หดหู่ใจ! แม่ชาวอินเดียมีเปอร์เซ็นต์ทำแท้งทารกในครรภ์สูง หากตรวจพบว่าเป็นทารกเพศหญิง โดยเฉพาะหากเป็นลูกผู้หญิงคนที่สองของครอบครัว
ประเทศอินเดียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่สังคมให้ผู้ชายเป็นใหญ่ และในวัฒนธรรมการแต่งงานครอบครัวฝ่ายหญิงต้องเป็นฝ่ายจ่ายค่าสินสอดให้กับฝ่ายชาย ดังนั้นจึงทำให้พ่อ-แม่ที่กำลังจะมีลูกต้องการมีลูกเป็นผู้ชาย แต่หลายครั้งที่ลูกออกมาเป็นผู้หญิง ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการจึงมีหลายครั้งที่เห็นข่าวเด็กหญิงถูกฆ่า และหากรู้ว่าในครรภ์เป็นผู้หญิง แม่ก็จะทำแท้ง และตั้งครรภ์ใหม่เพื่อให้ได้ลูกชาย
ทั้งนี้ จากการสำรวจของ "แลนเซ็ต" ซึ่งเป็นวารสารด้านยารักษาโรค ชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงที่น่าเศร้าใจว่า เปอร์เซ็นต์การทำแท้งทารกหญิงสูงขึ้น แม้ว่าในสังคมปัจจุบันผู้หญิงอินเดีย หรือเพศแม่มีการศึกษาและความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้วก็ตาม ผลการสำรวจนี้ยังชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวในการออกกฎหมายบังคับห้ามหญิงตั้งครรภ์ตรวจเพศของลูกก่อนคลอดอีกด้วยด้วย โดยในระหว่างช่วงปี 2523-2553 คาดว่ามีจำนวนทารกหญิงที่โดนทำแท้งราว 4-12 ล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งทางการเองก็รับรู้ถึงความล้มเหลวในต่อความพยายามในการรักษาอัตราส่วนประชากรชายต่อหญิงไม่ให้ห่างขึ้นมากกว่าเดิม
จากข้อมูลดิบของกรมสถิติประชากรของอินเดีย ซึ่งสำรวจเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีอัตราส่วนเด็กหญิงต่อเด็กชาย 1000 คน อยู่ที่ 914 คน ซึ่งเป็นที่น่าตกใจทั้งที่การสำรวจเมื่อ 10 ปีก่อนหน้าอัตราส่วนอยู่ที่ 927 คน และอีกการสำรวจหนึ่งซึ่งยึดตามการเกิดจากทารก 250,000 คน พบว่าครอบครัวที่จะเป็นตัวแปรสำคัญที่สุดต่อสัดส่วนเด็กหญิงและชายนี้ คือครอบครัวที่มีลูกสาวอยู่แล้ว
นอกจากนี้ การสำรวจจำนวนประชากรที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี โดยคำนวณอัตราส่วนของเด็กหญิงต่อเด็กชาย 1000 คน อยู่ในปี 2533 อยู่ที่ 906 คน และในปี 2548 ก็ลดลงอีกจนอยู่ที่ 836 คน เป็นที่น่าสังเกตว่าอัตราส่วนที่ลดลงของจำนวนเด็กหญิงนี้ ยิ่งพบมากในครอบครัวที่ผู้เป็นแม่มีความเป็นอยู่และมีการศึกษาดีกว่าเดิม เปรียบเทียบกับครอบครัวที่แม่ยังมีฐานะยากจนและไม่ได้รับการศึกษา ชี้ให้เห็นว่าการศึกษาและฐานะที่ดีขึ้น ทำให้ผู้เป็นแม่มีโอกาสเข้าถึงการทำแท้งเถื่อนได้ง่ายขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังพบอีกว่าในครอบครัวที่มีลูกคนแรกเป็นลูกชายอยู่แล้ว แทบไม่มีผลกระทบต่อสัดส่วนที่น้อยลงของเด็กหญิงนี้เลย ชี้ให้เห็นว่าลำดับการเกิดของเด็กหญิงและชายส่งผลกระทบต่อสถิติการทำแท้งทารกหญิงด้วย
อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาอัตราส่วนระหว่างการเกิดของทารกหญิงและชาย ซึ่งสำรวจและสรุปไว้ใน "เวิลด์ แฟ็คท์บุ๊ค" โดยหน่วยสืบราชการลับกลางแห่งสหรัฐอเมริกา หรือซีไอเอ(CIA) พบว่าอัตราส่วนการเกิดของเด็กหญิงต่อเด็กชาย 1000 คนในอเมริกา อยู่ที่ 955 คน และจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีค่านิยมลูกชายมากกว่าลูกสาวอย่างเห็นได้ชัด อยู่ที่ 885 คน ส่วนอินเดียถูกสรุปตัวเลขไว้ที่ 893 คน ซึ่งตัวเลขนี้ไม่ตรงกับตัวเลขที่ทางอินเดียได้จัดทำขึ้น เนื่องจากอินเดียสำรวจจากเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี ส่วนข้อมูลของทางอมริการสำรวจจากการเกิดของเด็กทารกนั่นเอง
อย่างไรก็ตามข้อมูลจากทั้งสองแหล่งชี้ให้เห็นว่าอินเดียยังคงประสบปัญหาสังคมนิยมเพศอยู่ โดยสะท้อนออกมาอย่างเห็นได้ชัดจากสัดส่วนเด็กหญิงต่อเด็กชาย ไม่ว่าจะมาจากการสำรวจจากเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี หรือ สำรวจจากทารกแรกคลอดก็ตาม