เว็บไซต์เดอะซัน ของอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมว่า เกิดเหตุการณ์สุดทึ่งขึ้นกับหนูน้อย เคที่ ลอลลี่ เด็กหญิงวัย 2 ขวบจากอังกฤษ เมื่อแปรงสีฟันกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณแม่หนูน้อยพบมะเร็งในดวงตา และรักษาได้ทัน

          โดยเรื่องราวดังกล่าว เปิดเผยขึ้นหลังจากที่ รีเบคกา ลอลลี่ คุณแม่วัย 29 ปี ได้ซื้อแปรงสีฟันอันใหม่ให้กับหนูน้อยเคที่ ซึ่งเป็นแปรงสีฟันไฟฟ้าที่มีไฟแฟลชส่องสว่างในตอนกลางคืนด้วย และในวันนั้นเอง ขณะที่คุณแม่รีเบคก้ากำลังให้หนูน้อยเคที่ได้ลองแปรงสีฟันอันใหม่ด้วยความตื่นเต้น แสงแฟลชก็ดันไปตกกระทบกับดวงตาของหนูน้อย ทำให้เธอได้สังเกตเห็นว่า ดวงตาของลูกสาวเธอนั้นมีสีขาว ๆ ผิดปกติ จึงรีบพาหนูน้อยไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการตรวจ

          จากการตรวจสอบของแพทย์ ผลออกมาว่า หนูน้อยเคที่เป็นมะเร็งในจอประสาทตา ซึ่งหากปล่อยไว้มันก็จะลามไปสู่บริเวณโดยรอบอย่างรวดเร็ว จนอาจทำให้หนูน้อยตาบอดทั้งสองข้างได้ และ ณ วันนี้ ถึงแม้ว่าหนูน้อยเคที่มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียการมองเห็นของดวงตาข้างที่เป็นมะเร็งไป แต่แพทย์ก็เปิดเผยว่า มันยังถือว่าไม่สายเกินไป และยังถือว่ามะเร็งจอประสาทตาถูกค้นพบได้ทันเวลา ก่อนที่มันจะลามไปอีกข้างหนึ่ง

           สำหรับโรคมะเร็งจอประสาตา หรือ Retinoblastoma เป็นมะเร็งที่พบได้ในวัยเด็กมากที่สุด ในสัดส่วน 1 รายต่อ 20,000 ราย มักพบในเด็กอายุระหว่าง 2-5 ปี เด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้ จะสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ คือจะมีจุดขาวในตาดำ มักมองเห็นได้ในตอนหัวค่ำ หรือภาพถ่ายที่ใช้แสงแฟลชในการถ่าย ซึ่งถ้าหากผู้ปกครองคนใดพบว่าดวงตาของลูกมีลักษณะผิดปกติดังที่ว่ามานี้ ก็ควรรีบพาลูกน้อยไปส่งโรงพยาบาล และหากได้รับการรักษาแต่เนิ่น ๆ เด็กอาจจะมีปัญหาทางการมองเห็นเพียงเล็กน้อย กลับกันถ้าหากปล่อยไว้ มะเร็งจะลามอย่างรวดเร็วจนทำให้เด็กตาบอดทั้ง 2 ข้างได้ ดังนั้น ผู้ปกครองจึงควรสังเกตความปกติดังกล่าวอยู่บ่อย ๆ จนกว่าเด็กจะอายุ 7 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงอายุที่ไม่ค่อยพบเด็กที่เป็นมะเร็งจอประสาทตานั่นเอง