เลี้ยงแมวต้องเข้าใจแมว อย่าปล่อยให้แมวเข้าใจคนฝ่ายเดียว

 

 

 

 

   เลี้ยงแมวต้องเข้าใจแมว อย่าปล่อยให้แมวเข้าใจคนฝ่ายเดียว

 

          

 

 

ผมขอออกตัวเสียก่อนว่า ผมไม่ใช่นักเลี้ยงแมวมืออาชีพ ไม่ใช่นักวิเคราะห์พฤติกรรมสัตว์

แต่อย่างใด และก็ไม่ใช่สัตวแพทย์อีกด้วย

 

 ที่จะเขียนนี้ ก็ถือว่า คุยกันเล่นสนุก ๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน  ก็พอได้บ้าง ผมเลี้ยงแมวประเภทใหม่

ครับไม่ได้อยู่ในสารบบเขาหรอก คือเลี้ยงเอาบุญครับ ไม่ได้เลี้ยงเพื่อประกวดหรือ 

เพื่อความสวยงามแต่อย่างใด  แมวพิการผมก็เลี้ยง แมวตาบอดก็มี ตาบอดข้างเดียวก็มี ตาบอด

สองข้างก็มี หูแหว่งก็มี เป็นแผลเฟอะฟะก็มี เรียกว่าครบเครื่องทีเดียว

 

 ขอเริ่มต้นที่ แมวกับความจำก่อน

 

แมวมีความจำดีแค่ไหน 

 


 

 แมวเป็นสัตว์ที่มีความจำดีพอสมควร แต่บางตัวก็มีความจำดีมาก มีเรื่องจะขอเล่าให้ฟังสัก

๒ เรื่องสั้น ๆ ครับ

 

 เรื่องแรก ครั้งหนึ่ง มีแม่แมวที่เลี้ยงไว้คลอดลูกที่บ้าน มีลูกด้วยกัน ๓ ตัว พอลูกแมวโต

ขึ้นพอจะเดินและวิ่งเล่นได้บ้างแล้ว ก็พอดีช่วงนั้นหน้าร้อน เกิดสุนัขจรจัดแถวหน้าบ้านเป็นสุนัขบ้า

กัน คนกลัวกันมาก หลบแต่ในบ้าน ไม่ค่อยกล้าออกมานอกบ้านกัน

 แล้วก็กลัวแมวที่เลี้ยงไว้ จะไปติดเชื้อพิษสุนัขบ้ามา เพราะชอบออกไปนอกบ้านอยู่เป็นประจำ

คนในบ้านก็พากันระมัดระวังมาก ไม่ยอมให้แมวเข้าใกล้ได้ พากันรังเกียจแมว แต่ก็ยังคลุกข้าวให้ตามปกติ 

 เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาประมาณ ๑ สัปดาห์ เห็นจะได้ ต่อมาแม่แมวและลูก ๆ ทั้ง ๓ ตัว

หายจากบ้านไป ตามหาเท่าไรก็ไม่พบ

 

 ประมาณ ๑ เดือน เห็นจะได้ พอเหตุการณ์สงบ ทุกอย่างเป็นปกติ วันหนึ่ง แม่บ้านเดินไป

ซื้อของที่ร้านขายของชำ อยู่ห่างจากบ้านไปประมาณ ๑๐๐ เมตร ก็ได้ยินเสียงแมวและลูกแมวร้อง

ก็ไปพบและจำได้ว่าเป็นแม่แมวและลูก ๆ ที่หายไป นั่นเอง  บริเวณที่แม่แมวและลูกแมวมาหา ก็เป็นบริเวณ

แถวหน้าร้านขายของชำนั้น 

 แม่แมวพาลูกแมวมาหาแม่บ้าน แล้วก็เดินตามกลับบ้าน ระยะทางประมาณ ๑๐๐ เมตร จนมา

ถึงบ้าน มาอยู่ที่บ้านด้วยความสุขเช่นเคย

 

 นี่ก็แสดงว่า แม่แมวมีความจำดี จำแม่บ้านได้ และจำบ้านที่เคยอาศัยได้

 


 

 เรื่องที่สอง  มีแม่แมวตัวหนึ่งมีอายุ  สีดำขาว อาศัยอยู่บริเวณหมู่บ้านแถวนั้น มาอาศัยอยู่ที่บ้าน  เราตั้งชื่อว่า

