ขอขอบคุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือระหว่างวารสาร สื่อชุมชน และวิชาการดอทคอม
www.pttplc.com
ปีเก่ากำลังจะผ่านไป ปีใหม่ใกล้เข้ามาเยือนหลายคนเลือกเอาโอกาสพิเศษช่วงปีใหม่นี้เป็นเหมือนจุด เริ่มต้นที่ดีในการปรับเปลี่ยนตัวเอง และการปรับปรุงและสร้างสีสันใหม่ๆ ให้กับ “บ้าน” ต่อไปนี้คือแนวทางเพื่อการเสริมสร้างความสุข สดชื่นสดใสให้เราพร้อมรับอรุณแห่งวันใหม่และปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึงนี้
“แสงสว่าง” แหล่งพลัง คลังชีวิต
ตามหลักฮวงจุ้ย เชื่อว่าแสงสว่างจากพลังแห่งดวงอาทิตย์ สามารถช่วยกระจายพลังชีวิต ปลุกความสดชื่น และเสริมสร้างพละกำลังให้กับผู้อยู่อาศัยในบ้าน ส่วนหลักวิทยาศาสตร์ พลังงานความร้อนจากแสงแดดยังช่วยฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย ดังนั้นเราจึงควรเปิดบ้านเพื่อรับแสงจากธรรมชาติให้มาก เพื่อรับพลังและสร้างสุขลักษณะที่ดีในบ้านเรา แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง
นอกจากแสงอาทิตย์แล้ว แสงสว่างจากหลอดไฟภายในบ้านยังช่วยสร้างบรรยากาศและความรู้สึกที่แตกต่างกัน ไปในแต่ละห้องอีกด้วย เช่น แสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดนีออน ซึ่งเป็นแสงจ้า เหมาะสำหรับห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ โถงทางเดิน ลานจอดรถ และบริเวณระเบียง ในขณะที่แสงสีเหลืองส้มนวลตานั้นเหมาะสำหรับห้องนอน ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายเราผลิตสารเมลาโทนินซึ่งเป็นสารที่ทำให้เรานอนหลับสนิท สดชื่นเต็มที่
“เสียง” พลิ้วไหว จุดประกายพลัง
หลักฮวงจุ้ยกล่าวไว้ว่า บ้านไร้เสียง คือบ้านไร้โชค เหมือนไร้พลังชีวิต ดังนั้นเพียงแค่เราลองหาโมบายระฆังเล็กๆ หรือกังสดาลจิ๋ว มาแขวนรับลมไว้ที่ริมระเบียงหรือรอบๆ บ้าน เสียงกรุ๊งกริ๊งที่เกิดจะช่วยทำให้บรรยากาศรอบบ้านมีชีวิตชีวาขึ้น และยังช่วยกล่อมเกลาจิตใจที่ว้าวุ่นหรือเหนื่อยล้าให้เยือกเย็นและสงบลงได้ เกิดปัญญาและสมาธิในการคิดอ่านทำสิ่งใดๆ ได้อย่างมีสติรอบคอบมากขึ้น
“สีสัน” พลังจิต สะกิดใจ
ปัจจุบันวงการแพทย์ยอมรับว่าสีมีผลและอิทธิพลต่อจิตใจมนุษย์ อีกทั้งต่อมไพเนียลในร่างกายที่ควบคุมจังหวะการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน เช่น การกิน การนอน ก็มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสีในลักษณะที่แตกต่างกันไป และส่งผลต่อความรู้สึก จิตใจ และอารมณ์ในร่างกายเราในขณะนั้นด้วยเช่นกัน เช่น สีฟ้า สีเขียว สีชมพู เป็นสีที่ทำให้คนมองแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ส่วนในห้องทำงาน ห้องทำกิจกรรมของครอบครัว หรือในห้องครัวควรเลือกสีผนังเป็นสีส้มหรือสีแดง เพื่อสร้างความรู้สึกกระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า ขณะที่โทนสีนี้ยังช่วยกระตุ้นให้รู้สึกเจริญอาหารอีกด้วย
“ต้นไม้” ชุ่มชื่น คืนพลังชีวิต
ชาวจีนเชื่อกันว่าต้นไม้เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตถ้ามีต้นไม้ในบริเวณบ้านจะ ช่วยเพิ่มพลังชีวิตให้สดใสขึ้น ส่วนทางวิทยาศาสตร์ก็พบว่าต้นไม้สามารถดูดซับสารพิษได้เช่นกัน โดยการปลูกต้นไม้ภายในอาคาร ควรเลือกต้นไม้ที่ต้องการแสงน้อย เพื่อการดูแลรักษาง่าย เช่น ต้นหมากเหลือง ปาล์มไผ่ พลูด่าง สาวน้อยประแป้ง กล้วยไม้ หน้าวัว สับปะรดสี ฯลฯ
สำหรับต้นไม้ที่ปลูกในห้องน้ำ นอกจากจะช่วยดูดความชื้นแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศแบบธรรมชาติที่สดชื่นสดใสให้กับชั่วโมงส่วนตัวของเราใน ห้องน้ำอีกด้วย แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ ควรเปิดรับแสงอาทิตย์ให้ส่องผ่านเข้าไปได้ เพื่อให้ต้นไม้ได้รับไออุ่นจากแสงแดด และช่วยให้ห้องน้ำไม่อับชื้นและเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
“รูปภาพ” ปลุกจินตนาการ สานพลัง
วิธีการแต่งบ้านให้สวยงามที่ง่ายและเป็นที่นิยมกันมากที่สุด คือ การแขวนกรอบรูป หรือภาพบนผนัง ขอแนะนำให้ติดภาพวิวทิวทัศน์ไว้ในห้องรับแขก ซึ่งมักจะอยู่ส่วนหน้าสุดของบ้าน เพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย สบายใจ สบายตา ให้กับผู้อยู่อาศัย และแขกที่มาเยือนนับตั้งแต่ก้าวแรก ส่วนห้องนอน ควรติดภาพดอกไม้สวยๆ หรือสวนดอกไม้ที่มีสีสันสวยงามเพื่อสร้างความรู้สึกสดชื่น นุ่มนวล อ่อนโยน เหมาะต่อการพักผ่อนอย่างสุขสงบ
ทั้งหมดนี้เป็นบางวิธีง่ายๆ ในการส่งเสริมและเพิ่ม “พลังชีวิต” ให้เราโดยการลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนหรือแต่งเติมบ้านอีกเล็กๆ น้อยๆ ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นช่วงวันหยุดปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึงนี้ หากไม่ได้ไปเที่ยงไหนไกล หรือตั้งใจจะปรับปรุงบ้านอยู่แล้ว ก็ลองลงมือทำกันดู เพื่อสร้างบรรยากาศใหม่ๆ ให้กับบ้าน และจุดพลังชีวิตดีๆ ให้กับตัวของเราเอง