แผ่นป้ายหลุมศพเขียนไว้ว่า
"เกย์ทหารผ่านศึกเวียดนาม" ต่อด้วยคำตัดพ้อ "ตอนผมอยู่ในกองทัพ พวกเขาให้เหรียญกล้าหาญแก่ผมสำหรับการฆ่าชายสองคน แต่พวกเขากลับขับไล่ผม เพราะการรักชายคนหนึ่ง"
ไม่ รู้ว่าญาติพี่น้องเอามาจากที่เคยได้ยินผู้ตายพูดหรือเจ้าตัวสั่งเสียไว้ แต่มันสะเทือนใจเหลือเกิน ช่างเป็นการเสียดสีที่ร้ายกาจอะไรอย่างนี้ ได้รางวัลเพราะการฆ่า แต่ถูกลงโทษเพราะความรัก
และ ถ้าหากมองในแง่การเสียสละ นี่หรือครับสิ่งที่ทหารผู้ต้องเสี่ยงตายเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ (และแนวคิดทางการเมืองของประเทศ) พึงได้รับ คุณเคยใช้ให้เขาไปตาย แต่พอพบว่าเขาแตกต่างจากคุณ คุณก็เฉดหัวเขาออกไป ...เป็นอะไรที่บัดซบเกินบรรยาย
ล่าสุดกองทัพอเมริกาก็ไล่นาวาอากาศโท Victor J. Fehrenbach ออกจากกองทัพโทษฐานเป็นเกย์ แล้วมาดูประวัติงานของทหารคนนี้
88 ภารกิจสงคราม, 2180 ชั่วโมงบิน, 1487 ชั่วโมงสู้รบ และ 400 ชั่วโมงในสงคราม (fighter กับ combat hour นับต่างกันยังไงไม่รู้ รู้แต่ประสบการณ์สูงทีเดียว) น้าวิกเตอร์ผ่านทั้งสมรภูมิ โคโซโว อัฟกานิสถาน อิรัก ฯลฯ เสี่ยงตายมาไม่รู้เท่าไหร่ ได้เหรียญกล้าหาญมาเพียบอีกต่างหาก
นอก จากนี้น้าแกยังเป็นครูฝึกบินให้ทั้งกองทัพอากาศ และนาวิกโยธินอีกด้วย กองทัพลงทุนเทรนแกไปทั้งหมด 25 ล้านเหรียญ แล้วโยนเงิน 25 ล้านเหรียญทิ้งเพราะเพศวิถีของน้าแกตัวเดียว ...ใช้เงินได้ฉลาดมากกกกกกก
มันเป็นปัญหาเรื้อรังของนโยบาย don't ask, don't tell ที่ เริ่มมาตั้งแต่บิล คลินตัน เป็นปธน. แต่แทนที่จะถูกใช้เป็นนโยบายประนีประนอมให้เกย์เข้ามารับใช้ชาติอย่างทีคน เสนอนโยบายคาดไว้ มัน กลับเป็นนโยบายกีดกันหนักกว่าเดิม เพราะเมื่อพูดไม่ได้ก็หมายถึงว่า เป็นได้แต่อย่าให้ใครรู้ ถ้ารู้ก็ต้องโดนเฉดหัวออกไป สมมติว่าอยู่ในกองทัพไม่ได้บอกใครว่าเป็นเกย์ แต่วันหยุดออกไปเที่ยวบาร์เกย์แล้วมีคนรายงานเข้ามาก็ซวย ก็ไม่มีใครถาม เจ้าตัวก็ไม่ได้บอก แต่เผอิญไปรู้มาเอง มันก็กลายเป็นนโยบายศรีธนญชัยไปนั่นเอง ตั้งแต่มีนโยบายนี้ปรากฎว่ากองทัพไล่คนออกด้วยข้อหาเป็นเกย์ไปกว่าหมื่นนาย
โอบามาเคยหาเสียงไว้ว่าจะยกเลิกนโยบายนี้ ได้แต่หวังว่าจะสำเร็จโดยเร็ว จะได้ไม่ต้องเห็นหลุมศพแบบข้างบนให้หดหู่ใจอีก
ทาง EU ส่วนใหญ่เขาให้ LGBT เข้ากองทัพได้โดยเปิดเผยแล้ว (หมายถึงเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่) ยกเว้นกรีก (ไม่น่าเชื่อว่าประเทศที่มีอารยธรรมผูกพันกับเรื่อง homosexual มากมาย จะปึกได้ขนาดนี้)
ข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับ don't ask, don't tell จากวิกิ
ปล. ยัง ไม่เคยได้ยินเรื่องกองทัพไทยไล่เกย์ออก เคยได้ยินแต่ที่ระบุลงในใบส.ด.ของสาวประเภทสองที่ไปเกณฑ์ทหารว่าเป็น "โรคจิต" หรือ "จิตวิปริต"(ปัจจุบันเปลี่ยนแล้ว) เล่นเอาเขาไปสมัครงานไม่ได้เลย เพราะผู้ป่วยทางจิตถือเป็นบุคคลไร้ความสามารถ จะประกอบอาชีพหรือทำธุร/นิติกรรมเองไม่ได้ ...ก็อุบาทว์พอกัน (แต่หลังการฟ้องร้องของบรรดานักเคลื่อนไหวฯ ก็เปลี่ยนจากโรคจิตมาเป็น "หน้าอกไม่ได้ขนาด" แทนแล้ว)
ขอบคุณบทความดีๆจาก :
http://pisces.exteen.com/20090524/entry
ภาพจาก : GooGle