ทัพบกไทยโชว์เจ๋ง รถเกราะยูเครน

รถหุ้มเกราะยูเครน

มีล้อยาง ล็อคเป้ายิงเลเซอร์กระสุนจริง ประชิดชายแดนเขมร

Mthainews : ผู้สื่อข่าวเอ็มไทยรายงานจากสนามฝึกบ้านภักดีแผ่นดิน ภายในพื้นที่อ่างเก็บน้ำคลองเกลือ

อ.วัฒนานคร จ.สระแก้วว่า กองทัพบกจัดสาธิตสมรรถนะ รถยานเกราะล้อยาง แบบ 8*8 BTR3E1 ซึ่งเป็น

ยุทโธปกรณ์ใหม่ของกองทัพบกที่เข้าประจำการ

ทั้งนี้ รถยานเกราะล้อยางได้สั่งซื้อจากประเทศยูเครน และมีประจำการในกองทัพหลายๆประเทศ เช่น กอง

ทัพยูเครน กองทัพปากีสถาน กองทัพตุรกี กองทัพเยเมน  และกองทัพเกาหลีใต้ โดยเป็นรถยานเกราะล้อ

ยางแบบสะเทินน้ำสะเทินบก ซึ่งมีภารกิจที่หลากหลาย เช่น การลำเลียงพล การบรรทุกเครื่องยิงลูกระเบิด

การลาดตระเวน การพยาบาลสนาม และการกู้ภัยสงคราม

ขณะเดียวกันก็มีระบบตรวจการค้นหาเป้าหมาย ทั้งกลางวัน และกลางคืน กล้องตรวจการรอบทิศ

ทาง 360 องศา ระบบอาวุธมีอำนาจยิงด้วยระบบอาวุธถึง 5 ระบบ ได้แก่ ปืนใหญ่อัตโนมัติ สามารถ

ยิงได้ 330 นัดต่อนาที ปืนกล สามารถยิงได้ 700-800 นัด ระบบเครื่องยิงลูกระเบิดควัน

จำนวน350-400 นัดต่อนาที เครื่องยิงระเบิดควันเพื่ออำพรางตัวเครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง จำนวน

6 ลำกล้อง สามารถทำฉากควันที่ระยะ 210-350เมตร อีกทั้งหากถึงสถานการณ์จำเป็นในการรบ

กำลังพลในรถยานเกราะยังสามารถทำการรบจากภายในด้วยอาวุธประจำกายผ่านทางช่อง ยิง

โดยรอบของรถยานเกราะ จึงทำให้เป็นยานลำเลียงผล และยานรบในตัวเดียวกัน

นอก จากนี้ สมรรถนะของยานรถยานเกราะล้อยาง มีขนาดความจุถังน้ำมัน 350 ลิตร สามารถปฏิบัติการบน

ถนนในระยะ 850 กิโลเมตร โดยใช้อัตราน้ำมันสิ้นเปลือง 2กิโลเมตรต่อหนึ่งลิตร พร้อมกันนี้ยังสามารถ

เคลื่อนที่ในน้ำโดยเคลื่อนที่ต่อเนื่องจากบนบกโดยไม่ ต้องหยุดเพื่อเตรียมการใดๆ

อย่างไรก็ ตามผู้สื่อข่าวได้รายงานเพิ่มเติมว่า กองทัพบกได้มีการโชว์สมรรถนะรถดังกล่าว โดยการยิงปืนทั้ง

ระบบใส่เป้าหมายเทียมที่ทำเครื่องหมายไว้บนภูเขาด้วยกระสุน จริง ผลจากการสาธิตกระสุนเข้าเป้า100%

ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ที่เป็นกังวลกัน ได้ข้อสรูปโดยใช้เครื่องยนต์ดีเซลแบบMTU ซึ่งจากการทดสอบแล้วรถ

มีความคล่องตัว มีความเร็วที่สูงกว่าในระบบเครื่องยนต์แบบ DEUTZ โดยรถเกราะทั้งหมดจำนวน 12 คัน ที่

นำเข้ามาในล็อตแรก จะประจำการในพื้นที่กองทัพภาคที่1 ฝั่งด้านตะวันออก ซึ่งก็คาดว่าในล็อตที่ 2 อีก 96

คันจะมาถึงเมืองไทยในต้นเดือนมกราคม 2555

 

Mthai news

Credit: http://news.mthai.com/headline-news/116599.html
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...