 ‘แม่ใหญ่’ มาคลอดลูกที่บ้านหลายตัว จนลูกแมวโต แล้วจู่ ๆ ก็หายไปจากบ้าน 

ไม่ทราบไปไหน ตามหาก็ไม่พบ แล้วไม่ทราบด้วยว่า เดิมอยู่บ้านไหน จนปัญญาก็เลยเลิกติดตาม

 

 ประมาณ ๕ ปี ให้หลัง แม่แมวตัวนี้ ก็กลับมาที่บ้านอีกครั้ง มาเอง แต่อยู่ในสภาพที่ชรามาก

แล้ว จึงต้องให้อยู่ในกรง แล้วป้อนข้าว ป้อนน้ำกัน ตอนหลังเป็นอัมพาต อ้าได้แต่ปากอย่างเดียว ตัวก็แข็งทื่อ

ไปหมด แต่ก็ใจแข็งมาก กินอาหารที่ป้อนทุกมื้อ เป็นเวลานานหลายสัปดาห์ แล้วจึงตาย

 

 นี่ก็แสดงว่า แม่ใหญ่ มีความจำดีมาก จากบ้านไปประมาณ ๕ ปี ยังกลับมาบ้านได้ถูก

 

แมวมองเห็นในที่มืดได้ดีกว่าคน

 

 แมวมองเห็นในที่มืดได้ดีกว่าคน เพราะแมวมีม่านตาที่ขยายกว้างในที่มืด มากกว่าคน 

แต่แมวก็ยังมองอะไรเห็นเพียง ๒ สี ขาวกับดำ เท่านั้น 

 

การตั้งชื่อแมว

 

 แมวจะจดจำชื่อตัวเองได้ดี หากตั้งชื่อแมวเพียงพยางค์เดียว เช่น เหลือง ดำ ยาว แหลม

ดาว  เป็นต้น  สองพยางค์ก็ใช้ได้ ผู้เขียนตั้งชื่อแมวตัวหนึ่งว่า ‘ต้วมเตี้ยม’ เรียกทีไร ก็มาหา

ทุกที (นอกจาก ไม่สบอารมณ์บ้าง เรียกเท่าไรก็ไม่มาดื้อเป็นเหมือนกัน)

 

 จึงควรตั้งชื่อแมวเพียงพยางค์เดียวจะดีกว่า

 

อาหารจานแมว

 

 ท่านอาจารย์พุทธทาส  ได้เคยกล่าวในทำนองว่า  ให้ผู้ปฏิบัติธรรมกินอาหารจานแมว ก็จะประหยัดไปได้มาก

ทีเดียว ลดความอ้วนได้เป็นอย่างดีด้วย อย่าไปยึดมั่นในเรื่องอาหารนัก มุ่งปฏิบัติธรรมดีกว่า กินพอให้ร่างกาย

อยู่ได้ก็พอ

แมวปกติ จะกินอาหารน้อยมาก คล้าย ๆ กับจะดมเสียมากกว่า แต่บางตัว อาจกินจานนี้แล้ว

ยังไม่อิ่ม ก็ไปกินจานอื่นเรื่อย ๆ ไปอีกก็มี 

  เมื่อกินอาหารเสร็จแล้ว สักพักใหญ่ ๆ ก็ควรเก็บจานข้าวแมวไปล้าง ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ทั้งวัน

อาหารอาจบูดเน่า แมวไปกินภายหลัง อาจท้องเสียได้ เหลือไว้แต่อาหารแห้งสำเร็จรูปให้แมวกินไปได้ตลอดวัน

ก็พอ 

 

 ให้อาหารแมว วันละ ๒ ครั้ง เช้า และเย็น ก็เพียงพอแล้ว

 อาหารแมว ส่วนมาก จะคลุกข้าวกับปลาทู ให้แมวกินเป็นประจำ นาน ๆ ครั้ง อาจเปลี่ยนเป็น

คลุกข้าวกับปลาชนิดอื่นบ้าง เช่น ปลาทอด หรือให้อาหารซองสำเร็จรูปบ้าง ก็ดี

  อย่าลืม ! แมวเป็นสัตว์กินเนื้อ ยิ่งกว่าสุนัขเสียอีก 

  แมวอาจจะเบื่อข้าว เพราะที่จริงแล้ว ข้าวไม่ใช่อาหารหลักของแมว 

  (ไม่ควรวางจานข้าวแมว ไว้ใกล้กับภาชนะขับถ่ายของแมว เพราะแมวไม่ชอบให้กลิ่นมา

รบกวนกัน รักความสะอาดเสียด้วย)

 

