ยอดผู้ป่วยเอดส์หน้าใหม่พุ่ง สธ.เต้นกระตุ้นรับมือ ผุดไอเดียผลิต "เครื่องมือวัดจู๋" ช่วยชายไทยเลือกซื้อถุงยางอนามัยตรงไซส์ แก้ปัญหาสวมผิดขนาด ทำให้รู้สึกไม่กระชับ-ลื่น-หลุด-อึดอัด-เสียอารมณ์ จนคนเมินสวมป้องกันโรค
หัวหน้ากลุ่มโรคเอดส์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์เอดส์ของประเทศไทยว่า เชื่อว่าอีกไม่นานอัตราการติดเชื้อเอดส์ในบ้านเราต้องพุ่งขึ้นแน่นอนจนเข้า สู่สถานการณ์ระบาดเอดส์รอบ 2 และจะหนักกว่าการระบาดในครั้งแรก เพราะขณะนี้มีสัญญาณที่ใกล้มาแล้ว เพราะไม่ว่าจะสำรวจข้อมูลไปที่กลุ่มใด มีอัตราการติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นหมด
สาเหตุสำคัญมาจากการขาดการประชา สัมพันธ์ให้ตระหนักต่อโรคเอดส์ แม้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลจะเริ่มเห็นความสำคัญ โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ให้งบประมาณ 500 ล้านบาท ในการทำโครงการป้องกัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
ขณะนี้สำนักโรคเอดส์ได้คิด ค้นจัดทำ "เครื่องมือวัดจู๋" เพื่อวัดขนาดอวัยวะเพศของชายไทย โดยเป็นสายวัดที่กำหนดมาตรวัดเป็นมิลลิเมตรเพื่อวัดรอบอวัยวะเพศชาย ทำจากกระดาษใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเพื่อป้องกันโรค โดยขนาดอวัยวะเพศของชายไทย ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 49 มิลลิเมตร และ 52 มิลลิเมตร ส่วนขนาดถุงยางอนามัยที่จำหน่ายจะมีขนาด 49 มิลลิเมตร 52 มิลลิเมตร และ 54 มิลลิเมตร โดยขนาด 54 มิลลิเมตร จะเป็นขนาดสำหรับชาวต่างประเทศ ซึ่งสายวัดจู๋นอกจากจะช่วยให้ชายไทยสามารถเลือกใช้ขนาดถุงยางอนามัยที่เหมาะ สมแล้ว ยังจะเป็นเครื่องมือเพื่อใช้ในการวิจัยเพื่อสำรวจขนาดอวัยวะเพศของเยาวชนและ วัยรุ่นไทย เนื่องจากสำนักโรคเอดส์จะมีการทำโครงการสำรวจขนาดอวัยวะเพศชายของเยาวชนและ วัยรุ่น เพื่อผลิตถุงยางอนามัยในขนาดที่เหมาะสมด้วย
"การใส่ถุง ยางอนามัยใหญ่เกินขนาดอาจทำให้รู้สึกไม่กระชับ ลื่นหลุดได้ ในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ และหากสวมใส่ขนาดที่เล็กไป จะทำให้เกิดการบีบรัด อึดอัด ซึ่งทั้ง 2 กรณีจะทำให้เกิดความกังวล และอาจส่งผลทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลงได้ เป็นสาเหตุทำให้ไม่อยากสวมใส่ ส่งผลต่อการป้องกันเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งหากเลือกถุงยางอนามัยในขนาดที่เหมาะสมจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ และอาจช่วยกระตุ้นให้อัตราการใช้ถุงอนามัยของไทยเพิ่มมากขึ้น"