อาหารไทยแนวโหดที่คุณอาจจะไม่รู้จัก

๑. ประเภทตายสนิท

ประเภท นี้เจ้าสัตว์ ที่จะถูกนำมาปรุงอาหาร จะรู้ตัวทันทีว่าหมดเวรหมดกรรมแล้วสำหรับโลกนี้ ส่วนโลกหน้าจะเกิดเป็นอะไรนั้น ติดตามตอนต่อไป แต่การตายของมันจะไม่ได้ตายดีแน่นอน กว่าจะได้ตายกันเสียที ก็ต้องทรมานกันบ้าง จะได้สะใจในชีวิต ทั้งผู้ถูกฆ่าและผู้ฆ่า ประเภทนี้มี


ปลาไหลต้มเปรต แค่ ชื่อก็ชวนสยองแล้ว อาหารชนิดนี้เป็นตำรับอีสาน ความจริงไม่จำเป็นเฉพาะปลาไหลเท่านั้น สัตว์อย่างอื่นก็นำมาต้มเปรตได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นจิ้งจก ตุ๊กแก หรืออะไรที่คิดได้ คือการนำเอาสัตว์เป็นๆ (ทำความสะอาดแล้ว) หย่อนลงในหม้อที่ปรุงรสเรียบร้อย พอสัตว์ที่ต้องการต้มเปรตถูกน้ำแกงที่เดือดพล่าน มันก็จะพยายามชูคอตัวเองให้พ้นน้ำร้อน ลักษณะเหมือนเปรต ยิ่งเป็นปลาไหลยิ่งเหมือน อาหารชนิดนี้ช่วยให้คนที่ไม่เคยเห็นเปรต ได้เห็นภาพลางๆ ก่อนไปพบตัวจริงที่จริง ที่นรก (อ๊ะ... ไม่ได้แช่งนะ)






กุ้งเต้น หรือ อื่นๆ เต้น คือการนำเอาสัตว์เป็นๆ มาทำความสะอาดแล้วบีบมะนาวให้เต้นตายกันไปต่อหน้าต่อตา ควรจะเป็นสัตว์เล็กมากกว่า เพราะลองนึกภาพควายเต้น หรือหมูเต้น กว่าจะบีบมะนาวให้มันตายกันสดๆ คงเปลืองมะนาวน่าดู ถ้าคิดว่าอาหารชนิดนี้ไม่ทรมานหรือว่าเบาะๆ ชิลๆ มีขายตามท้องตลาดทั่วไป คุณก็ลองนึกภาพว่าคุณกรีดมือตัวเองจนหนังไม่มีแล้วเอามือชุบลงไปในพริกป่น แล้วก็มีคนบีบมะนาวไส่มือคุณสิ คุณจะรู้สึกเหมือนพวกกุ้งเต้นในจานเลยล่ะ








มโนราห์ลุยไฟ คือ การใช้ตะกวด (นั่นแหละ... คุณไม่ได้อ่านผิดหรือสาวปรู๊ฟที่นี่ผิด) เป็นๆ โยนเข้ากองไฟที่กำลังลุกโชน มันก็จะร้อนและลนลานหนีตายออกมา อย่าย่อท้อ โยนมันเข้าไปอีก จนกว่าตะกวดจะตาย อาหารชนิดนี้ต้องใช้คนหลายคน เพื่อต้อนตะกวดโยนใส่ไฟ หากจะจัดเป็นการละเล่นแค้มป์ไฟอีกอย่างก็ได้ อาหารชนิดนี้เป็นอาหารปักษ์ใต้ ถ้ามาอยู่ภาคกลาง อาจเปลี่ยนชื่อได้เป็น สีดาลุยไฟ





ลูกกรอก ไม่ โหดขนาดกินลูกคนในท้อง และก็เป็นคนละลูกกรอกกับที่ขุนแผนแสนเสน่ห์ ผ่าเอาลูกออกจากท้องนางพรายก่อนคลอด มาทำลูกกรอก หรือรัก-ยมในหนังทีวีเรื่องลูกกรอก แต่เป็นชื่ออาหารชนิดหนึ่งที่ใช้กะทิปรุงรส แล้วนำลูกปลาตัวเล็กๆ ย้ำคำว่า 'เป็นๆ' คือยังไม่ตาย โยนลงหม้อกะทิพร้อมกับเร่งไฟให้ร้อนขึ้น และใส่ผักบุ้งหั่นเป็นข้อๆ ควรจะเป็นปล้องที่สามารถให้ปลาน้อยหนีตาย หลบร้อนไปพึ่งเย็นในผักได้ นั่นและเมื่อกะทิเดือดก็จะเข้าไปนอนตายสนิทในผักบุ้ง กลายเป็นผักบุ้งยัดไส้หอมหวาน ชวนรับประทานยิ่ง... โหด เลวดีไหมล่ะ







วิสัญญีแพทย์ ที่หมายความว่า หมอวางยาสลบนั่นแหละ แต่นี่เก่งกว่าเสียอีก เป็นการวางยาให้สัตว์ที่เลือกใช้ตายเลยทีเดียว โดยการนำลูกหมู แพะ หรือวัว มาฉีดเครื่องเทศเข้าสู่เส้นเลือดทั่วร่างกาย มันก็จะตาย แล้วจึงนำมาประกอบอาหาร เนื้อก็จะหอมหวาน น่ารับประทานยิ่งอีกชนิดหนึ่ง




