รถไฟเสยปิกอัพฉีกกระจุย2ท่อนรอดปาฏิหาริย์4

หนุ่มใหญ่วัยดึกควบกระบะสองตอนพาเมีย ญาติ หลาน กลับบ้านที่จ.กระบี่ ผ่านทางลัดต้องข้ามทางรถไฟ โดนด่วน 167 กรุงเทพฯ-กันตังขยี้ รถเละขาดสองท่อน 4 ชีวิต กลับรอดตายปาฏิหาริย์ เจ็บเพียงกระจกบาด อ้างตู้บังมองไม่เห็นรถไฟกำลังวิ่ง เชื่อคุณพ่อคุณแม่คุ้มครอง

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 9 มิ.ย. ร.ต.อ.ไพโรจน์  ชนะชัย พงส.(สบ1) สภ.ทุ่งสง  จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถไฟชนรถยนต์มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ บริเวณถนนข้ามทางรถไฟ ระหว่างสถานีคลองจัง-สถานีทุ่งสง หมู่ที่ 7 ต.ชะมาย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุรจิตร ตะกรุดเดิม รอง ผกก.(สส.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ เมื่อไปถึงพบว่าที่เกิดเหตุเป็นถนนลูกรังและทางรถไฟเป็นรางคู่ขนาน มีรถไฟโดยสารรถเร็ว ขบวนที่ 167 กรุงเทพฯ- กันตัง จอดอยู่และห่างจากหัวรถจักรประมาณ 30 เมตร พบรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ  สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บฉ 8168 กระบี่ ตกอยู่ในสภาพพังยับเยิน ห้องโดยสารถูกชนขาดหลุดจากตัวกระบะเป็น 2 ท่อน

ภายในห้องโดยสารรถมีคนติดอยู่  4 คน ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือด้วยอาการตื่นตระหนกดังระงม เพราะมีเด็กชายวัย 9 ขวบติดอยู่ด้วย หน่วยกู้ภัยจึงเร่งใช้เครื่องอุปกรณ์ตัดถ่าง งัดเหล็กตัวถังช่วยเหลือทั้งหมดออกมาได้ ตรวจสอบผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อ นางณัช พรหมเทพ อายุ 45 ปี และ นางอารีย์ จันทมุณี อายุ 48 ปี ถูกเศษกระจกบาดที่บริเวณ แขน-ขา ถูกนำส่งรพ.ทุ่งสง ส่วนนายคำนึง จันทมุณี อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/3 หมู่ที่  1 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ เจ้าของรถ และ ด.ช.เทพ (นามสมมุติ) วัย 9 ขวบ ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่ได้ถูกส่งไปตรวจร่างกายเช่นเดียวกัน

สอบสวนนายคำนึง ให้การว่า ได้ขับ  รถคันดังกล่าวพาภรรยา ญาติกับหลานชาย  เดินทางไปเยี่ยมญาติใน อ.ทุ่งสง จนกระทั่งเสร็จสิ้นจึงได้เดินทางกลับ จ.กระบี่ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุขณะที่ขับรถข้ามทางรถไฟ ตนมองไม่เห็นว่ามีรถไฟกำลังมาเพราะมีตู้สินค้าจอดบังอยู่ จึงถูกรถไฟชนลากครูดไปกับรางประมาณ 30 เมตร ก่อนที่ตัวรถยนต์จะตกลงไปอยู่ระหว่างราง อย่างไรก็ดี การที่ตนและ คนที่อยู่ในรถรอดตายปาฏิหาริย์ครั้งนี้ เชื่อว่าเป็นเพราะแขวนรูปพ่อกับแม่ไว้ที่คอ เจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ซึ่งทางการรถไฟจะเจรจาตกลงเกี่ยวกับค่าเสียหายจากนายคำนึงต่อไป