หนึ่งปีที่ผ่านมา......
เราใส่ เสื้อเหลือง
เราใส่ สาย รัดข้อมือสีเหลือง
คนนับแสน ไปนั่งรอเป็นชั่วโมงๆหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม เพื่อจะได้เห็นพระพักตร์ของพระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพียงไม่กี่ นาที
วันนั้น ในขณะที่ทั้งโลกเริ่มเชื่อศรัทธาในระบบการปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เราได้แสดงให้โลกได้เห็นว่ามีประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่งที่คนทั้งชาติยังซื่อ สัตย์ จงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรีและพระมหากษัตริย์อันทรงเป็นที่รักยิ่งของคน ไทย
.....สิบสองปีที่ผ่านมา......
พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนักด้วยโรคหัวใจเพราะทรงงานหนักเกิน ไป
ในขณะ เดียวกันสมเด็จพระราชชนนีก็ทรงพระประชวรหนัก อยู่ ณ โรงพยาบาลศิริราชเช่น กัน
เรายังจำรูปในหนังสือพิมพ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยม พระราชชนนีไม่กี่วันหลังจากการผ่าตัดใหญ่ถวายพระ หัตถ์ข้างหนึ่งกุมอยู่ที่พระ อุระ และในพระหัตถ์อีกข้างหนึ่งทรงถือม้วนแผนที่ กรุงเทพฯเพราะน้ำกำลังท่วม กรุงอยู่
ยังจำกันได้ ไหม?
..... 34 ปีที่ผ่านมา.....
วัน ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 เป็นครั้งแรกในรัชกาลที่เกิด วิกฤติด้านการเมืองรุนแรงที่สุด
วันนั้นนิสิตนักศึกษาและประชาชนนับหมื่นนับแสนเดินขบวน ประท้วงรัฐบาล เหตุการณ์ร้ายแรงยิ่งขึ้น ตำรวจทหารยิงประชาชน ในขณะที่นิสิตนัก ศึกษาก็เผาสถานที่ราชการเกิดกลียุคทุกหย่อมหญ้า คนไทยฆ่าคนไทยด้วยกัน เอง
คืนนั้น สถานีโทรทัศน์ทุกช่องถ่ายทอดสดจากพระราชวังสวน จิตรลดาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวทรงมีพระราชดำรัสกันคนไทยทุกคน ว่า “คนไทยจะฆ่าคนไทยด้วยกันไม่ได้ ทุกอย่างต้องสงบโดยฉับ พลัน”
และ ทุกอย่างก็สงบโดยฉับพลัน
หลังจากนั้นไม่นานมีฝรั่งคนหนึ่ง มาถามผม ว่า “เป็นไปได้อย่างไร ที่คนๆ เดียวจะมีอำนาจเหนือคนทั้ง ประเทศได้อย่างนั้น?”
ผมไม่ได้ ตอบ แต่ตอนนั้นใจผมคิดถึงประโยค ที่ มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมชฯ ได้ให้ สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ BBC ว่า พระองค์ทรงเป็น SOUL OF THE NATION หรือ “จิตวิญญาณของคนไทยทั้งชาติ”
ยังจำกัน ได้ ไหม?
แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่?
เราสร้างค่านิยมผิดๆ ว่าคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีเงินมากที่ สุด
เราโกง ทุก ครั้งที่มีโอกาส
เราเรียก ร้องประชาธิปไตยโดยคิดถึงแต่ “ สิทธิ” แต่ลืมคำว่า “ หน้าที่”
เรากำลัง ฆ่ากันเองทุกวันในภาคใต้
เรา สร้าง “กฎหมู่” ให้เหนือ “กฎหมาย”
เราเดิน ขบวนประท้วงในทุกอย่างที่เราไม่เห็นด้วย
เราก้าว ร้าวต่อกัน เราแตกแยกกัน
และทั้งโลกกำลัง จับตามองเราอยู่
เราเคยหยุดคิดกันบ้างไหมว่า
พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวของเราจะทรงเสียพระทัย เพียงใด?
80 ชันษา ของ พระองค์ท่าน หากเปรียบ กับคนธรรมดาก็สมควรที่จะได้พักเต็มที่ ได้รับการดูแล และ ระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่สมควรที่จะตรากตรำทำงานหนัก หรือกระทบกระเทือนใจ แต่ อย่างใด
แต่กลับ เป็นว่า ในปีที่ครบ 80 ชันษา ของ พระองค์ท่านยังต้องทรงงานอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ทรงต้องอยู่ภายใต้การถวาย การ ดูแลของคณะแพทย์
พระองค์ต้องรับ ทุกข์ของคนไทยทั้งชาติ
ความสุข ของพระมหากษัตริย์พระองค์ นี้ ไม่ใช่จะประทับอยู่ในพระราชวังใหญ่โตสวยงาม แห่ ล้อมด้วยข้าราช บริพาร
หากแต่ ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้คือ เมื่อ ประชาชนของพระองค์ท่านรักสามัคคี กัน รู้จักความพอเพียง และมีสติ- เพียงเท่านี้เอง
แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่?
หรือนี่คือการ แสดงความกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์ของ เรา?