ก่อเหตุในศาลอาญา เป็นลูกนักการเมือง

คุมตัวลูกนักการเมืองค้ายาไอซ์ ส่งฝากศาลอาญาระหว่างสื่อมวลชนดักถ่ายภาพ เหิมคุกคามสื่อกระโดดถีบช่างภาพอาวุโสเดลินิวส์หงายเก๋ง ได้แผลเลือดตกยางออก พร้อมกล้องตัวเรือนแสนพังยับ เจ้าตัวรุดแจ้งตำรวจ สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีทำร้ายร่างกายและทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ด้านศาลพิจารณาอนุญาตให้ฝากขังได้ ส่งตัวเข้าซังเตทันที ฝั่ง “สุเทพ” ซูฮกสปิริต “ประจักษ์ชัย” ลาออกจากพรรคกลัวทำให้เสื่อมเสีย
   
จากกรณีตำรวจ สน.ห้วยขวาง จับกุม นายสรธร หรือกร ณ สงขลา อายุ 34 ปี บุตรชายนายประจักษ์ชัย ณ สงขลา ผู้สมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ลำดับที่ 94 และน.ส.ทานตะวัน อุดมธนานันท์ อายุ 25 ปี โมเดลลิ่งจัดหานางแบบและพริตตี้ พร้อมของกลางยาไอซ์ 63 กรัม และเครื่องซีลพลาสติก 1 เครื่อง ได้ที่ลานจอดรถคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ซอยรัชดาฯ 10 จากการขยายผลจับกุมปาร์ตี้ยาได้ผู้ต้องหา 4 คน ภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งซอยลาดพร้าว 71 ก่อนนางพิมลภัทร์ อัครเศษฐานันท์ อายุ 31 ปี หนึ่งในผู้ต้องหา ซัดทอดว่า ยาเสพติดเป็นของนายสรธร สามี ซึ่งสั่งซื้อมาจากเรือนจำ จนนำไปสู่การล่อซื้อจับกุม หลังจากนั้นนายประจักษ์ชัย ผู้เป็นพ่อจะแสดงความรับผิดชอบประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากเกรงผล กระทบต่อชื่อเสียงของพรรค ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
   
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่6 มิ.ย. ร.ต.อ.ศราวุธ ไชยรัตน์ พงส.(สบ 1) สน.ห้วยขวาง ได้สอบปากคำนายสรธร เพื่อจำหน่ายต่อหน้าบรรดาญาติและทนายความ จากการสอบปากคำเบื้องต้นนายสรธร ให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาล ก่อนจะควบคุมตัวเดินทางไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขังเป็นผลัดแรก ตั้งแต่วันที่ 6-17 มิ.ย. เนื่องจากยังสอบสวนไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 9 ปาก รอผลตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของกลาง และประวัติการต้องโทษ พร้อมกันนี้พนักงานสอบสวนยังได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาด้วย
   
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ ร.ต.อ.ศราวุธ คุมตัวนายสรธร ขออำนาจศาลฝากขังบริเวณห้องควบคุมตัวใต้ถุนศาล โดยสวมกุญแจมือทั้งสองข้าง และผู้ต้องหาใช้ผ้าปิดหน้าตนเองปรากฏว่า ได้เกิดเหตุไม่คาดฝัน ระหว่างที่นายฐานิศร์ สมิตานนท์ อายุ 56 ปี ช่างภาพอาวุโส นสพ.เดลินิวส์ กำลังถ่ายภาพ นายสรธร ระยะประชิดจนสร้างความไม่พอใจให้นายสรธรที่พยายามหลบช่างภาพมาได้ตลอด โดยนายสรธรได้ตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย แล้วใช้เท้าขวาถีบเข้าบริเวณท้องน้อยนายฐานิศร์ จนถึงกับหงายหลังลำตัวฟาดพื้นอย่างแรง ได้รับบาดเจ็บข้อศอกซ้ายเลือดออก โดยนายสรธรพยายามจะเข้ามาทำร้ายซ้ำ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบคว้าตัว แล้วลากเข้าห้องควบคุมอย่างรวดเร็ว ต่อมา ด.ต.สงกรานต์ ศรีสุข เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลได้มาที่เกิดเหตุ พบว่านายฐานิศร์ได้รับบาดเจ็บ และกล้องถ่ายรูปยี่ห้อนิคอน รุ่น D 200 ราคาประมาณ 1 แสนบาท สภาพพังยับใช้การไม่ได้ จึงไปร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.
สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ พงส.(สบ 1) สน.พหลโยธิน
   
