ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณจอห์น รัตนเวโรจน์ หลังจากผ่านปัญหาด้านคดีความในช่วงเช้า กับการ
เปิดเผยความรู้สึกนึกคิด มุมมองกับสังคม และการใช้ชีวิต ที่มีบางเรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้
ในวันนี้ของ คุณจอห์น ยังคงบริหารงานธุรกิจ เกี่ยวกับการผลิตรายการโทรทัศน์และธุรกิจทาง
ด้าน IT ที่ทำอยู่อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด คือบริษัท Tricast จำกัด ซึ่งรับผิดชอบในการผลิต
กลไกระบบประเมินคุณภาพสื่อโทรทัศน์ ที่ชื่อว่าwww.me.in.th และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง
นายกสมาคมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งยังคงเป็นหน้าที่ที่ คุณ
จอห์น ยังคงทำมาโดยตลอด
มุมมองของโลก online ในฐานะที่คุณจอห์น เป็นคน IT
คงทราบกันดีอยู่แล้วว่าโลก online ในประเทศไทย ถ้าเป็นสีก็คงจะเป็นสีเทาละครับ และปัจจุบัน
ดูเหมือนสีดำจะมากกว่าสีขาวหลายเท่าตัว ในกรณีนี้ใครหรือสื่อใดได้ลงข่าวก่อน ข่าวจะจริงเท็จ
แค่ไหนก็ไม่ได้มีหน่วยงานไหนมาคอยตรวจตราตรงนี้เป็นพิเศษลงผิดลงถูก ตามอัธยาศัย ลงผิด
เมื่อไรประชาชนเค้ารับข้อมูลผิด ๆ ไป พอมีการแก้ข่าวยกตัวอย่างจากผมนี่ พวกที่ลงข้อมูลผิดก็
จะใช้วิธีดึงหัวข้อข่าวออกไป แต่ปล่อยให้ขยะที่ตัวเองสร้างทิ้งไว้ยังคงอยู่และสร้างความเสียหาย
เรียกได้ว่าเกือบถาวร ซึ่งในกรณีของผม อย่างที่เล่าให้ฟังตั้งแต่ต้น มีถึง 2 ครั้งด้วยกันที่ผมเป็น
จำเลย สรุปแล้วการลงข่าวก่อนจริงเท็จหรือไม่ ก็เพียงแค่ต้องการเป็นผู้นำเสนอข่าวก่อนใคร
การกระทำแบบนี้ผมมองว่าเป็นทักษะชนิดหนึ่งคือ ลงข่าวก่อนเพื่อให้ปริมาณคนที่เข้า web ได้
จำนวนมาก ๆ ที่สำคัญ และผมเองแอบขำปนเสียใจคือ ลงข่าวผิด ผมก็ต้องมาลงข่าวแก้เป็นครั้ง
ที่สอง คราวนี้มันจะดูเหมือนเป็นการแก้ตัวต่าง ๆ นานา ดุลยพินิจอยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคน ซึ่ง
นี่ละครับคือปัญหาที่อยู่ในสังคม online บ้านเราและจะยังมีอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ ผมเชื่อว่าหลาย ๆ
คนก็คงจะโดนเหมือนกับผม
แนวทางในการแก้ไข
ในฐานะที่ผมเองเป็นผู้ผลิตสื่อเองด้วย ทั้งรายการโทรทัศน์และในฐานะที่มีส่วนร่วมใช้นวัตกรรม
และเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ อย่างเช่น การเฝ้าระวังสื่อ ที่
www.me.in.th ซึ่งเคยร่วมงานกับหลาย ๆ หน่วยงานนั้น ผมเชื่อว่ากลไกลต่าง ๆ บนโลก
internet รวมกับความตั้งใจในการปฏิรูปสื่อ ผมเห็นทางเดียว แต่ไม่มั่นใจว่าถูกต้องหรือไม่ แต่
เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนเองนั่นแหละ เป็นผู้เฝ้าดูและระวังสื่อที่ออกมา เป็นเหมือนการ
ตอบโต้ในเชิงทักษะและสิทธิ์ ให้ประชาชนได้มีโอกาสที่จะเฝ้าระวัง ไม่ให้สิ่งที่เป็นเท็จ เป็นขยะที่
ไร้ทิศทาง อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเกิดขึ้น ซึ่งระบบและกลไกนี้คิดขึ้นมาได้แต่ก็ต้องได้รับความ
ร่วมมือจากภาครัฐและหน่วยงานหลาย ๆ ฝ่ายที่เล็งเห็นความสำคัญตรงส่วนนี้ และอีกหลาย ๆ
คนที่อยู่ในวงการนี้ ก็อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นนะครับ ลองถามกันดูก็ได้ครับ บรรยากาศ
เป็นแบบนี้จริง ๆ คนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ดีขึ้น
การเปลี่ยนแปลงสังคมโลก Online คือการ Reset
ผมคิดว่า ปัจจุบันโลกของ Online ไปในทิศทางที่ไว แต่ไม่ใช่ทิศทางที่ถูกต้องเสมอไป ทางออก
ในมุมมองของผมคือการ Reset นั่นคือคิดแบบหลักง่าย ๆ เลย คือเราต้องเริ่มกันใหม่ เราทุกคน
ทั้งผมและผู้ที่อยู่ในโลก Online ในประเทศนี้ ต้องร่วมมือกันพัฒนา มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน มี
ขอบเขตของการเสนอข่าว และมีมุมมองสองด้าน ที่มีความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลและยุติธรรม
ซึ่งทั้งหมดเป็นหลักการง่ายๆ ที่จะนำมาสู่ความเป็นมาตรฐาน และจะทำให้ขยะหรือมูลข่าว เนื้อ
ความต่างๆ บนโลก Online เป็นความจริงและคลีนที่สุดครับ
สุดท้ายฝากถึงเกี่ยวกับความรู้สึก ที่เกี่ยวกับคดีความและวันข้างหน้าของจอห์น รัตนเวโรจน์
สำหรับตัวผมเอง เรื่องข้อพิพาท ผมก็คงแยกแยะ และอยากให้หลาย ๆ คน แยกแยะด้วยว่า
ผม จอห์น รัตนเวโรจน์ ที่ผลิตงานสร้างสรรค์ทุกรูปแบบ ผมทำด้วยใจรัก ด้วยใจจริง เพราะฉะนั้น
ตัวตนที่แท้จริงของผมก็เป็นอย่างนี้มา 20 ปีที่อยู่ในวงการ แต่แน่นอนครับ การเป็นศิลปินที่ทำสื่อ
สร้างสรรค์ ต้องผสมผสานมาร่วมทำธุรกิจกับผู้อื่น แล้วเกิดปัญหานั้น วันนี้คดีต่างๆ ได้ยุติไปแทบ
จะทั้งหมดแล้ว พอเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านไป ทุกอย่างสิ้นสุดลง มันก็จะกลายเป็นอดีตไปสำหรับ
ผม ผมก็จะยังคงทำงานสร้างสรรค์สิ่งที่มีคุณค่ามีประโยชน์ต่อไปเท่าที่ผมจะทำงานได้ แต่ผมก็
ยังตระหนักอยู่เสมอว่า นี่คือปัญหาช่วงหนึ่งในชีวิตของ จอห์น ที่ทำงานด้วยศิลปะจากความเป็น
ศิลปิน ที่ผันมาทำธุรกิจและได้รับประสบการณ์ที่เรียกว่าไม่ค่อยดีนัก ก็หวังว่าจะมีครั้งนี้ครั้งเดียว
และเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ และนั้นคือ ความรู้สึกนึกคิด ตัวตนที่แท้จริงในมุมมองของ
จอห์น รัตนเวโรจน์