วันนี้ (28 พ.ค.) สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทางการญี่ปุ่นตรวจพบสารกัมมันตรังสีในปริมาณสูงกว่าระดับปกติหลายร้อยเท่าใน บริเวณก้นทะเลนอกชายฝั่งของจังหวัดฟูกูชิมะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิชิ ต้นตอของวิกฤตนิวเคลียร์ โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์แถลงเมื่อคืนวันศุกร์ว่า พบสารกัมมันตรังสีเป็นระยะทางราว 300 กิโลเมตร ตั้งแต่เหนือจดใต้จากเขตเคเซนนูมะในจังหวัดมิยางิ ไปจนถึงเขตโชชิในจังหวัดชิบะ ทำให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ออกคำเตือนว่า การปนเปื้อนกัมมันตรังสี อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของอาหารทะเล แต่กระทรวงฯ ไม่ได้ระบุปริมาณรังสีที่ตรวจพบ
อย่าง ไรก็ตาม กระทรวงวิทยาศาสตร์แจ้งว่า ระหว่างวันที่ 9 -14 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตรวจพบสารไอโอดีนและซีเซียม บริเวณก้นทะเลในจุดต่างๆ ถึง 12 แห่ง ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งในระยะทางตั้งแต่ 15 ถึง 50 กิโลเมตร ขณะเดียวกัน ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ(ไอเออีเอ)กล่าวว่า คณะผู้เชี่ยวชาญต่างชาติจำนวน 18 คนจาก 12 ประเทศ เดินทางเยือนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่งในญี่ปุ่น ก่อนเข้าตรวจสอบความเสียหายของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