ต่อมา ร.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดินทางมาดู ที่เกิดเหตุ โดยมีนายฐานิศร์ ผู้เสียหายยืนรออยู่ในสภาพมอมแมม พร้อมเล่าว่า มายืนรอถ่ายภาพข่าวผู้ต้องหาตามปกติ ปรากฏว่าขณะผู้ต้องหาเดินมาบนฟุตปาธด้านหลังอาคารศาล สวมกุญแจมือยกมือปิดบังใบหน้า จึงตรงเข้าไปถ่ายภาพ ผู้ต้องหาก็เดินเข้ามาในลักษณะปกติ แล้วด่าตน ก่อนใช้เท้าถีบที่ท้องจนล้มทับกล้องอีกตัวที่สะพายอยู่ที่ไหล่ข้างซ้าย กระแทกพื้นเสียหาย และตนได้รับบาดเจ็บที่ศอกซ้ายเป็นแผลมีเลือดออก 2 จุด และเจ็บยอกไปทั้งตัว นายสรธรได้พยายามกระทืบซ้ำ แต่ตำรวจที่คุมมาล็อกตัวผู้ต้องหาออกไป ตนได้หารือผู้บังคับบัญชาใน นสพ.เดลินิวส์แล้ว ก็ให้ตนดำเนินคดี จึงแจ้งความดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายกับทำให้เสียทรัพย์ เบื้องต้น ส่งตัวนายฐานิศร์ไปตรวจร่างกาย เพื่อให้แพทย์ตรวจและออกใบรับรองเพื่อประกอบการสอบสวน หลังจากนั้นจะแจ้งข้อกล่าวหาที่เรือนจำต่อไป
   
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้นายฐานิศร์เคยถูกนักโทษชาวอิหร่านกระโดดชกหน้าขณะถ่ายรูปทำข่าวหน้าห้องขังบริเวณใต้ถุนศาลมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ชกไม่ถูกเพราะนายฐานิศร์หลบทัน
   
สำหรับรายละเอียดคำร้องฝากขัง นั้น พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 5 (อิริมิลไฟล์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวมายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 6-17 มิ.ย. และขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาด้วย ทั้งนี้ศาลพิจารณาคำร้องทั้ง 2 สำนวนแล้ว ผู้ต้องหาไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้
   
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า กรณีการจับกุมนายสรธร บุตรชายนายประจักษ์ชัย ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อพรรค เพราะเป็นเรื่องของบุคคล เราต้องเห็นใจคนที่เป็นพ่อแม่ที่เจอเรื่องอย่างนี้ ถึงแม้ว่าตนจะไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว และต้องขอขอบคุณที่นายประจักษ์ชัย ได้แสดงความรับผิชดอบ โดยที่ไม่มีใครไปพูดจาต่อว่าอะไรเลย แต่นายประจักษ์ชัยกลัวว่าพรรคจะเสียหายจึงขอลาออก ต่อจากนี้ก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม สำหรับปัญหายาเสพติดนั้นรัฐบาลยืนยันเดินหน้าปราบปรามป้องกันต่อไป ในช่วงที่เราเป็นรัฐบาล เราสามารถทำงานได้อย่างเข้มแข็ง จับกุมผู้กระทำความผิดและนำผู้เสพเข้ามาบำบัดรักษาได้มากกว่าทุกยุคทุกสมัย ที่สำคัญนโยบายปราบปรามยาเสพติดของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ ฆ่าใครแม้แต่คนเดียว ไม่ได้อุ้มฆ่าเหมือนในอดีต.