ป้ายประกาศจับ สาวกตัวแม่ ของโอมชินริเกียว
แปะมาตั้งแต่ปี 1995 จนถึงทุกวันนี้ หลายคนเชื่อว่า
เหล่าสมาชิกเหล่านี้ ไม่ตาย ก็ออกนอกประเทศไปนานแล้ว
โอม ชินริเกียว เป็นชื่อลัทธิหนึ่งของญี่ปุ่น
ช่วงก่อนปีมิลเลเนียม ลัทธินี้เป็นลัทธิ ที่มีจำนวนของสมาชิกเพิ่มขึ้นไวที่สุด
ประมาณการว่า มีสมาชิกทั่วญี่ปุ่นถึงเกือบหมื่นคน และมีสาขายไปทั่วโลก
รวมกว่า สี่หมื่นคน แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์แก๊ซซารินในปี 1995
จำนวนสมาชิกลดลงเรื่อยๆ และปัจจุบันเหลือไม่ถึงสองหมื่นคน
โอม แปลว่า จักรวาลมาจากภาษา สันสกฤต ส่วน ชินริเกียว แปลว่า ความจริงแท้
รวมกันแปลว่า ความจริงแท้ที่สุด เหล่าสาวกมีความเชื่อในเรื่องของการสิ้นสุดของโลก
และ หมกมุ่นในเรื่องของสงครามโลกครั้งที่สาม
สาเหตุหลักที่โอมชินริเกียว ได้รับความนิยมอย่างบ้าคลั่ง
น่าจะมีส่วนมาจาก นาย อาซาฮาระ โชโกะ ที่ทำการโปรโมตตัวเองสุดฤทธิ์
มีการไปพบผู้นำประเทศ และแคมเปญพบ องค์ดาไล ลามะก็ทำให้ความนิยมของเขาเพิ่มขึ้น
แต่สิ่งที่น่าจะเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของโอม ชินริเกียว หรือ ชื่อใหม่ว่า อะเลฟ
น่าจะมาจาก สมาชิกตัวเป้งหลายๆคนของลัทธินรกนี้
ได้รวบรวมดาวเด่นจากมหาวิทยาลัยชื่อนำของญี่ปุ่น
ระดมกำลังสมองของเหล่าเอลิสต์เหล่านนี้ สรรหาวิธี ล่อลวง
คนญี่ปุ่นมากมาย ที่กำลังสับสนอยู่ในโลกที่มีการแข่งขันสูง
และกำลังโกรธแค้นโลกเป็นทุนเดิม มาเป็นแกนกำลังสำรองของโอม ชินริเกียว
ก่อนที่จะมีการใช้แก๊ส ซาริน
โอมชินริเกียว คิดค้น วิธีทำลายล้างโลกมาก่อนแล้ว
ใน ปี 1993 ได้คิดค้น แก๊ซวีเอ็กส์ ที่มีฤทธิ์ทำลายล้างระดับสูง
รวบถึง รวบรวม จรวดมิสไซล์กว่าร้อยลูก
ความโหดเหี้ยมของ โอม ชินริเกียว ไม่ใช่แค่เพื่อรุกรานคนนอก
แต่ คนใน ที่พยายามจะออกจากลัทธิ ก็โดนไม่ใช่น้อย
อย่างในปีที่เกิดเหตุการณ์รถไฟใต้ดิน
นายคิโยชิ คาริยะ อายุ 69 ปี เป็นพี่ชายของสาวกคนนึง
ที่หนีออกจากลัทธิ เพราะรู้สึกว่า โอมเริ่มทดลองสิ่งรุนแรง และรุกรานเกินรับไหว
พวกเหล่าสมาชิกโกรธแค้นมาก เพราะสาวกคนที่หนีไปอยู่ในระดับสูง
และอีกไม่กี่วัน แกสซาริน ก็จะถูกใช้ในรถไฟใต้ดิน
ทุกคนหวาดกลัวว่า ความลับนี้จะรั่วไหลอยู่สาธารณชน
จึงได้ทำการ ลักพาตัวนายคิโยชิ จากถนนเมืองโตเกียว และส่งไปทรมานอย่างโหดเหี้ยม
ที่บ้านพักของสาวกคนนึง ใกล้ๆภูเขาไฟฟูจิ
พวกโอม ชินริเกียว ทำการโด๊ปยา และใช้รังสีไมโครเวฟฉายเข้าร่างกายคุณลุงผุ้น่าสงสาร
จนได้รับความทรมานจนถึงชีวิต และนำศพไปทิ้งที่แม่น้ำคาวะกุจิ
ก่อนที่คาริยะจะถูกลักพาตัว เขาได้รับโทรศัพท์ข่มขู่
สอบถามเกี่ยวกับน้องสาวของเขาที่หลบหนี
เขารู้กลายๆแล้วว่า จะต้องเกิดเรื่องไม่ดีกับเขาแน่ๆ
เขาเลยทิ้งโน๊ตไว้ว่า
ถ้าเขาหายตัวไป แสดงว่า พวกโอมชินริเกียวนั่นแหละ เป็นคนทำ