เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553, 10:28:12

ดูจากโฆษณาหนังในหนังสือพิมพ์สมัยก่อน จะเห็นได้ว่า
ผู้ลงโฆษณาจะไม่ใช่เจ้าของค่ายหนังเหมือนสมัยนี้ แต่จะเป็นทางโรงหนังเอง
เพราะโรงนึงเขาฉายแค่เรื่องเดียว ยกเว้นบางโรงทุนน้อยๆ หรืออยู่ในเครือเดียวกัน
ก็จะหารกันโฆษณาไป เมื่อก่อนก่อนจะไปดูหนังเนี่ย
การตรวจสอบโรงและรอบเป็นเรื่องสำคัญมากๆ



ข่าวเก่าหาดูยากตั้งแต่ปี 2518 ผู้ใหญ่ท่านนึงออกมาประนามหนังไทยว่ามีเลิฟซีนมากเกินไป
เราก็ได้เห็นความเป็นจริงอยู่สามอย่าง
1 ผู้สร้างหนังไทย นึกจะใส่อะไรลงไปในหนังก็ยัดเข้าไปมานานละ
2 คนออกมาด่า ก็เป็นคนที่ไม่รู้เรื่องหนัง ใช้แต่คำว่าความเหมาะสม
แต่ไม่ได้พูดถึงการพัฒนาหนังไทยและการจัดเรทที่มีมาตรฐานเหมือนต่างประเทศ





แสนศักดิ์เสียแชมป์โลกให้นักชกเกาหลี คิม ซาง ฮุน เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2521
จากนั้นก็ขึ้นชกอีก 5 ครั้งก่อนที่จะแขวนนวม ไฟต์แห่งความทรงจำไฟต์หนึ่งคือ
การแพ้น็อก เดอะฮิตแมน โธมัส เฮิร์นส์ ยก 3 ที่สหรัฐอเมริกา







เมื่อหลายสิบปีก่อน...นวนิยายผจญภัยสุดอลังการเรื่อง "เพชรพระอุมา"
ถูกนายทุนกลุ่มหนึ่งนำมาปู้ยี่ปู้ยำบนแผ่นฟิล์ม พระเอกที่ติดต่อไว้ก็ไม่ยอมมาเล่น...
นายทุนคนออกเงินต้องถ่อสังขารลงมาเล่นเป็นพระเอกแทน นางเอกสาวผู้สวยเริ่ดเชิดหยิ่ง
กลายเป็นตัวตลกในหมู่ลูกหาบ บทภาพยนตร์ก็หดสั้นจุ๊ดจู๋จนเสื่อมเสียไปถึงวรรณกรรมต้นฉบับ
แฟนๆเพชรพระอุมาหลายคน...ถอดใจไม่เคยคาดหวังจะได้เห็นวรรณกรรมอมตะเรื่องนี้
ออกมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มอีกแล้ว เก็บรพินทร์ ไพรวัลย์, คุณหญิงหมอดาริน
และแงซายเป็นตัวละครในความทรงจำ

แต่....อีกไม่กี่ปีนับจากนี้ไป แฟนๆเพชรพระอุมาทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่
เตรียมรอเห็นนายพรานหน้าเป็นตูดออล เดอะ ไทม์, คุณหญิงหมอขี้วีน
และเจ้ากะเหรี่ยงพเนจรจอมยียวน ในแบบฉบับมีชีวิตโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มได้แล้ว

เพราะท่านมุ้ย หนึ่งในแฟนพันธุ์แท้ของวรรณกรรมเรื่องนี้...
กำลังจะให้กำเนิดคณะเดินทางตามหาคนหายกลุ่มนี้ ลงบนแผ่นฟิล์มต่อจาก
"ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช"
จากการคัดเลือกตัวนักแสดงในบทต่างๆมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
ท่านมุ้ยที่ใช้นามแผงในบอร์ดพันธ์ทิพย์ห้องเพชรพระอุมาว่า
"Cinephile" ซึ่งแปลว่า "คนบ้าหนัง"
ได้เข้ามาสอบถามแฟนๆเพชรฯในห้องอยู่เป็นระยะ