น้ำกินของแมว

 

 ควรจัดน้ำสะอาดให้แมว ไว้กินเป็นประจำและให้เพียงพอ แล้วควรเปลี่ยนน้ำทุกวัน  (ถ้าทำได้

ก็จะดี) น้ำไม่ควรรองจากก๊อกน้ำโดยตรง เพราะอาจมีคลอรีนมากเกินไป ควรตักจากภาชนะที่รองไว้

อีกที จะดีกว่า

 

ที่นอนของแมว

 



 


 

 แมวเป็นสัตว์ที่ปรับตัวได้ดี นอนไหนนอนได้ รู้จักปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี แมวจะ

เลือกหาที่เหมาะสำหรับนอนได้ดีทีเดียว 

 ที่นอนของแมว ควรเป็นที่ที่อบอุ่น ควรมีภาชนะให้แมวนอน เป็นตระกร้านอน หรือกระบะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ปูรองด้วยผ้าขนหนูหนา ๆ 

  อากาศจะหนาวมากน้อยแค่ไหน ให้สังเกตการนอนของแมว ก็จะทราบ หนาวมาก อาจนอน

รวมกันหลายตัว และขดเป็นวงกลม อาศัยไออุ่นซึ่งกันและกัน และจะนอนในบ้าน มากกว่านอนนอกบ้าน ถ้าเป็น

หน้าร้อน ก็จะนอนนอกบ้าน

  แมวเป็นสัตว์ที่นอนมาก วันหนึ่ง ๆ แมวจะนอนไม่ต่ำกว่าวันละ ๑๘ ชั่วโมงเลยทีเดียว

(สาเหตุนี้ แมวจึงกินอาหารน้อย อาศัยนอนมากชดเชยแทน)

 

แมวนอนหงาย

 


 

แมวบางตัว สบายใจ อาจนอนหงาย ชูขาทั้ง ๔ ขาเลยทีเดียว เรียกว่า “แมวสบายใจ”

 

แมวชูหาง  เป็นการแสดงมิตรไมตรี

 



 



 ปกติ แมวเดินไปไหนตามปกติ จะชูหางของตัวเองขึ้นสูงตั้งขึ้น แสดงถึงความมีมิตร

ไมตรี ทักทายกับเจ้าของ หรือคนรู้จัก หรือแมวอีกตัวหนึ่ง

 

 เจ้าของหรือคนรู้จัก ก็ควรเอามือมาสัมผัสและลูบตัวมันด้วย  โดยเฉพาะตรงโคนหางของมัน

ซึ่งมันจะพยายามยกก้นขึ้น เพื่อให้ต่อมบนผิวหนังตรงโคนหางสีกับมือ  แล้วมันก็จะเอาหน้าและหัว

ของมันถูกับมือคนนั้น การลูกคลำของคน ก็คล้ายกับแม่แมวเลียลูก นั่นเอง การถูก็เป็นการทิ้ง

กลิ่นไว้ที่ตัวคน จึงเท่ากับมีความสุขด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย

 

 หากเป็นแมว ๒ ตัว เมื่อมันชูหางตั้งขึ้น แล้วเดินเข้าหากัน จากนั้น ก็จะเอาหัวถูกัน ใช้สีข้าง

สีกับอีกฝ่ายหนึ่ง 

 

 หากเป็นคน แมวก็จะแทรกตัวระหว่างขา เพื่อถูตัวกับร่างกายคน

 

แมวหาว  ไม่ได้แปลว่า แมวง่วงนอน

 


 

 เมื่อแมวหาว และแมวหาวบ่อยเสียด้วย ไม่ได้แปลว่า แมวง่วงนอน อยากจะไปนอนล่ะ

แต่ที่จริงแล้ว เป็นภาวะที่แมวกำลังสบายใจ

 

 แมวบางตัว หาวบ่อยเสียด้วย ก็ไม่เป็นไรครับ ตามประสาแมว ไม่ว่ากันอยู่แล้ว อยากหาว

ก็หาวไป

 

 ขอเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เมื่อแมวพบหน้าเจ้าของหรือคนคุ้นเคย แล้วหาว คล้าย ๆ จะเป็น

การสวัสดีของแมว ทักทายเมื่อพบ แต่ยังไม่แน่เสมอไป ต้องสังเกตพฤติกรรมต่อไป จึงยังไม่

สามารถสรุปได้ชัดเจน

 

          

Credit: http://www.oknation.net/blog/surasakc/2010/11/09/entry-1
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...