การสังหารหมู่นานกิง หรือรู้จักกันในนาม "การข่มขืนที่นานกิง"
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากการที่ทหารกองทัพจักพรรดิญี่ปุ่นเข้าบุกยึดเมืองนานกิงไว้ได้ในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2480
เป็นส่วนหนึ่งในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง และต่อมาคือส่วนหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่สอง
ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทหารกองทัพจักรพรรดิญี่ปุ่นได้ทำการทารุณกรรมแก่ เชลยสงคราม สังหารพลเรือน
โดยการทารุณกรรมต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ "การข่มขืน" ผู้หญิงพลเรือน ซึ่งเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก
หลังจากที่กองทัพญี่ปุ่นบุกนานกิง
หลังจากที่กองทัพญี่ปุ่นบุกเข้านานกิงได้เรียบร้อยแล้ว ก็ทำการเข้าปลดอาวุธทหารจีนที่ยอมแพ้และยอมตกเป็นเชลย
โดยมีคำสั่งต่อทหารญี่ปุ่นว่าให้กำจัดคนจีนและเชลยทุกคนที่จับได้ และจากที่ประชุมตกลงว่า จะทำการแบ่งเชลยออกเป็นจำนวนเท่าๆกัน
และจะถูกนำออกมาจากที่คุมขังเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 50 คน เพื่อนำไปประหาร ใช้ทหารกองร้อยที่ 1, 2 และ 5 โดยกองร้อยที่ 1
ใช้พื้นที่บริเวณนาข้าว และบริเวณพื้นที่ลุ่มทางตะวันตกเฉียงใต้ของกองร้อยที่ 2 และกองร้อยที่ 5
ใช้พื้นที่บริเวณนาข้าวทางตะวันออกเฉียงใต้ของที่ตั้งกอง
คำสั่งนั้นเป็นไปอย่างเป็นเหตุเป็นผลและเหี้ยมโหดโดยปราศจากเมตตาเพราะไม่สามารถหาอาหารให้เชลยทั้งหมดได้
โดยสามารถช่วยขจัดปัญหาเรื่องอาหาร และลดการตอบโต้ได้
ญี่ปุ่นใช้วิธีการหลอกลวงเชลยเพื่อนำไปประหารหลายวิธีด้วยกัน เช่น ให้สัญญาว่าจะปฏิบัติอย่างดีหากไม่ต่อต้าน หลอกให้เข้ามอบตัว
แบ่งผู้ชายออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละร้อยหรือสองร้อย แล้วหลอกไปยังจุดต่างๆที่นอกตัวเมืองเพื่อฆ่าทิ้ง
ทั้ง หมดนี้ได้รับการปฏิบัติอย่างง่ายดายกว่าที่ฝ่ายญี่ปุ่นคาด การต่อต้านมีเพียงบางจุด เพราะทหารจีนส่วนใหญ่ทิ้งอาวุธและทิ้งเมืองไปก่อนแล้ว
การทารุณกรรม
ทหาร ญี่ปุ่นทำการทารุณกับชาวนานกิงเกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจได้เช่น ฝังทั้งเป็น โดยจะขุดหลุม และฝังเชลยให้โผล่ขึ้นมาแค่เพียงหน้าอกหรือแค่คอ
เพื่อจะได้รับทุกข์ทรมานต่างอีกหลายอย่าง เช่น ฉีกเป็นชิ้นๆ ทหารญี่ปุ่นคว้านตับไตไส้พุง ตัดหัวหรือสับเหยื่อเป็นชิ้นๆ
ตอกเชลยไว้กับแผ่นไม้แล้วให้รถถังแล่นทับ ใช้เป็นที่ซ้อมเสียบดาบปลายปืน ควักลูกตา หั่นจมูกและใบหูก่อนเผาทั้งเป็น
การสังหารพลเรือน
หลังทหารจีนทั้งหมดยอมแพ้ ก็เท่ากับไม่เหลือใครที่จะปกป้องพลเรือนในตัวเมือง ทหารญี่ปุ่นหลั่งไหลเข้ามา ยึดอาคารที่ทำการรัฐบาล
ธนาคาร และโรงเก็บสินค้า ยิงผู้คนตามท้องถนนอย่างไม่เลือกหน้า โดยใช้ทั้งปืนพก ปืนกล ปืนเล็กยาว ยิงเข้าไปในฝูงคนที่มีทั้งทหารที่บาดเจ็บ
