เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมล ของอังกฤษ เปิดเผยรายงานการสำรวจพบว่า ผู้หญิง ส่วนใหญ่ ชอบผู้ชายมาดขรึม มากกว่าผู้ชายดูยิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดี แต่ในทางกลับกัน ผู้ชายชอบผู้หญิงที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดี มากกว่าผู้หญิงที่ดูมั่นใจ ขรึม และเย่อหยิ่ง
จาก การศึกษาของมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย นำทีมโดยศาสตราจารย์เจสสิก้า เทรซี่ ระบุว่า เป็นสิ่งที่รู้กันดีว่า การมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นสิ่งที่ช่วยให้คนเราเข้าสังคมได้ง่ายขึ้น รวมถึงมีแรงดึงดูดต่อเพศตรงข้ามด้วย แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น จากผลการสำรวจกลับพบว่า ผู้ชายและผู้หญิงมีการโต้ตอบต่อการแสดงอารมณ์ของเพศตรงข้าม ที่แตกต่างกันไป โดยผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบผู้ชายมาดขรึม มากกว่าผู้ชายดูยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ผู้ชายส่วนใหญ่กลับชอบผู้หญิงที่ยิ้มแย้มแจ่มใส มากกว่าผู้หญิงขรึมเสียอีก
สำหรับการวิจัยในครั้งนี้ ทีมวิจัยได้ให้อาสาสมัครกว่า 1,000 คน ดูรูปของเพศตรงข้ามที่มีทั้งรูปคนที่กำลังยิ้มกว้าง คนที่ยืดอกด้วยความภาคภูมิใจ และคนที่มีท่าทีดูขรึม ซึ่งผลปรากฎออกมาว่า อาสาสมัครเพศหญิงจะเลือกรูปผู้ชายที่มีท่าทีขรึม และมีน้อยคนที่เลือกรูปผู้ชายที่ยิ้มแย้ม แต่ในขณะเดียวกัน อาสาสมัครเพศชายกลับเลือกรูปผู้หญิงที่ยิ้มแย้ม และแทบไม่มีผู้ชายคนไหนที่เลือกรูปผู้หญิงที่ดูเย่อหยิ่ง เคร่งขรึมเลย
อย่างไรก็ดี ทีมวิจัยได้กล่าวว่า การวิจัยครั้งนี้ศึกษาเรื่องปฎิกิริยา และความประทับใจแรกพบที่มีต่อรูปลักษณ์ของเพศตรงข้ามเท่านั้น ไม่ได้ให้อาสาสมัครมองหากลุ่มเป้าหมายที่จะมาเป็นแฟน หรือ สามี ภรรยาในอนาคตเลย
ทั้ง นี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีผลการศึกษาที่พบว่า คนที่ดูอารมณ์ดีและบุคลิกที่ดี จะเป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับเพศตรงข้าม ซึ่งขัดแย้งกับงานวิจัยชิ้นนี้ แต่ทีมวิจัยก็ได้ชี้แจงว่า ผลการศึกษาอื่น ๆ ก็ได้แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่จะดึงดูดเพศตรงข้ามได้เ ปลี่ยนไปตามทฤษฏีการเปลี่ยนแปลง แรงบีบบังคับทางสังคม ยกตัวอย่างทฤษฏีการเปลี่ยนแปลงที่ได้บอกไว้ว่า ผู้หญิงรู้สึกชื่นชอบผู้ชายที่ดูทะนงตนเพราะพวกเขาจะดูลึกลับ และดูมีความสามารถที่จะหาคนรักและทายาทของเขา ได้ง่ายกว่าผู้ชายที่ดูใสซื่อทั่วไปนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชายประเภทนี้ยังมีความดึงดูดทางร่างกาย เช่น ช่วงหน้าอกและกล้ามเนื้อที่ดูมีความเป็นผู้ชาย
นอกจากนี้ นักวิจัยยังกล่าวอีกว่า งานวิจัยนี้ได้ศึกษาเพื่อให้เข้าใจรสนิยมทางเพศ ของชายหญิงในปัจจุบันนี้ ซึ่งอาจแตกต่างจากอดีต และอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละสังคมด้วย โดยสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ อาจอธิบายได้ว่ามันเป็นหลักการของการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิทยา บรรทัดฐานเรื่องเพศ และสภาพทางสังคมและวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงไป และที่สำคัญ มันยังแสดงให้เห็นว่า รสนิยมทางเพศของชายหญิงก็เป็นสิ่งที่ไม่ตายตัว มีเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ ตั้งแต่อดีต และมันก็ยังคงเปลี่ยนแปลงต่อไปตามยุคสมัย และสภาพสังคมในอนาคตอย่างแน่นอน