กระเทยสมัยก่อน







การประกวดนางสาวไทย จัดครั้งแรกในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2477
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 โดยใช้ชื่อว่า "นางสาวสยาม"
รัฐบาลได้จัดขึ้นในงานเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญ ภายในพระราชอุทยานสราญรมย์
ซึ่งเป็นสโมสรคณะราษฎร์ ในปี พ.ศ. 2477 เป็นการเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญเป็นปีที่สอง
แต่เริ่มจัดการประกวดนางสาวสยามเป็นปีแรก กำหนดระยะเวลาจัดงาน 5 วัน
คือวันที่ 8 - 12 ธันวาคม พ.ศ. 2477 ในคืนวันที่ 8 ธันวาคม เป็นการคัดเลือก
นางสาวธนบุรี คืนวันที่ 9 ธันวาคม เป็นคัดเลือก นางสาวพระนคร และคืน
วันที่ 10 - 12 ธันวาคม เป็นการประกวด นางสาวสยาม





จารุณี สุขสวัสดิ์ (เกิด 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505) เรียนระดับอนุบาลที่
ร.ร. ทองสุโชติ ต่อระดับประถม ป.1- ป.6 ที่ร.ร.ธรรมศิริศึกษา อ.สัตหีบ จ. ชลบุรี
จากนั้นก็ย้ายมาเรียน ป.7 ที่ ร.ร. พิบูลย์อุปถัมภ์ในกรุงเทพฯ และจบมัธยมศึกษาปีที่ 3
ที่ ร.ร. บางกะปิ เข้าศึกษาต่อจนจบ ปวช. ที่โรงเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี

 
เริ่มแสดงภาพยนตร์เรื่อง "สวัสดีคุณครู" เป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 14 ปี
และเป็นนางเอกเต็มตัวในเรื่องที่สอง "รักแล้วรอหน่อย" คู่กับ สรพงศ์ ชาตรี
ภาพยนตร์เรื่อง "บ้านทรายทอง" (2523 )เป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
ทำรายได้มากถึง 7 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามหาศาลในสมัยนั้น และทำให้ชื่อจารุณี สุขสวัสดิ์
เป็นผู้ทรงอิทธิพลต่อวงการภาพยนตร์ไทยในช่วงปี 2524-2526

จารุณี สุขสวัสดิ์ มีงานหลั่งไหลเข้ามามากมาย จนได้ฉายาว่า "นางเอกคิวทอง"
แสดงได้ทุกบทบาททั้งบทชีวิต บู๊ แก่น บทตลก และได้รับความนิยมอย่างสูง
 มีแฟน ๆ เป็นจำนวนมากจนถึงขนาดมีการก่อตั้ง "ชมรมสุขสวัสดิ์" ขึ้นมา
เพื่อเผยแพร่ข่าวสารกันในกลุ่มของผู้ที่นิยมชมชอบเธอในยุคนั้น

ต่อมาจารุณี สุขสวัสดิ์ เข้าสู่วงการละคร มีผลงานละครอีกมากมาย เช่น ตะรุเตา
คือหัตถาครองพิภพ ไฟลวง รังหนาว มีผลงานเพลงสองชุด และงานบันเทิงด้านต่าง ๆ
เช่น พิธีกร ละครเวที

ถึงวันนี้ จารุณี สุขสวัสดิ์ เดินบนเส้นทางสายบันเทิงนี้มาเป็นเวลานานถึง 30 ปี
ชีวิตของเธอผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ มากมาย เป็นนางเอกผู้เป็นที่รักของประชาชน
ที่ยืนหยัดอยู่ในวงการได้อย่างสง่างาม



เครดิต: ไม่พบสมาชิก ID:182!