๒. ประเภทตายผ่อนส่ง

คำ นี้ได้ยินบ่อยๆ ในเมืองหลวง แต่อย่าไปสนใจเลย มาดูอาหารโหด สัตว์ตายผ่อนส่งกันดีกว่า คือสัตว์ที่นำมาปรุงอาหารแบบไม่ตายทันที ค่อยๆ ตาย เหมือนกับซื้อผ้า ซื้อทีวีผ่อนส่ง ที่ไม่ต้องจ่ายเงินทีเดียว เพียงแต่ค่อยๆ จ่าย



 


ไก่กะทิ เป็น การทำให้ไก่อ้วนมีมันมาก โดยการนำไก่ไปฝังดินให้ชูแต่คอขึ้นมา เพื่อหยอดกะทิให้กินเป็นอาหารอย่างเดียว วันๆ จนมันอ้วนท้วนดีแล้ว จึงขุดขึ้นมาปรุงอาหาร เนื้อของไก่ก็จะหอมมันเพราะกะทิ



ตีนเป็ดสะดุ้งไฟ วิธี นี้เป็ดที่ใช้จะไม่ตายเลย จนกว่ามันจะไม่มีหนังตีน นำเป็ดตีนงามๆ มาหลายๆ ตัว ให้เป็นเดินย่ำเครื่องเทศเพื่อปรุงรส แล้วค่อยๆ ทยอยให้เดินบนตะแกรงร้อนๆ หนังตีนของมันก็จะติดอยู่ตามตะแกรง ผู้กินก็จะใช้ตะเกียบ คีบหนังกรอบๆ กินกันอย่างเอร็ดอร่อย ความจริงน่าจะเรียกว่า ประกวดนางงามจักรวาล เพราะตะแกรงเหมือนเวทีนางงาม และเป็ดเป็นผู้เข้าประกวด ส่วนคนกินก็คือท่านผู้ชมที่มีความรื่นรมย์ไม่แพ้กัน









สมองลิงพาเพลิน อาหาร ชนิดนี้ขึ้นชื่อติดอันดับความโหดของโลก หากใครเคยดูสารคดี ก็คงเคยผ่านตา หรืออยากลิ้มลองดูบ้าง ผู้เขียนก็ไม่ทราบวิธีการปรุงที่แท้จริง เพียงแต่รู้ว่า ลิงเป็นๆ ถูกถลกหนังหัว แล้วเลื่อยกระโหลกให้เดินโชว์สมอง ให้คนตักกินอย่างเพลิดเพลินใจ จนกว่าสมองจะหมด หรือทนเห็นสมองตัวเองถูกกินต่อหน้าต่อตาไม่ได้ ก็เลยตรอมใจตาย







เต่าเปลือยหลังฟอร์โชว์ ไม่ ใช่ไว้ดูแต่ไว้กิน วิธีปรุงก็ไม่ทราบอีกเช่นกัน แต่ที่แน่ๆ คือต้องใช้เต่าเป็นๆ มาเปลือยหลัง คือถอดกระดองมันออกให้เห็นเนื้อในกันจะๆ แล้วแต่ปรุงรสที่ถูกปาก ส่วนเต่าก็จะยังไม่ตายเสียทีเดียว มันจะแสบหลัง ด้วยสู้อุตส่าห์เก็บรักษา ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมมาตั้งแต่เกิด แต่กลับถูกมนุษย์ผู้ตะกละมาถอดออก จนเจ็บช้ำน้ำใจ เมื่อมนุษย์คนหนึ่งตักกินแล้ว ก็จะหันเต่าเคราะห์ร้ายไปทางมนุษย์ผู้กินรายต่อไป ด้วยความเจ็บปวด เต่าจะเดินหนี มันจะเดินโซซัดโซเซไปทางนั้น คนกินจะตักเนื้อมันกินจนกว่ามันจะสิ้นใจตาย!


อาหารโหดที่ กล่าวมานี้ หากสังเกตให้ดีจะพบว่า นิยมกินกันในหมู่ชายชาตรีอกสามศอกกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะเหมาะที่จะเป็นกับแกล้มเหล้า มากกว่าอาหารสำหรับครอบครัวน่ารักอะไรเทือกนั้น แต่ถ้าคุณผู้ชายท่านใดเป็นมังสวิรัติอยู่ แต่เผอิญอยากลิ้มลองอาหารเหล่านี้ อาจพลิกแพลงได้จากพืชผักเช่น 'เต้าหู้ต้มเปรต' 'มักกะโรนีลุยไฟ' หรือ 'เห็ดหูหนูเต้น' ก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์

อย่างไรก็ ดี การนำอาหารเหล่านี้มาเสนอ ก็มิได้หมายความว่า จะให้ท่านซอกซอนหารับประทาน เพื่อความแข็งแรงดุจซุปเปอร์แมน หรือบำรุงสมองสายตาตับไตรึก็เปล่า... การนำเสนอก็เพื่อเสนอโลกอีกด้านของคนว่าเขาหาเรื่องอร่อยลิ้นด้วยสมองที่ ค่อนข้างวิปริต และจิตใจที่มเกรียมเพียงใด...

18 พ.ค. 54 เวลา 17:26 13,887 43 320
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...