เมื่อวันที่ 28 พ.ค. เดลี่เมล์รายงานเหตุการณ์เสี่ยงชีวิตของน.ส.มารี วาสต์ลันด์ นักศึกษาชาวอังกฤษ อายุ 27 ปี ที่เข้าไปช่วยหญิงที่กำลังถูกรุมทำร้ายอยู่ข้างถนน โดยปราศจากความช่วยเหลือจากตำรวจในรถสายตรวจที่จอดหันหน้าไปอีกทางห่างไป เพียง 20 เมตร ย่านเซนต์ พอล เมืองบริสตอล แคว้นเซาท์ เวสต์ อิงแลนด์
น.ส.วาสต์ลัน ด์ เล่าว่า กำลังเดินกลับบ้านหลังจากไปเที่ยวงานเทศกาลถนนคนเดินในย่านเซนต์พอล ราว 05.00 น. พบเห็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน วัยประมาณ 20 ต้นๆ ในชุดแบบมีหมวกคลุมศีรษะรุมทำร้ายหญิงที่ล้มอยู่บนพื้น จึงตะโกนขอความช่วยเหลือรถสายตรวจที่จอดอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ จึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปกระชากคนร้ายออกมา โดยหนึ่งในคนร้ายบอกว่า เหยื่อมีหนี้สินติดค้าง ก่อนจะคว้าเอาเงินจากกระเป๋าของเหยื่อแล้ววิ่งหนีหายไป จึงโทร.เรียกตำรวจให้แจ้งสายตรวจในพื้นที่ ผ่านไป 10 นาที เพื่อนของตนจึงเดินทางมาช่วย ระหว่างนั้นตำรวจทั้งสองนายออกมาจากรถแตกลับเข้าไปในรถอีก จึงบอกให้เพื่อนวิ่งไปเรียก แต่เจ้าหน้าที่กลับระบุว่า ไม่เห็นเหตุการณ์ ก่อนจะเข้ามาพาเหยื่อส่งโรงพยาบาล
"บางทีพวกเขาอาจจะหันมาทำร้ายฉันก็ได้ ไม่อยากเชื่อเลยว่าตำรวจก็อยู่ใกล้แค่นี้แต่กลับนิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลย" น.ส.วาสต์ลันด์กล่าว
ด้าน ทางการตำรวจ ระบุว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขอบคุณ น.ส.วาสต์ลันด์ โดยยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพราะถือเป็นสิ่งร้ายแรงมาก