หญิงชรา และเด็กๆ โดยทหารญี่ปุ่นฆ่าพลเรือนทุกมุมเมือง ไม่ว่าจะตามตรอกเล็กๆ
หรือถนนสายใหญ่ ในสนามเพลาะ หรือแม้แต่ในอาคารที่ทำการรัฐบาล
การข่มขืน
ป็น ที่กล่าวขวัญอย่างมาก ไม่ว่าจะสาวหรือแก่ ทหารญี่ปุ่นข่มขืนชนิด ไม่เลือกหน้า ไล่ตั้งแต่ชาวนา เด็กนักเรียน ครู พนักงานระดับบริหาร
คนงาน อาจารย์มหาวิทยาลัย หรือแม้กระทั่งแม่ชี ต่างก็เลี่ยงไม่พ้นการถูกข่มขืนทั้งสิ้น
โดยผู้หญิงคนหนึ่งจะตกไปอยู่ในมือของทหารประมาณ 15 ถึง 20 คน บางคนในจำนวนนี้ถูกเรียงคิวจนถึงแก่ความตาย
แต่กฎของกองทัพที่ว่าห้ามข่มขืนผู้หญิงของฝ่ายตรงกันข้ามนั้น ทำให้ทหารสังหารเหยื่อเสียเมื่อเสร็จธุระ
พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ได้กระทำกันเฉพาะในหมู่พลทหาร แม้ระดับนายทหารก็ไม่เว้น บางคนไม่เพียงสนับสนุนการข่มเหง
แต่ยังเตือนให้พลทหารจัดการเหยื่อเมื่อเสร็จธุระเพื่อกำจัดหลักฐาน
หญิงในนานกิงถูกข่มขืนชนิดไม่เลือกที่และไม่เลือกเวลา ประมาณว่าหนึ่งในสามของการข่มขืนทั้งหมดเกิดขึ้นตอนกลางวันแสกๆ
และไม่มีสถานที่แห่งใดปลอดจากการข่มขืน เช่น ในเรือนแม่ชี ในโบสถ์ แม้แต่ในโรงเรียน
นอก จากนั้นคนเฒ่าคนแก่ยังไม่สามารถใช้ความชราเป็นเกราะคุ้มกันการข่มขืนได้ ผู้เฒ่าต่างต้องเผชิญทารุณกรรมทางเพศอย่างถ้วนหน้าและซ้ำซาก
ย่ายายวัยแปดสิบจำนวนมากถูกข่มขืนจนตายคาที่ และอย่างน้อยก็ถูกยิงตายเพราะปฏิเสธการถูกข่มขืน
แม้ผู้หญิงที่ท้องได้หลายเดือนก็ไม่ได้หมายความว่าจะรอดพ้น
ทหารญี่ปุ่นหลายรายข่มขืนผู้หญิงหลายรายทั้งที่เห็นชัดว่าใกล้คลอดหรือเพิ่งคลอดได้หมาดๆ ซ้ำร้ายกว่านั้นหลังจากข่มขืนเสร็จแล้ว
ก็คว้านท้องของผู้หญิงท้องที่ถูกข่มขืน แล้วเขี่ยลูกอ่อนออกมาดูเล่นแล้วโยนขึ้นฟ้าเอาดาบปลายปืนเสียบ
สาเหตุหนึ่งที่ทหารญี่ปุ่นทำอย่างนี้กับเชลย เพราะว่ากองทัพญี่ปุ่นล้อมเมืองนานกิงอยู่นานกว่าจะตีแตกสำเร็จ
ทำให้ทหารญี่ปุ่นโกรธแค้นเป็นอย่างมาก + ความบ้าตัณหาจัดของทหารญี่ปุ่นซึ่งไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงมาเป็นเวลา
นี่คือหนึ่งในสาเหตุที่มีหอนางโลมของญี่ปุ่นในกองทัพของญี่ปุ่น
สิ่งเหล่านี้คือส่วนเล็กๆน้อยๆที่เชลยที่นานกิงได้รับจากทหารญี่ปุ่น
นักโทษจะถูกตัดแขน ตัดขา แล้วปล่อยให้เลือดไหลจนหมดตัว เพื่อดูว่าร่างกายจะเป็นเป็นอย่างไร ทนได้แค่ไหน
ตัดแยกชิ้นส่วนอวัยวะออกมา แล้วนำไปติดในส่วนอื่น ๆ เช่น สลับแขนซ้ายกับขวา สลับมือกับเท้า
นำเชลยมาแช่แข็ง เพื่อศึกษาเรื่องเนื้อตายจากความเย็น
ฉีดเชื้อโรคเข้าไปในร่างกาย แล้วเพาะเอาเชื้อเพื่อทดลองหาวัคซีนแก้
นำนักโทษมาให้สัตว์ดูดเลือด เช่น เห็บ หมัด จำนวนมากกัด เพื่อดูผลจะนำไปสร้างอาวุธเชื้อโรค
จับเชลยมาห้อยหัวจนกว่าจะตาย
ฉีดอากาศเข้าไปในเส้นเลือดจนกว่าจะตาย
นำปัสสาวะม้าฉีดเข้าไปในตับนักโทษ
ฉีดเลือดสัตว์เข้าไปในร่างกายเพื่อดูผล
จับมาหมุนและเหวี่ยงจนกว่าจะตาย
Thanks : Oknation.net