พิธี Ashura ศรัทธาสีเลือดของมุสลิม(ชีอะ)
พิธี Ashura
เป็น ประเพณี ของ กลุ่มนิกายชีอะห์ ครับ ... อันเนื่องมาจากสาเหตุที่ว่า วันนี้ ในอดีต นั้น เป็นวันที่
ท่านฮุเซน บินอะลีย์ บินอะบีฏอลิบ (หลานชายท่านศาสดานบีมูฮัมหมัด )
ถูกสังหารอย่างทารุณในสงครามอัฏฏ็อฟ ในอิรัก
ซึ่ง ตรงกับวันที่ 10 มุฮัรรอม ฮ.ศ. 61 (หรือ 10 ตุลาคม พ.ศ. 1223) เนื่องมาจากว่า ท่านฮุเซนและ
ครอบครัวได้ร่วมกันต่อสู้กับกองทหารฝ่ายกบฎจากซีเรีย
ตั้งแต่ เช้าจนถึงเวลาบ่าย ในการต่อสู้ครั้งนี้ ฝ่ายท่านฮุเซนมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นรวม 132 คน
( ซึ่งเป็น ญาติพี่น้อง และ บรรดาสาวกที่จงรักภักดีต่อท่าน ฮุเซน ) ยกเว้นท่านซัยนุลอาบิดีน บุตรชายคน
หนึ่งของท่านฮุเซนที่ไม่สามารถออกรบได้ เพราะป่วยอยู่ในขณะนั้น จึงรอดชีวิตจากการสังหารหมู่ในครั้งนั้น
กลุ่มชีอะห์ จะไว้อาลัย ท่านฮุเซนในวันอาชูรอ โดยการจัดพิธีกรรม เช่นการเล่าเรื่องอิมามฮุเซนจาก
ประวัติศาสตร์ การขอดุอาอ์ (ขอพร) การร้องไห้
การเลี้ยงอาหารและน้ำให้แก่คนยากจน นอกจากนี้ ยังมีพิธีการที่แสดงออกถึงการรำลึกถึง
ความโหดร้าย และความเจ็บปวดในโศกนาฏกรรมครั้งนั้น เช่น การ กรีดหัว ลุยไฟ ทุบอกชกตัว
หรือ ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ(ในภาพเฆี่ยนตัวด้วยใบมีด) เป็นต้น
กลุ่มชีอะห์ จะไว้อาลัย ท่านฮุเซนในวันอาชูรอ โดยการจัดพิธีกรรม เช่นการเล่าเรื่องอิมามฮุเซน
จากประวัติศาสตร์
คนไทยเรียกพิธีพวกนี้ ว่า เต้นเจ้าเซ็น สัญลักษณะที่มักปรากฏในพิธีนี้คือ ธงดำ กองไฟ มือของฮุเซน
ภาพที่นำมาเป็นพิธีAshura ในเลบานอน
สำหรับมุสลิมสุหนี่
พิธี Ashura หรือ ภาษาไทยเรียกกันว่า วันอาชูรอครับ ตามปฏิทินอิสลาม จะตรงกับวันที่ 10 เดือน
มุฮัรรอม (มุหัรรอมเป็นเดือนแรกแห่งปีจันทรคติอิสลาม)
อาชูรอ นั้น อิมาม นะวะวีย์ หมายถึง วันที่สิบของเดือนมุหัรรอม" (อัลมัจมูอฺ 6/352) ในกลุ่มของยาฮูดีย์
(ยิว ) นั้น เชื่อว่า วันอาชูรอ คือ วันที่ อัลลอฮฺได้ทรงทำให้ นบีมูซา (โมเสส) และ อิสมาแอล( พวกอิสราเอล)
รอดพ้นจากการจับกุมของฟาห์โร และกองทหารของฟาห์โรจมน้ำทะเล ดังนั้น จึงมีการถือศีลอด เพื่อแสดง
ความขอบคุณพระเจ้า(อัลลอฮฺ )
สมัยก่อนนั้น ท่านศาสดานบีมูฮัมมัด (ศ.ล.) ได้เคยกำหนดให้วันนี้ เป็นวันถือศีลอด ฟัรดู
(ภาคบังคับ) สำหรับ มุสลิม จนกระทั่ง พระเจ้า(อัลลอฮฺ (ซบ.)) ได้มีบัญชาให้ เปลี่ยนไปถือศีลอดในเดือน
รอมฎอม แทน ... การถือศีลอดใน วันอาชูรอ จึงเปลี่ยนไปเป็นการถือศีลอด ซุนนะห์ ( ไม่บังคับ)
ขอขอบคุณข้อมูล
จาก..Sigree
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=249744
http://muslimchiangmai.net/index.php?topic=1771.0;wap2
ภาพจาก
http://smf.ruk-com.in.th/index.php?topic=61446.0