,000 คน ซึ่งเมื่อเทียบกับหน้าเพจหลักของ "Planking Thailand" ซึ่งมีผู้กดไลค์แล้วมากกว่า 20,000 ราย ถือว่า"พับเพียบ"ได้รับความนิยมกว่ามาก

 

เว็บเพจ“พับเพียบไทยแลนด์” ได้ให้ความหมายของคำว่าพับเพียงต่างๆกันไป เช่น

 

"พับพียบ" ′s mean sit squat on the floor in a polite attitude (การนั่งราบไปกับพื้นด้วยกิริยาสุภาพ)

 

How to "พับเพียบ" Just sit on the floor with legs tucked back to one side. (การนั่งบนพื้น โดยขาทั้งสองข้างพับไปทางด้านหลังไปด้านใดด้านหนึ่ง)

 

"Pubpeab [definition] - A Thai traditional way of sitting which is mostly used for being polite or paying respect to such as elder people, monks or Buddha images and so on." (การนั่งแบบไทย ซึ่งส่วนใหญ่เพื่อแสดงความเคารพนบนอบต่อผู้ที่มีอาวุโสมากกว่า พระสงฆ์ หรือพระพุทธรูป และในกรณีอื่นๆ)

 

ปรากฏว่า กระแส "แพลงกิ้ง" ได้เกิดปฏิกิริยาต่อเนื่องทั้งในแง่บวกและแง่ลบ บางส่วนก็ร่วมสนุกตามกระแส แต่บางส่วนก็เบื่อหน่ายและต่อต้าน ซึ่งบางคนถึงกับมีการทำป้ายห้าม Planking มาโชว์ในโปรไฟล์ของตัวเอง

 

ทั้งนี้หลายคนแสดงความเห็นว่า การแพลงกิ้งอาจเป็นกิจกรรมที่เสี่ยงอันตรายเกินไป ผู้ทำท่าอาจได้รับบาดเจ็บหรือมีอันตราย นอกจากนั้นผู้ทำท่าแพลงกิ้งหลายราย เลือกที่จะทำในสถานที่หรือกับวัตถุที่เสี่ยงอัตรายเกินไป อาทิ บนเสาไฟฟ้า เตาแก๊ส หรือแม้แต่การนอนบนถนนที่มีรถวิ่งอย่างคับคั่ง จนกระทั่งมีผู้โพสต์แจ้งร้องเรียนในเว็บไซต์ของกองบังคับการตำรวจจราจรว่า "ผู้ใช้รถบนถนนโปรดระวังแพลงกิ้งกลางถนน ที่จริงก็น่าจะตายๆ **าไปจริงๆนะ"  แม้ทางแอดมินของหน้าเพจจะกล่าวอย่างชัดเจนว่า ต้องเป็นการ"แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ได้ทุกพื้นที่ โดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อน"

 

ด้าน นพ.ธีรศักดิ์ ลักษณานันท์ รักษาการผู้อำนวยการกองออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า หากผู้ที่ทำท่าแพลงกิ้ง มีอาการตับโต ม้ามโต และไปทำท่าแพลงกิ้งบนเสา หรือพื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นราบ อาจจะส่งผลทำให้ตับแตก หรือม้ามแตกโดยไม่รู้ตัวได้ ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิต ดังนั้น จึงอยากแนะนำว่าหากต้องการจะ ทำท่าแพลงกิ้ง ก็ควรจะทำบนพื้นราบที่มีความปลอดภัย

 

ขณะที่กิจกรรมการพับเพียบ ดูเหมือนว่าจะถูกจริตของคนไทยที่ไม่ชอบการแสดงออกแบบแผลงๆ และเห็นว่าการพับเพียบเป็นสิ่งที่ทำง่าย โดยไม่ว่าทำทำอะไรเราก็สามารถนั่งพับเพียบได้ อีกทั้งเป็นวัฒนธรรมที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณที่คนไทยคุ้นเคยมานานอยู่แล้ว และช่วยส่งเสริมให้ประชาชนและคนรุ่นใหม่หันมาอนุรักษ์"ความเป็นไทย"มากยิ่ง ขึ้น นอกจากนั้น ยังแสดงออกถึงความเรียบร้อย มีมารยาทในแบบไทยๆ ดูดี มีเสน่ห์ แถมยังเท่และสนุก โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นใน"พับเพียบไทยแลนด์" อาทิ

 

"ใครไปเที่ยวที่ไหน ช่วยกันพับเพียบหน่อยนะคร้าบ แสดงหน่อยว่าคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก"

 

"พับเพียบไทยแลนด์ ไม่ได้สร้างกระแส เพื่อสู้กะใคร แค่มาปลุกจิตสำนึกคนไทย ให้รู้ว่าเมืองไทยก็มีอะไรดีๆ"

 

ขณะที่ผู้แสดงความคิดเห็นบางรายกล่าวแย้งว่า การนั่งพับเพียบเป็นวัฒนธรรมที่มีมานานแล้วในสังคมไทย การนำมาเผยแพร่ครั้งนี้ก็เพียงแค่ทำให้ดูเท่ขึ้นเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้การนั่งพับเพียบกลายเป็นสิ่งที่ดูไร้ค่า และหากว่าจุดประสงค์ของการกระทำ คือการนำมาตอบโต้ถึงการทำแพลงกิ้งที่ได้รับอิทธิพลจากต่างชาติ ต่อไปวัฒนธรรมอื่นๆก็อาจถูกนำมาตีความในราคาถูก

 

และนี่คือตัวอย่างบางส่วนของ "พับเพียบ" แบบไทยๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


Credit: Matichon Online
19 มิ.ย. 54 เวลา 08:07 5,484 12 110
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...