ชี้ปลา-กุ้งตายจากเรือน้ำตาลล่มตายผิดปกติ สธ.แนะไม่ควรกิน

 

 

     

 

       ปลัด สธ.เตือนประชาชนควรหลีกเลี่ยงนำปลา กุ้ง หรือสัตว์น้ำที่ตายจากเหตุน้ำเสียจากเรือบรรทุกน้ำตาลล่มมารับประทาน เนื่องจากเป็นการตายผิดปกติ หากจะรับต้องปรุงให้สุกเต็มที่ ส่วนการเฝ้าระวังเชื้ออีโคไล ชนิดโอ 104 สั่งด่านควบคุมโรคสนามบินคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าจากยุโรปให้ลงชื่อที่อยู่ไว้ หากมีอาการส่งแพทย์ทันที
       
       นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จับสัตว์น้ำ เช่น ปลา กุ้ง ทั้งเป็นและตายผลจากน้ำเสียจากเหตุเรือบรรทุกน้ำตาลทรายล่มที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อนำมารับประทานว่า น้ำเสียที่ไหลเข้าสู่กรุงเทพฯ และปริมณฑลครั้งนี้แม้จะไม่มีสารพิษ หรือเชื้อโรค แต่สัตว์น้ำตายผิดปกติ ตายเพราะว่าทนสภาพแวดล้อมไม่ไหว ขาดออกซิเจน โดยหลักการไม่ควรนำมารับประทาน หากประชาชนจะนำมารับประทานเป็นอาหารต้องปรุงให้สุกเต็มที่เท่าที่ทำได้ อย่าปรุงแบบสุกๆ ดิบๆ เด็ดขาด และไม่ควรนำปลาที่จับได้ไปทำหมักเป็นปลาร้า หรือวิธีการใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น แนะนำ ประชาชนควรหลีกเลี่ยงนำสัตว์น้ำที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเสียจากเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำตาลล่มครั้งนี้มารับประทาน
       
       ส่วนด่านอาหารและยาที่ท่าอากาศยานนั้น ปลัดสาธารณสุข กล่าวว่า ไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากไทยนำเข้าผัก ผลไม้ จากประเทศยุโรปน้อยมาก เนื่องจากไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม สามารถผลิตพืชผักบริโภคได้ตลอดปี ส่วนใหญ่จะนำเข้าผัก ผลไม้จากประเทศใกล้เคียง เช่น จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ทั้งนี้ ล่าสุด ไทยยังไม่พบการปนเปื้อนของเชื้ออีโคไล ชนิดโอ 104 ในผักผลไม้ของไทย ซึ่งวิธีการป้องกันการติดเชื้อที่ดีที่สุด คือ การรักษาสุขอนามัยโดยกินร้อน ช้อนกลาง และล้างมือทุกครั้งทั้งก่อนและหลังรับ