วอนช่วยหญิงป่วยโรคอ้วนน้ำหนัก300 กิโลกรัม

นั่งนอนอยู่กับที่ครอบครัวลำบาก

 ข่าว สันติภาพ รามสูต สงขลา / วอนช่วยหญิงป่วยโรคอ้วนน้ำหนัก300 กิโลกรัมนั่งนอนอยู่กับที่ครอบครัวลำบากอาศัยข้าวก้นบาตรพระประทังชีวิต ลูกสาวคนเดียวต้องออกจากโรงเรียนเก็บของเก่าขายหาเลี้ยงครอบครัวรวม5 ชีวิต วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวรักษาโรงพยาบาลศิริราช

      นางพิกุล รัตนพงษ์ อายุ40 ปีหรือพี่หญิงอดีตเจ้าของร้านเสริมสวย ป่วยด้วยโรคอ้วนน้ำหนักตัวกว่า300 กก.จากอาการผิดปกติของต่อมไร้ท่อทำให้ตัวบวม และขณะนี้ต้องทนทุกข์ทรมานเนื่องจากต้องนั่งนอนอยู่บนเตียงภายในบ้านพักเลขที่58 ม.2 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เนื่องจากไม่สามารถลุกเดินได้จากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น และอาการเริ่มทรุดหนักนอนไม่ได้เพราะจะหายใจไม่ออกต้องนั่งหลับเพียงอย่างเดียวและร่างกายเริ่มแย่ลงเพราะอดหลับอดนอน รวมทั้งทานอาหารได้น้อยเพราะจะมีอาการปวดท้อง ขณะที่บริเวณหน้าท้องซึ่งบวมใหญ่เริ่มมีน้ำออกจากผิวหนังที่ตึงและปริออกมา และต้องการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยด่วนเพราะจากอาการที่ทรุดหนักไม่สามารถรอเตียงคนไข้ของโรงพยาบาลตามที่แพทย์นัดไว้ได้

      นางพิกุล กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นกว่า300 กิโลกรัม เนื่องจากขณะที่เปิดร้านเสริมสวนเมื่อหลายปีก่อนได้ทานยาแก้ปวดและยาคลายกล้ามเนื้อที่มีสารสเตียรอยด์บ่อย กระทั่ง3 ปีที่ผ่านมาร่างกายเริ่มผิดปกติตัวบวมและเริ่มอ้วนขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อไปหาหมอก็ทราบว่ามาจากสารสเตียรอยด์ที่สะสมในร่างกายเป็นจำนวนมาก ทำให้มีอาการต่อมไร้ท่อผิดปกติน้ำหนักตัวจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยน้ำหนักตัวเมื่อ3 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่120 กก.แต่ขณะนี้เพิ่มขึ้นกว่า300 กก.และไม่สามารถเดินได้และเริ่มทรุดหนัก และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรอคิวจากโรงพยาบาลเพื่อเข้ารักษาเพราะเตียงไม่ว่างแต่สภาพร่างกายขณะนี้หนักมากไม่สามารถรอได้จึงอยากเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยด่วน

      ที่สำคัญขณะนี้ครอบครัวค่อนข้างลำบากมีลูกสาว คือ นางสาวจิรนันท์ รัตนพงษ์ อายุ20 ปี เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียวโดยออกเก็บของเก่าขายมีรายได้วันละ100-200 บาท และต้องออกจากโรงเรียนขณะที่เรียนได้แค่ชั้นม.3 และต้องมาเรียน กศน. ซึ่งรายได้แต่ละวันแทบไม่พอกินเพราะในครอบครัวมี5 ชีวิตที่ต้องเลี้ยงดูทั้งตนลูกสาว หลานสะใภ้และลูกของหลานสะใภ้อีก2 คน ทุกๆวันจะอาศัยออกไปรับข้าวก้นบาตรพระจากที่วัดต้นพะยอม ในต.ปาดังเบซาร์ ออกมากินประทังชีวิต เนื่องจากพ่อคือพระภิกษุทวี ราชรักษ์ บวชอยู่จึงมีกินทุกวัน

      ด้าน นางสาวจีรนันท์ กล่าวว่า อยากพาแม่ขึ้นไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬา ฯหรือโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งรักษาโรคอ้วนโดยตรงเหมือนอย่างที่เคยเป็นข่าวเช่นกรณีปิ๊ก น้ำหวาน เพื่อให้แม่ได้หายจากความทรมานโดยเร็วหรือในเบื้องต้นก็ขอให้ทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์รีบรับตัวเข้ารักษาโดยเร็วเพราะขณะนี้อาการของแม่เริ่มทรุดหนักหายใจไม่ออกต้องนั่งหลับอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่ได้เนื่องจากมีค่าออกซิเจนแค่65 จากคนปกติซึ่งอยู่ที่95-100

      ด้านพระภิกษุทวี กล่าวว่า ตนรู้สึกสงสารลูกสาวมากที่เห็นลูกสาวอยู่ในสภาพแบบนี้ก่อนหน้านี้ได้พยายามพาไปหาหมอแต่ก็ไม่ดีขึ้นตัวบวมและอ้วนอย่างต่อเนื่อง แต่ยังโชคดีที่มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาดังเบซาร์มาตรวจสุขภาพให้ที่บ้านอย่างต่อเนื่องพร้อมกับนำเตียงคนไข้มาให้จึงไม่มีอาการแผลกดทับ แต่หากเป็นไปได้ก็ขอให้ช่วยนำลูกสาวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโดยด่วน ทั้งนี้พวกตนไม่ต้องการเป็นข่าวเพราะตลอด3 ปีที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือตัวเองมาตลอดจนฐานะลำบากและลูกสาวก็ไม่ดีขึ้นจึงต้องการขอวอนผ่านสื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้วย