Washington flap ดวงไฟสีส้มเหนือน่านฟ้ากรุงวอชิงตัน ดีซี

เหตุการณ์ ของ วันเสาร์ที่ 19 กรกฏาคม 1952 เวลา 11 โมง 40 นาทีครับ นาย Edward Nugent ผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศที่Washington National Airport พบวัตถุบิน 7 ดวงในเรดาห์ ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง หลังจากที่เขาตรวจดูแล้วก็พบว่าไม่มีเครื่องบินหรือวัตถุอื่นๆอยู่ในเส้นทาง การบินในพื้นที่นั้นๆ เขากล่าวว่า “เป็นเหตุการณ์ที่แปลกมาก การเคลื่อนไหวของพวกนั้นสมบูรณ์สุดขีดเมื่อเทียบกับบรรดาเครื่องบินที่มี อยู่ในโลก ”

Harry Barnes ผู้ควบคุมเส้นทางของสายการบินที่ทำงานมานานในสนามบิน ก็ตรวจสอบวัตถุใน radarscope แล้วจึง ตรวจสอบเรดาร์ของพวกเขาพบว่าทำงานได้ตามปกติ เขาแจ้งไปยังศูนย์เรดาร์ของสนามบินแห่งชาติอื่นๆดูมัน

“แสงสีส้มสว่างจ้า ผมบอกไม่ได้หรอกว่ามันคืออะไร”

Barnes แจ้งฐานทัพอากาศแอนดรูที่อยู่ห่างออกไป 10 ไมล์ William Brady ผู้ซึ่งรับเรื่องอยู่ในหอควบคุมก็ยืนยันว่าเห็นลูกบอลไฟสีส้ม ที่ค่อนข้างแปลกประหลาด และเคลื่อนที่เร็วอย่างไม่น่าเชื่อ




สนามบินแห่งชาติวอชิงตัน



วันถัดมาเวลาเที่ยงครึ่ง หอควบคุมการบินแห่งชาติรายงานพบ "จานสีส้มอยู่เหนือความสูง 3,000 ฟุต"

S.C. Pierman นักบินของ Capital Airlines กำลังรออยู่ในที่นั่งคนขับบนเครื่อง DC-4 ขออนุญาตนำเครื่องขึ้นดูเพราะเขาเชื่อว่ามันน่าจะเป็นอุกกาบาต หรือดาวตกอะไรเทือกนั้น เขาอธิบายว่าจริงๆแล้วมัน “สีขาว ไม่มีหางเสือ เร็ว และเป็นดวงไฟ” กว่า 14 นาที Pierman อยู่ในการติดต่อวิทยุกับ Barnes

วัน ที่ 26 กรกฏาคม 1952 เวลา 8 โมง 15 นาที นักบินและ พนักงานต้อนรับ บนเที่ยวบิน สายการบินแห่งชาติ พบวัตถุประหลาดบนเครื่องบินของพวกเขา ศูนย์เรดาร์ที่สนามบินแห่งชาติและเรดาร์ที่ ฐานทัพอากาศแอนดรู (ชาวหว้ากอดูได้ที่นี่เลยครับ http://www.andrews.af.mil )มีการติดตามวัตถุไม่ทราบสัญชาตินี้ วัตถุดังกล่าวมีความเร็วระหว่าง 90 - 100 ไมล์ต่อชั่วโมง

การพบเห็นของเหตุการณ์วันที่ 19 -20 กรกฏาคมนั้น ต่อมาได้ถูกรายงานเป็นการพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ในวันถัดมา บางฉบับลงว่า “ฝูงจานบินมาจับกลุ่มบินผ่านเมือง” กัปตัน Edward J. Ruppelt จากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งกำลังง่วนอยู่กับโครงการบลูบุ๊คที่รัฐบาลสร้างขึ้นมาให้แกดูแล ก็รีบเดินทางมาถึงวอชิงตัน ครับ..และแล้วรัฐบาลสหรัฐฯก็มาเอี่ยวจนได้ เขาได้รวบรวมรายงานกลับไปยังเพนตากอน ก่อนที่จะรายงานบทสรุปออกมา รายงานสรุปว่าอย่างไรนั้น จะอยู่ในปฏิทินวันสุดท้ายของแต่ละวันที่ผมทำสรุปไว้นะครับ



หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงาน




13 กรกฎาคม (เวลา ตี4)

เครื่อง บินสายการบิน นานาชาติกำหนดเส้นทางระหว่างทางไปสนามบินแห่งชาติประมาณ 60 ไมล์ มีการสังเกตพบลูกบอลสีขาวของแสงที่โฉบไปตะวันตกของเมือง วัตถุนั้นสูง 11,000 ฟิต และขนานในระดับเดียวกันกับเครื่องบินที่ความเร็วเท่ากัน วัตถุออกจากพื้นที่ที่ประมาณ 1,000 ไมล์ต่อชั่วโมง ในขณะที่สภาพอากาศดีสำหรับการสังเกตท้องฟ้า และไม่มีรายงานว่าในเวลาขณะนั้นมีวัตถุใดๆมาทำให้การบินยุ่งเหยิง

14 กรกฎาคม (เวลา 2 ทุ่ม 12)

เครื่อง บินแพนอเมริกันแอร์เวย์อยู่ที่ 8,000 ฟิต ใกล้ Norfolk, VA มีวัตถุทรงกลมสีแดงเรืองบินเข้ามาใต้เครื่องบิน วันต่อมา ลูกเรือได้รายงานอย่างละเอียดไปยัง AFOSI

16 กรกฎาคม (เวลา 4 ทุ่ม)

ที่ ถนน Hampton มีวิศวกรผู้หนึ่ง พบดวงไฟสองดวงสีน้ำตาลและสีเหลืองลอยมาจากทางใต้ประมาณ 500 ไมล์ มันเคลื่อนที่ช้าและมีการยูเทิร์น เขาอธิบายว่ามันตะกุกตะกักเมื่อเคลื่อนไหวช้า และมีความสามารถในการเปลี่ยนเป็นรูปวงกลมที่ดูน่าพิศวง

18 กรกฎาคม (เวลา ตี 2)

ที่วอชิงตัน ดีซี. วิศวกรหัวหน้าสถานีวิทยุสังเกตเห็นจานบินรูปสีส้ม 7 ดวงรวมเป็นอันเดียว และก็หายไป


นอกจากเรดาห์แล้ว ก็ยังมีการยืนยันว่าพบด้วยตาเปล่า ภาพนี้ถ่ายได้ในช่วงเวลาดังกล่าวครับ



19 กรกฎาคม ( เวลา 5ทุ่ม 40 )

สนามบินแห่งชาติเริ่มพบวัตถุบินไม่ปรากฏสัญชาติในเรดาร์

20 กรกฎาคม (เวลา ตี1 )

Capital แอร์ไลน์เที่ยวบินจากสนามบินแห่งชาติ หอควบคุมการบินพบวัตถุไม่ปรากฏบนจอเรดาร์สามดวง เหมือนดาว มีหางเสือยาว เคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว ขึ้นลง และบินแนวนอน หัวหน้า CAA ควบคุมการจราจรทางอากาศ กล่าวในการสัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ อธิบายการเคลื่อนไหวของวัตถุที่ปรากฏบนเรดาร์

20 กรกฎาคม (เวลา ตี 1 5นาที)

พยาน 5 คน สังเกตเห็นวัตถุสามดวงสีแดง-สีส้มลอยอยู่

20 กรกฏาคม (เวลา ตี 3)

Capital แอร์ไลน์เที่ยวบินขาเข้าที่สนามบินแห่งชาติรายงานว่าวัตถุไม่ปรากฏสัญชาติ ตามเครื่องบินจากบริเวณใกล้เคียง Herndon, Va., ไปประมาณ 4 ไมล์ทางตะวันตกของสนามบิน มีการยืนยันในเรดาร์ ARTC.



