ขณะที่ปตท.สั่งเร่งรับซื้อจากเพื่อนบ้านเพิ่ม พร้อมนำเข้าแอลเอ็นจี หวังเป็นพลังงานทดแทน
1 มิ.ย.54 รายงาน ข่าวแจ้งว่า นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ได้ออกมาเปิดเผยภายหลังที่ประเทศไทย มีอัตราการใช้ก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เนื่องจากปัญหาภาวะน้ำมันแพง ประชาชนจึงนิยมหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติในรถยนต์แทน นั้น
โดยรองปลัด พลังงานชี้ว่า ในปัจจุบันปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย และโครงการอื่นๆ เช่นในพื้นที่ ไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) มีปริมาณรวมกันเพียง 23ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
และถ้าหากคำนวณจากการใช้ปริมาณก๊าซในปัจจุบัน ที่คิดเป็นประมาณ 4,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือ ประมาณ 1.25 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตต่อปี
ก็จะทำให้ปริมาณสำรองก๊าซในอ่าวไทยใช้ได้ ประมาณ 18 ปีเท่านั้นก็จะหมดลง หรือไม่ก็อาจหมดในอีก 15ปี หากปี 2555 เศรษฐกิจมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น
สำหรับหนทางการรับมือนั้น ทางขณะนี้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้เร่งจัดหาก๊าซทั้งการรับซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านและนำเข้าก๊าซธรรมชาติ เหลว (แอลเอ็นจี) แต่ก็น่าเป็นห่วง เพราะหากยิ่งพึ่งพาก๊าซธรรมชาติสูงขึ้นและราคาปรับตัวสูงขึ้นแล้วจะมีผลทำ ให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงในการพึ่งพาก๊าซมากขึ้นด้วย
ขณะที่จะหวังพึ่งพาโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์นั้น หนทางก็คงจะริบหรี่ เพราะทางรัฐบาลได้สั่งชะลอการก่อสร้างไปแล้วอย่างน้อยอีก 3ปี นายคุรุจิตกล่าว