เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวเอเอฟพี (AFP) รายงานว่า มหาวิทยาลัยในชิคาโก เล็งปรับวิชาเพศศึกษาใหม่ หลังจากศาสตราจารย์สอนเพศศึกษาให้ชายหญิงสาธิตการมีเพศสัมพันธ์ต่อหน้านักศึกษานับร้อย
รายงานระบุว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้ คือ มหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น ในชิคาโก ได้เปิดหลักสูตรวิชาเพศศึกษาเช่นเดียวกับสถาบันการศึกษาทั่วไป โดยวัตถุประสงค์ของหลักสูตรนี้ คือ เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย รวมถึงสอนศิลปะการมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่แล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศาสตราจารย์ผู้สอนวิชาเพศศึกษานี้ ได้หยิบยกเรื่องของการสวมบทเป็นทาสบนเตียง การมีเพศสัมพันธ์แบบสวิงกิ้ง และการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อสนองความต้องการทางเพศ และยิ่งไปกว่านั้น ศาสตราจารย์ยังเปิดการสาธิตการใช้เซ็กส์ทอย และการสำเร็จความใคร่ในผู้หญิง โดยการให้ชายหญิงคู่หนึ่ง ขึ้นมาสาธิตการใช้เซ็กส์ทอย และมีเพศสัมพันธ์กัน เพื่อให้นักศึกษาเห็นว่าจะสามารถทำให้ฝ่ายหญิงสำเร็จความใคร่ได้อย่างไร โดยทั้งคู่ปฏิบัติกิจทางเพศกันต่อหน้านักศึกษากว่า 100 คนเลยทีเดียว
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้สร้างความไม่พอใจให้กับนักศึกษาหลายคน รวมถึงผู้ปกครองคนหนึ่งซึ่งร่วมนั่งฟังการสอนอยู่ด้วย จึงได้ประกาศยุติการเรียนการสอนทันที และหลังจากนั้นก็มีการถกเถียงกันเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวสมควรหรือไม่ เพราะดูแล้ว ศาสตราจารย์คนดังกล่าวสอนในเรื่องเพศที่เกินขอบเขตที่ควรสอนในมหาวิทยาลัยไปมาก และมีการเรียกร้องให้ยุติการเปิดหลักสูตรนี้ในมหาวิทยาลัยไปเลย แต่อย่างไรก็ดี ขณะนี้ ทางมหาวิทยาลัยได้พิจารณาเกี่ยวกับหลักสูตรดังกล่าวอย่างจริงจัง และจะปรับปรุงอยู่ในขอบเขตที่ควรจะสอนในเทอมถัดไป