ภาพที่ปรากฏในเรดาห์ ในวันที่ 20 กรกฏาคม

 



20 กรกฎาคม (ตี 4 – 6 โมง)

วัตถุไม่ปรากฏสัญชาติมีเพิ่มเติมมาในเรดาร์ ARTC ที่สนามบินนานาชาติ

20 กรกฎาคม (บ่าย)

เร ดาห์ ของศูนย์ที่ Andrews AFB ของกองทัพอากาศ พบจานบิน10 ลำนานถึง 15-20 นาที วัตถุวิ่งว่อนได้เปลี่ยนทิศทาง (ตามรายงานรายละเอียดของ NICAP จากการสังเกตการณ์สภาพอากาศ AF.)

26 กรกฎาคม (3 ทุ่ม)

จาน บินปรากฏอีกครั้งที่เรดาห์ของสนามบินนานาชาติ นักบินพลเรือนเห็นวัตถุเรืองขาวสี่ดวงขณะนำร่องยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ใกล้ Herndon, Va. และสองนักบิน CAA เหนือแมริแลนด์ นักบินสายการบินแห่งชาติใกล้ Andrews AFB ที่ 1,700 ฟิตรายงานว่า เห็นยูเอฟโอ "บินอยู่เหนือเครื่องบิน “

26 กรกฎาคม ( 3 ทุ่ม 15)

เรดาห์ของ Andrews AFB ฟันธง เอ๊ย..คอนเฟิร์มการพบวัตถุบินลึกลับ



ฐานทัพอากาศแอนดรูว์



 

26 กรกฎาคม ( 3 ทุ่ม 50 )

เรดาห์ ARTC ที่สนามบินแห่งชาติพบการเลี้ยวกลับของวัตถุ 4 ดวง วัตถุอื่นๆกระจายอยู่รอบๆขอบเขตเรดาห์

26 กรกฎาคม ( 3 ทุ่ม 54 )

เรดาร์ติดตามจานบิน 12 ลำในพื้นที่วอชิงตัน ดีซี.

26 กรกฎาคม ( 4 ทุ่ม 38 )

- กองทัพอากาศสั่งให้แจ้งเป้าหมายในเรดาร์

- F-94 สองลำถูกสั่งให้ออกประจำการจากฐานบินนิวคาสเซิล เดลาแวร์ทันที

27 กรกฎาคม (เที่ยงคืน 15 )

พล ตรีฟอร์เนช เจ้าหน้าที่ในเพนตากอน และโฮลคอมบ์ ทหารเรือผู้เชี่ยวชาญอิเล็กทรอนิกส์ มาที่สนามบินแห่งชาติ ARTC เพื่อสังเกตเป้าหมายและแจ้งไปยังกองทัพอากาศให้ปฏิบัติการสกัดกั้นวัตถุบิน ลึกลับโดย F-94 สองลำที่มาจากเดลาแวร์

Lockheed F-94



 

27 กรกฎาคม (เที่ยงคืน 20 )

F-94 พยายามสกัดกั้นในขณะที่ความเร็วของวัตถุบินลึกลับมีความเร็วเท่ากับ F-94 แต่เมื่อพยายามไล่กวดไปมากขึ้น มันกลับหายไปจากสายตาและจอเรดาห์ นักบินบอกว่าเขาตกตะลึงกับความเร็วที่เหลือเชื่อของมัน

27 กรกฎาคม (1 ทุ่มครึ่ง )

ร้อย โทที่ Andrews AFB เห็นจานบินสีดำเคลื่อนไหวช้าๆที่ตะวันออกเฉียงเหนือด้วยการส่าย และเคลื่อนไหวแบบกลิ้ง และจานบินไปอยู่ใต้เมฆที่อยู่ในทางทิศใต้

