ปราบเจ้าชู้ให้อยู่มือ ผู้ชายเจ้าชู้เป็นอย่างไร
ตอบยากอยู่เหมือนกันเพราะเป็นความรู้สึกที่มีต่อการกระทำ ถ้าถามผู้หญิง แค่ฝ่ายชายชายตามองหญิงอื่นต่อหน้าต่อตา อาจถือว่าเข้าข่าย ส่วนผู้ชายอาจจะเถียงว่าของสวยใครก็อยากมอง แค่มองไม่คิดอะไร ไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยจะเรียกว่าเจ้าชู้ได้อย่างไร
ความเจ้าชู้นั้นมีลีลาและระดับที่ต่างกันไป อาจมีตั้งแต่แค่ชอบมอง ไม่มีเกินเลยไปกว่านั้น หรือมองด้วยสายตาเจ้าชู้ ไม่เกรงใจใคร แต่ไม่มีอะไรเช่นกัน
บางคนออกแนวสุภาพ ชอบดูแลเอาใจใส่สาวๆ ทำตัวน่าอบอุ่นให้สาวแอบไปฝันถึงด้วยความประทับใจ
อีกระดับชอบจีบสาว พาไปกินข้าว ดูหนังบ้าง แต่ไม่มีเรื่องอย่างอื่น
อีกประเภทไม่ใช่แค่ควงกันไปไหนต่อไหน แต่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันด้วย ถึงขั้นนี้ภรรยาส่วนใหญ่คงทำใจให้ยอมรับได้ยาก ยิ่งประเภทชอบเที่ยว มีความสัมพันธ์ไม่เลือก ยิ่งกระทบความสัมพันธ์ในชีวิตคู่
ส่วนประเภทสุดท้ายเป็นแบบจริงจัง มีภรรยาหลายคน เลี้ยงดูทุกคน ลูกสามภรรยาก็สามคนด้วย ไม่ใช่ลูกสามภรรยาหนึ่ง
สำหรับผู้หญิงเรื่องเจ้าชู้เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยากที่สุด ให้เปรียบเทียบระหว่างสามีเจ้าชู้กับสามีดื่มเหล้า ส่วนมากขอเลือกสามีดื่มเหล้าดีกว่า เมาเหล้าแล้วกลับบ้าน ดีกว่าพวกเมาดิบไปกับสาวๆ
ยกเว้นผู้หญิงบางคนที่ประกาศตัวว่าชอบผู้ชายเจ้าชู้ เพราะคิดว่าผู้ชายเจ้าชู้มีเสน่ห์ ชอบเอาอกเอาใจ โรแมนติก รู้วิถีเอาใจสาว บอกรักได้ไม่มีเบื่อ ผู้หญิงที่อยู่ด้วยจึงรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ เป็นคนที่เขารักมากที่สุด แม้เขาจะมีคนอื่นก็ช่าง ขอให้เราเป็นที่หนึ่งแล้วกัน
ส่วนมากความเจ้าชู้ของผู้ชายนั้นมีมาตั้งแต่ก่อนแต่งงาน แต่เพราะความรัก คิดว่าเขารักเราเป็นคนสุดท้าย เขาจะเปลี่ยนแปลงตนเองหลังแต่งงาน หรือตอนยังไม่แต่งคิดว่าเรื่องเจ้าชู้แค่นี้ทนได้ แต่งงานไปแล้วผู้ชายเจ้าชู้อาจจะหยุดตัวเอง ยอมเป็นเสือถอดเขี้ยวเล็บ
แต่อันที่จริงการแต่งงานไม่ได้เปลี่ยนแปลงความรู้สึกรับผิดชอบ ความเจ้าชู้ยังคงดำเนินต่อไป แม้ผู้ชายเจ้าชู้จำนวนมากรักภรรยา ไม่อยากเสียชีวิตครอบครัว แต่อานุภาพของความตื่นเต้นเร้าใจ การได้เจอสิ่งใหม่ๆ ได้รู้สึกว่าตนเองมีเสน่ห์ ยังเป็นที่ต้องการของสาวๆ ทำให้ไม่สามารถหยุดตัวเองได้อยู่ดี