27 กรกฎาคม ( 3 ทุ่ม)

บุคลากร ของกองทัพอากาศที่สนามบินแห่งชาติเห็นวัตถุขนาดใหญ่แสดงลักษณะเหมือนแสงแดด โฉบเหนือตึกCapital หลังจากนั้นไม่กี่นาที วัตถุก็บินตรงแล้วหายไปจากสายตา

28 กรกฎาคม

หนังสือพิมพ์เริ่มพาดหัวข่าวจากวอชิงตัน ดีซี. อ้างข่าวจากกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งให้นักบินบินตามและ ยิงมัน ไม่ว่าจะเห็นมันที่ไหนก็ตามในสหรัฐอเมริกา

 



คนที่ยืนอยู่คือกัปตัน Edward J. Ruppelt



 

29 กรกฎาคม (ตี 1 ครึ่ง – ตี 5 )

มีวัตถุไม่ปรากฏสัญชาติในเรดาห์ของ CAA 8 – 12 จอเรดาห์รับรู้ถึงมันว่ามีการเคลื่อนไหวไปตะวันออกเฉียงใต้ 15 ไมล์ใกล้วอชิงตัน ดีซี.

29 กรกฎาคม (ตี3 )

นัก บินสายการบินตะวันออกพบเป้าหมายในเรดาห์ ขอให้ ARTC ตรวจสอบเป้าหมายว่าเรดาร์รายงานว่าเห็นอะไร ทาง CAA กล่าวว่าเป้าหมายหายไปจากจอเรดาร์เมื่อเครื่องบินอยู่ในพื้นที่ และจากนั้นก็บินมาอยู่ด้านหลังเขา

29 กรกฎาคม ( บ่าย 3 )

นักบินของกองทัพอากาศเห็นจานบิน 3 ลำ สีขาว บินห่างออกไป 10 ไมล์ ไปทางใต้ของฐานบินแอนดรูว์ เรดาห์ยืนยันว่ามีอีก

29 กรกฎาคม ( 4 โมง)

กอง ทัพอากาศแถลงว่าการพบเห็นทั้งหมดเป็นเพราะอุณหภูมิที่ไม่คงที่ทำให้เรดาห์ ผิดเพี้ยน ส่วนที่นักบินเห็นก็เพราะเป็นปรากฏการณ์ของชั้นบรรยากาศ เออ.. เอากะเขาสิ นี่แหละครับรายงานที่ส่งตรงจากเพนตาก้อนฝีมือกัปตัน Edward J. Ruppelt เอ้า..แยกย้ายกันกลับบ้านได้แล้วครับท่านผู้ชม กองทัพอากาศสหรัฐฯบอกว่าไม่มีอะไรในกอไม้ไผ่(โย่ง.. รึเปล่า อันนี้ไม่รู้) ตามฟอร์มครับ เรดาห์ของสหรัฐฯห่วยขนาดนั้นเชียวเหรอ แล้วกรณีที่มีคนเห็นด้วยตาเปล่าล่ะ พี่แกตอบว่า "นั่นมันดาวที่บิดเบี้ยวโดยสภาพของชั้นบรรยากาศ ".. - -"

แล้ว ปริศนาของวัตถุบินลึกลับประหลาดที่มาว่อนๆอยู่ที่วอชิงตันติดกัน 7 วันก็จบลงด้วยประการล่ะฉะนี้ วันนี้ไม่มีเครดิตให้ลงนะครับ เนื่องจากผมเขียนเอง ไม่ได้นั่งเทียนเขียนนะครับ (เพราะไฟไม่ดับครับ เลยไม่ต้องจุดเทียน โอ้ว) สําหรับวันนี้ก็ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ.Terran




Credit: http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=neothailand&month=01-12-2009&group=3&gblog=25
12 พ.ค. 54 เวลา 09:26 3,111 2 100
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...